น่าตายนัก....
นี่เขาจะบีบคอนางให้ตายรึไง?
โหลชีจับข้อมือเขาแน่น พยายามบีบมือเขาออก ไม่คิดว่าเขาได้รับบาดเจ็บภายในหนักหนาขนาดนี้ กำลังภายในหายหมดเกลี้ยงแล้ว ยังมีแรงที่มือมากขนาดนี้!
"แค่กแค่ก...."
นางโดนบีบคอจนไอค่อกแค่ก ถลึงตาใส่เขาอย่างทนไม่ไหว "ท่านอยากฆ่าข้ารึ?"
เฉินซ่าสายตาเคร่งเครียด "เจ้ามันน่าตายนัก กลืนทุกอย่าง..."
"หยุดก่อนหยุดก่อน ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ข้าดูดซึมดวงใจน้ำพุนั่นหมดแล้ว!"
สองมือโหลชีทำเป็นรูปกากบาทต่อหน้าเขา "ถ้าท่านบีบคอข้าอีก ข้าจะไม่เกรงใจท่านแล้วนะ"
"ไม่เป็นไร?" ในแววตาเฉินซ่ามีความสงสัยเต็มเปี่ยม
"ไม่เป็นไรจริงๆ มีอะไรขึ้นมาข้าจะยังมานั่งพูดเรื่องนักพรตเลวกับท่านเป็นนานสองนานอย่างนี้?" โหลชีทำหน้าหน่ายใจ "เฮ่อเหลียนเจี๋ยบอกว่าข้าอาจจะเป็นร่างทะเลแห่งยา คือรับยาอะไรเข้าไปก็ดูดซึมซับจนหมด"
เพียงแต่นางไม่รู้ว่าร่างกายแบบนี้คือเป็นร่างกายแต่เดิมของนาง หรือแช่ยามานานหลายปีแล้วเปลี่ยนไป
เฉินซ่าถอนหายใจโล่งอก เขากลัวจริงๆ
"ข้าไม่ได้ตั้งใจกลืนเจ้านั่นลงไปนะ มันเป็นเหตุบังเอิญ" โหลชีเล่าเรื่องบังเอิญนั่นให้เขาฟัง และพูดถึงเฮ่อเหลียนเจี๋ย
"ท่านรู้เรื่องกุญแจโอสถน้ำพุ?"
เฉินซ่าเงียบงันไปชั่วครู่ถึงบอกว่าเขาได้ยินเรื่องกุญแจโอสถน้ำพุมาจากที่ไหน
พ่อแม่ของเขา ตอนนี้น่าจะเรียกว่าพ่อแม่บุญธรรม เคยพูดกันในห้องตอนเขาเป็นเด็ก แล้วเขาไปได้ยินเข้า ครั้งนั้นพวกเขากำลังพูดเรื่องกุญแจโอสถน้ำพุ
"ความหมายของท่านคือ พวกเขาก็กำลังตามหากุญแจโอสถน้ำพุ?"
พอฟังเฉินซ่าเล่าจบ โหลชีตกใจมาก กระโดดผลุงขึ้นมา "ท่านหมายความว่า เดิมพวกเขาก็กำลังตามหากุญแจโอสถน้ำพุ?"
"ใช่"
เฉินซ่าพยักหน้าบอก "พวกเขาสืบได้ว่ากุญแจโอสถน้ำพุอยู่ที่พั่วอวี้ ดังนั้นเลยมาพั่วอวี้ แต่พั่วอวี้ใหญ่มากเกินไป ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนแน่ ได้แต่อาศัยพำนักที่นี่ไปก่อนแล้วค่อยๆหา เพียงแต่จวบจนพวกเขาเกิดเรื่อง ก็ยังไม่ได้บอกข้าว่าทำไมถึงตามหากุญแจโอสถน้ำพุ"
และไม่ได้กำชับให้เขาตามหากุญแจโอสถน้ำพุต่อด้วย
เป็นเพราะแบบนี้ เขาจึงไม่ได้ตามหาต่อ และไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เพียงแต่จำได้ว่าตอนนั้นพวกเขาพูดถึงว่า ถ้าเกิดเผลอกินดวงใจน้ำพุลงไปจะเกิดอะไรขึ้น
ฤทธิ์ยาระเบิด ความทุกข์ทรมานทั้งหมดหลอมรวมกัน อวัยวะภายในจะเจ็บปวดถึงขีดสุด อาเจียน ท้องเสีย เลือดออกเจ็ดทวาร จากนั้นเจ็บปวดทุกข์ทรมานจนตาย
ดังนั้นตอนที่ได้ยินโหลชีพูดว่ากลืนกุญแจโอสถน้ำพุเข้าไป หัวใจเขาแทบหยุดเต้น
"ดูท่ากุญแจโอสถน้ำพุน่ะเป็นสมบัติล้ำค่าที่สำคัญมากของแผ่นดินใหญ่หลงหยิน" โหลชีบอก "เฮ่อเหลียนเจี๋ยจะต้องพาข้าไป คงเพราะต้องการฤทธิ์ยานั่น เขาจะไปที่แห่งหนึ่ง ต้องการกุญแจโอสถน้ำพุ พ่อแม่บุญธรรมของท่านก็ต้องการกุญแจโอสถน้ำพุ นี่หมายความว่าที่แห่งนั้นมีของสำคัญมาก หรือมีคนที่สำคัญมาก?" ความคิดของนางคือ ต่อไปเวลาไปแผ่นดินใหญ่หลงหยิน ต้องไปหาที่แห่งนั้นสักหน่อย บางทีอาจจะมีข่าวเกี่ยวกับพ่อแม่แท้ๆของเขาก็ได้
เฉินซ่าสีหน้าเคร่งขรึมลง "มีข้าอยู่ ไม่มีทางให้ใครพาตัวเจ้าไปแน่"
โหลชีจะพูดต่อ สีหน้าเฉินซ่ากลับดำทะมึนขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าไม่อยากคุยเรื่องนี้ต่อแล้ว โหลชีเหลือบตามองบน ก่อนเปลี่ยนเรื่อง
"ตอนนี้กำลังภายในท่านหมดสิ้น แถมบาดเจ็บภายในไม่น้อย ต่อไปนี้ห้ามท่านใช้กำลังภายในอีก"
เฉินซ่าเหล่นาง "ต่อไปข้าจะกำราบเป็นหน้ากลองให้ทั่วทุ่งป่าเถื่อนของพั่วอวี้"
คืนนี้การไล่ฆ่าของอำนาจเหล่านั้นทำให้เขาเดือดจัด ต่อไปเขาจะทำทัพออกศึก ครั้งนี้จะกำราบเป็นหน้ากลองไปให้ทั่วทุ่งป่าเถื่อนของพั่วอวี้ รวบทั่วทั้งพั่วอวี้มาไว้ในมือ
จากนั้น สร้างแคว้น
สร้างแคว้นก็เพื่อแต่งตั้งนางเป็นจักรพรรดินี
พอแต่งตั้งนางเป็นจักรพรรดินี เขาจึงจะสามารถครอบครองนางได้ทั้งตัว
โหลชีถลึงตาใส่เขา "นั่นก็ต้องรอท่านรักษาอาการให้ดีก่อน! แล้วดัชนีมารล้างผลาญมันเรื่องอะไรกัน?"
ดัชนีมารล้างผลาญได้รับการสอนจากพ่อบุญธรรมของเขา แต่ตัวพ่อบุญธรรมใช้ไม่เป็น เพียงแค่มอบเคล็ดวิชาให้เขา บอกว่าเป็นวิทยายุทธ์ที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษของตระกูลเฉิน แต่พอเขาเรียนรู้เป็นแล้ว หากมิถึงคราวจำเป็นห้ามใช้ เพราะดัชนีมารล้างผลาญต้องการกำลังภายในที่เหนือล้ำมากจึงจะใช้ได้ พวกเขาเองก็ไม่คิดว่า หลังจากพวกเขาตายไปแล้ว วิทยายุทธ์ของเฉินซ่าจะพุ่งสูงขึ้นเร็วขนาดนี้ เฉินซ่าแค่อาศัยเคล็ดลับวิชาก็สามารถเรียนรู้ได้เอง แต่กลับไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มันเลย เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่แท้จริง เฮ่อเหลียนเจี๋ยเป็นคนแรก
"สรุปแล้วข่าวเรื่องท่านได้รับบาดเจ็บข้ากดทับมันไว้ก่อนแล้ว ข้าจะฝึกทำยาแข็งจิตที่พัฒนาแล้วให้ท่าน"
นี่เป็นความคิดบังอาจในคืนนี้ของโหลชี เมื่อก่อนตอนนางเห็นไอ้ตาเดียวกินยาแข็งจิตก็ได้กลิ่นส่วนผสมยาหลายชนิด นางพอคาดเดาได้ผสมการดมกลิ่นว่ายาแข็งจิตจะมีส่วนผสมอะไรบ้าง และบางกลิ่นก็รู้ว่าเป็นส่วนผสมอะไรนั้น หนึ่งในนั้นรวมถึงหญ้าเทียนจี
หญ้าเทียนจีนางมี ตัวอื่นที่ไม่มีนางก็ใช้อย่างอื่นแทนที่ได้ ครั้งก่อนของดีที่เอามาจากหุบเทพมารยังมีไม่น้อยเลย
เฉินซ่าอึ้งเล็กน้อย
ยาแข็งจิตไม่ใช่อะไรที่ฝึกได้ง่ายๆ ไม่งั้นมันคงไม่มีราคาแพงเยี่ยงนี้
แต่บางครั้งโหลชีก็ดื้อดึงยิ่ง สิ่งที่นางไม่ได้บอกเฉินซ่าคือ ยาแข็งจิตที่นางอยากได้แตกต่างกับยาแข็งจิตในโลกนี้
"โหลวซิ่น! หุบปากซะ!"
เฉิงสิบถลึงตาใส่เขา ใช้มือเดียวหิ้วคอเสื้อเขาถอยห่างโหลชี สีหน้าเขาแดงก่ำ แต่ดูออกว่าไม่ใช่เพราะอาย เป็นเพราะโกรธต่างหาก
เฉิงสิบโกรธจัด
มันช่างหายากนัก โหลชีมองดูเขาพลางเลิกคิ้ว นางมีหรือจะไม่เข้าใจความหมายของโหลวซิ่น ดูท่าอิ้นเหยาเฟิงจะชอบเฉิงสิบเข้าแล้ว ดังนั้นเลยอยากอยู่ใกล้เขา นี่ก็ไม่แปลก ด้วยหน้าตาของเฉิงสิบ นอกจากเฉินซ่าแล้ว เพิ่มเฮ่อเหลียนเจี๋ย แล้วก็เยว่เข้ามา ก็ไม่มีใครหน้าตาดีไปกว่าเขาแล้ว
และบนตัวเฉิงสิบยังมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกับเฉินซ่า นั่นก็คือเย็นชา
ผู้ชายเย็นชาน่ะมักจะดึงดูดผู้คนเสมอ
"เฉิงสิบไม่ชอบอิ้นเหยาเฟิง?" โหลชีถามขึ้น อิ้นเหยาเฟิงเองก็หน้าตาไม่เลว และการอยู่ด้วยกันในหลายวันนี้นางมองออกว่า จิตใจและนิสัยของอิ้นเหยาเฟิงไม่เลวเลย
"แม่นาง ข้าน้อยเพียงอยากติดตามแม่นาง ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย!"
"ข้าไม่ได้ห้ามพวกเจ้ามีเรือนนี่ ถ้ามีสตรีที่ถูกใจก็พูดมาได้เลย"
"ข้าน้อยมิได้มีความคิดเยี่ยงนั้น ขอแม่นางต่อไปอย่าได้กล่าวถึงอีก!" เฉิงสิบพูด และสะบัดโหลวซิ่นออก เดินก้าวใหญ่ออกไป
โหลชีกับโหลวซิ่นมองสบตากัน เข้าใจโดยไม่ต้องพูด
"แม่นาง เฉิงสิบโกรธแล้วจริงๆน่ะ" โหลวซิ่นมือเกาท้ายทอย
โหลชียักไหล่บอก "ดูแล้วใช่ เอาล่ะ เขาไม่พอใจเรื่องนี้เจ้าก็อย่าพูดถึงอีกเลย ระวังเขาชกเจ้า" พูดจบ นางหมุนตัวจะไปเขียนจดหมาย ต้องให้เยว่ส่งคนพาหมอเทวดามา ให้หมอเทวดาส่งยาที่นางต้องการมาให้ จะได้มาช่วยนางด้วย การทำยาแข็งจิตครั้งนี้ นางมั่นใจแค่หกสิบเปอร์เซ็นต์
"แม่นางต้องคุ้มครองข้าน้อยนะ..."
โหลวซิ่นร้องโหยหวน โหลชีเหล่มองเขาอย่างหน่ายใจ
เฉิงสิบออกจากเรือน ก็เห็นอิ้นเหยาเฟิงยืนอยู่ใต้ต้นไม้ด้านหน้า มองมาทางนี้พอดี พอเห็นเขาออกมา นางส่งยิ้มเขินอายให้เขา
"พี่เฉิง ต้องไปทำสิ่งใดใช่หรือไม่? ให้เหยาเฟิงช่วยเถิด"
"ไม่ต้อง" เฉิงสิบตอบอย่างเย็นชาออกมาหนึ่งคำก่อนย่ำเท้าก้าวใหญ่จากไป
อิ้นเหยาเฟิงมองตามแผ่นหลังเขา กัดริมฝีปากแน่น
พอส่งจดหมายออกไป ในช่วงสายของวันนี้พวกโหลชีก็ได้ข่าวหนึ่ง ซึ่งทำให้โหลชีโกรธจัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ