ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 419

ดวงตาของจางมิ่งฉายแววหลงใหล "หากชีวิตของเจ้าถูกกำหนดให้เต็มไปด้วยเลือด ชีวิตตกอยู่ในอันตรายได้ตลอดเวลา แล้วเจ้าว่าสิ่งนี้สำคัญและมีประโยชน์ หรือผลไม้อายุยืนมีประโยชน์?ยืดอายุไปอีกสักสองสามปีเจอศัตรูตัวฉกาจยังไม่ตายเหมือนเดิมหรือ?ไม่แน่ว่าบางทีอาจจะอยู่ได้เป็นร้อยปี เพิ่มอายุอีกหน่อยก็เป็นแค่ความไม่จำเป็น แต่ถ้าเจ้าเจอศัตรู แล้วปะทะกันบาดเจ็บสาหัส ถึงจะกินผลมุกแก้วไปอีกร้อยเม็ด พันเม็ด ก็ไม่มีความหมายแล้ว เพราะนั่นมันไม่สามารถรักษาได้! ในเวลานั้น ไม่สู้ได้ของสิ่งนั้นมารักษาชีวิตยังจะสำคัญกว่า! "

ยิ่งเขาพูด แสงในดวงตาของเขายิ่งเจิดจ้า มันคือแสงแห่งความโลภ เป็นแสงแห่งความโหยหา แต่เขาพบว่ายิ่งเขาพูดใบหน้าของจ้าวหยุนก็ยิ่งน่าเกลียดมากขึ้นเท่านั้น

ในที่สุดจางมิ่งก็ตระหนักว่ามีความผิดปกติ เขาขมวดคิ้วแล้วมองไปที่จ้าวหยุน "เจ้าเป็นอะไร?อย่าบอกนะว่าเฉินซ่าและนังเด็กโหลชีก็พบสัตว์ตัวนี้ด้วย!"

ก่อนที่จ้าวหยุนจะได้พูดอะไร เขาก็ส่ายหัว "แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ปลาดุกเทพนั้นดุร้ายมาก ถึงแม้พวกเขาจะมองเห็น พวกเขาก็คงจะหลีกเลี่ยง เป็นไปไม่ได้ที่จะไปกระตุ้นให้สิ่งนั้นออกมา"

จ้าวหยุนหวนฉายภาพที่สัตว์ประหลาดตัวนั้นกระโดดขึ้นมาจากน้ำแข็งเป็นภาพๆ จากนั้นมันก็แค่อยากตกกลับไปในน้ำนั้น คาดว่าทำมันตกใจถึงได้ทะลุน้ำแข็งออกมา...

แต่ว่าผงยาที่เขาโยนออกไปนั้นมีผลเย้ายวนกับสัตว์เกือบทุกชนิดและทำให้พวกมันคลั่งไคล้มาก ตอนนั้นเขาจะทันคิดอะไร? แค่คิดว่าสัตว์ตัวนั้นใหญ่โตและคงจะยากที่จะจัดการ ดังนั้นเขาจึงอยากจะพามันไปหาเฉินซ่าและพวกเขา!

ใครจะคิดว่ามันคือปลาดุกเทพ? ใครจะคิดว่ามันจะมีสรรพคุณทางยามากมายขนาดนั้น?

ถ้าเขารู้ เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะมอบมันให้เฉินซ่าและพวกเขาเปล่าๆ

บัดซบ นี่เขาถูกกระตุ้นหรือ?

แค่เฉินซ่าและโหลชี พวกเขาต้องสามารถคว่ำสัตว์ตัวนั้นได้แน่นอน!พวกเขาต้องชนะแน่นอน!

"ข้าว่า จ้าวหยุน ปลาดุกเทพนั่นคงไม่ถูกพวกเขาจับไปใช่ไหม?" จางมิ่งสั่นสะท้าน พบว่าตัวเองไม่สามารถยอมรับความจริงข้อนี้ได้เลย หากเป็นเช่นนี้จริงๆ เขาคงจะเป็นบ้าแน่ๆ ข้างหน้ามีสมบัติล้ำค่าแต่เขากลับไม่รู้ จุดประสงค์หลักในการมาของเขาในครั้งนี้คือปลาดุกเทพ! เพราะนี่คือสิ่งที่นายท่านต้องการมากที่สุด!

ใบหน้าที่หล่อเหลาของจ้าวหยุนบิดเบี้ยวเล็กน้อยเขาจะบอกความจริงเรื่องนี้ได้อย่างไร หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาพูดอย่างเคร่งขรึม "ตอนที่ข้าจากมา เฉินซ่าและโหลชีกำลังต่อสู้กับปลาดุกเทพตัวนั้น ส่วนผลลัพธ์นั้น ข้าไม่เห็น" นี่ไม่ถือเป็นคำโกหก เขาแค่ไม่ได้พูดว่าปลาดุกเทพตัวนั้นต่อสู้กับพวกเขาได้อย่างไรเท่านั้น

"อะไรนะ?" จางมิ่งกระโดดขึ้น "แม่เจ้าสิ!ทำไมเจ้าถึงไม่หยุดเขา?ทำไมไม่แย่งมา?"

ถึงแม้จ้าวหยุนละอายใจอยู่บ้าง แต่เมื่อโดนตวาดใส่แบบนี้ ก็หงุดหงิดขึ้นมา สีหน้าขรึม "จางมิ่ง ทางที่ดีเจ้าพูดให้มันเกรงใจกันหน่อย เจ้าพูดว่าเจ้าเอาชนะเฉินซ่าไม่ได้ ข้าก็ต้องเอาชนะให้ได้?ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโหลชีอีก"

จางมิ่งหายใจออกอย่างแรง เดินวนอยู่กับที่ "ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ต้องได้ของสิ่งนั้นมา! ข้าจะกลับไปดูเดี๋ยวนี้ พวกเขาอาจจะไม่รู้ถึงความล้ำค่าของของสิ่งนั้น ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะมองแค่ว่าเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งเท่านั้น เมื่อต่อสู้ชนะพวกเขาก็คงไม่แบกสัตว์ประหลาดตัวใหญ่เช่นนี้ไปด้วย ต่อสู้แพ้พวกเขาก็คงหลบไม่พ้น"

"ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล" ที่จริงจ้าวหยุนก็คิดเช่นนี้ ถึงแม้ว่าโหลชีจะมีความเข้าใจเรื่องยาสมุนไพรเป็นอย่างดี แต่ของแบบนี้ เขาที่เป็นนายน้อยจ้าวแห่งโรงพรรณยาก็ไม่เคยได้ยิน นับประสาอะไรกับนาง?

ถ้าหากปลาดุกเทพมีความวิเศษอย่างที่จางมิ่งพูดจริง เขาเองก็ต้องการมัน ปลาดุกเทพตัวใหญ่ขนาดนี้ ถึงจะต้องแบ่งกับจางมิ่งคนละครึ่ง นั่นก็ไม่น้อยแล้ว

"ได้ พวกเรากลับไปดูกัน"

ในเวลานี้ทั้งสองคนมีผลลัพธ์ในใจเพียงสองอย่าง หนึ่งคือพวกของเฉินซ่าชนะ บนน้ำแข็งมีศพของปลาดุกเทพกำลังรอให้พวกเขาไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างเงียบๆ แน่นอนว่านั่นคือผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สองคือโหลชีและคนอื่นๆแพ้ แล้วก็วิ่งหนีไป อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องล่อให้ปลาดุกเทพออกมาอีกรอบ แล้วต่อสู้ไปอีกสามร้อยครั้ง ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะยากและอันตรายมาก แต่ด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองคน ก็ไม่แน่ว่าจะฆ่ามันไม่ได้

ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงตั้งตารอ

เมื่อพวกเขามุ่งหน้าไปทางทะเลสาบแก้วน้ำแข็งอีกครั้ง ระหว่างทางเฉินซ่าและคนอื่นๆก็เดินผ่านพวกเขาไป โดยมีเพียงเนินเขาที่แหลมคมอยู่ตรงกลาง เนินเขาซ้อนกันอยู่ตรงกลาง ถนนสองสายนี้ตัดผ่านทั้งสองข้างมาบรรจบกันที่ด้านหน้าและด้านหลัง แต่ก็คลาดกันตรงนี้พอดี ที่ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นอีกฝ่าย

เฉินซ่าและโหลชีกลัวว่าข้างหน้าจะมีของดีถูกจางมิ่งและจ้าวหยุนเอาไปก่อน พวกเขาจึงเดินทางไปยังแสงนั่นโดยไม่หยุดพัก

จ้าวหยุนและจางมิ่งมาถึงทะเลสาบแก้วน้ำแข็ง จากระยะไกลดูเหมือนว่าจะมีสัตว์ร้ายนอนอยู่บนนั้น แต่รอบๆไม่มีใครอยู่

"เฮ้" จางมิ่งดีใจ "คิดไม่ถึงเลยว่าเฉินซ่าและโหลชีจะมีวรยุทธ์ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาฆ่าปลาดุกเทพได้ในเวลาอันรวดเร็ว! ฮ่าๆๆพวกเราสองคนนี่โชคดีจริงๆ เร็ว รีบไปเก็บเมือกของปลาดุกเทพ"

จ้าวหยุนยกยิ้มมุมปากขึ้น เขาก็ไม่รู้ว่าเขามีความสุขรึเปล่า ในใจเขารู้สึกผิดหวังกับโหลชีเล็กน้อย ถ้าหากนางรู้ว่าสิ่งนี้เป็นของดี เขาก็อาจจะรู้สึก...ภูมิใจในตัวนาง?

แต่ถ้านางชิงเอาของไป เขาก็คงจะรู้สึกโกรธ

เฮ้อ อารมณ์งี่เง่าของหยุนเฟิงคงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาอีกกระมัง?

จางมิ่งไม่ได้คิดมากอย่างที่เขาคิด เขารู้สึกปลาบปลื้มเมื่อเห็นสิ่งนั้นแล้วรีบวิ่งไปที่ผิวน้ำแข็งทันที

แต่เมื่อพวกเขาวิ่งเข้ามาใกล้ ความสุขบนใบหน้าก็หยุดนิ่งในทันใด

"ไม่ ไม่ๆๆ นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง!"

นี่ราวกับเป็นยาวิเศษที่ขัดต่อฟ้า หญ้าเทียนจี ผลไม้แดงตะวันอะไรล้วนเทียบมันไม่ติดฝุ่น!ยิ่งกว่านั้น นางเก็บสิ่งนี้ได้ถึงสามสิบขวด! ตอนนี้นางแบกอยู่ยี่สิบขวด แล้วเฉิงสิบก็มีอยู่สิบขวด

นางได้ทดสอบกับหลินเสิ้งเวยแล้ว และยังให้เฉิงสิบกับหวูเสี้ยวหยู่กินไปคนละหยดอาการบาดเจ็บภายในของพวกเขาที่เกิดจากเสียงคำรามของสัตว์นั้นก็หายเป็นปกติหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม

คราวนี้ทำไมนางยังต้องตามสัตว์น้อยตัวนั้นที่วิ่งหายไปไม่ทิ้งร่องรอยแล้ว? อีกอย่าง ตอนที่จากมานางยังให้เฉินซ่าเล่นตุกติกกับผิวน้ำทะเลสาบนิดหน่อย กระแทกผิดน้ำแข็งผืนใหญ่ที่อยู่ด้านล่างสัตว์ตัวนั้น ถ้าใครบางคนกลับไปอีก ต้องตกลงไปแช่น้ำแข็งเป็นแน่

และที่ได้มาอีกอย่างหนึ่งก็คือนางได้พิสูจน์ความภักดีและเนื้อแท้ของหลินเสิ้งเวยและหวูเสี้ยวหยู่ แล้วมีของดีขนาดนี้พวกเขาก็ไม่ได้แสดงความโลภออกมา ก็พอพิสูจน์ได้ว่าสองคนนี้ใช้ได้

เฉินซ่ากลับมาอย่างรวดเร็ว และโบกมือให้โหลชี "มานี่"

โหลชีเดินไปทางนั้น "มีอะไร?"

เขาจับมือนางและหยิบผลไม้สีแดงสดมาหนึ่งกำมือ "กิน"

"เจ้ามาที่นี่เพื่อเก็บผลไม้ให้ข้าใช่ไหม?"

"ไม่ได้หรือ?" เฉินซ่าเลิกคิ้วขึ้น เมื่อสักครู่เขาได้กลิ่นหอมหวานของผลไม้นี้แล้ว เขาจึงคิดว่าจะเด็ดมันให้นาง ผลไม้ชนิดนี้ชื่อลูกพุ ฉ่ำและหวานมาก แต่โดยปกติแล้วจะมีเพียงหนึ่งหรือสองลูกบนต้นไม้ หายากมาก และเขาจึงเก็บทุกลูกที่เขาเจอ

"ได้แน่นอน!" โหลชีเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้เขา ในมือมีผลไม้อยู่ห้าลูก "พอดีเลยหนึ่งลูกต่อหนึ่งคน" โหลชีพูดว่าจะแบ่งให้เฉินซ่าและคนอื่นๆ สีหน้าของเฉินซ่าก็ขรึมลงทันที

"ข้าเก็บให้เจ้า มีแต่เจ้าที่กินได้"

เขาจะไปเก็บให้คนอื่นทำไมกัน? นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่เขาทำเรื่องแบบนี้ นางยังกล้าแบ่งปันให้คนอื่น?

โหลชีตกตะลึง เห็นเฉิงสิบและคนอื่นๆปลีกตัวอย่างรวดเร็ว "พระสนม กระหม่อมจะไปหาน้ำทางนั้น!"

ทำเป็นเล่น พวกเขาจะกล้ากินที่ไหน?!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ