ทีแรกโหลชีอยากใจดำถีบเขาออก แต่ในตอนแรกเขากดนางระหว่างแผ่นอกและต้นไม้แน่น แน่นจนไม่มีร่องสักนิด จากนั้นนางก็ถูกเขาจูบจนสมองเบลอนิดๆ เนื้อตัวอ่อนยวบ มือที่แต่เดิมดันอยู่ตรงบ่าเขาก็คล้องคอเขาอย่างไม่รู้ตัว ไหนเลยจะมีเวลาปฏิเสธ
เมื่อเทใจไปแล้ว แม้เป็นช่วงสงครามเย็น นางก็ยังคิดถึงรสจูบของเขา
กระทั่งนางได้สติ ถึงได้อายจนโกรธทุบแผ่นอกส่วนบนของเขา
เห็นท่าทางพวงแก้มแดงสดงดงามของนางแล้ว เฉินซ่าก็อดไม่ได้ที่จะขบริมฝีปากนางอีก
"ข้าเจ็บหลัง!" โหลชีค้อนใส่เขา น้ำเสียงอ่อนหวานลงหลายส่วน ตาคนนี้นี่ พอจูบขึ้นมาก็ไม่สนอะไร เอาแต่กดตัวนางอยู่ได้ หลังนางแนบกับต้นไม้ ต้นไม้หยาบกร้าน ถูจนเจ็บเสียดขึ้นมาบ้างแล้ว ลำพังนางเอง ความเจ็บชนิดนี้จะว่าเจ็บไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ในอ้อมอกเขา นางจึงอดบอบบางบ้างไม่ได้
เฉินซ่าเอ็นดูจริง อุ้มนางขึ้นมาอย่างกับอุ้มเด็ก ให้นางนั่งอยู่ตรงท่อแขนของเขา แล้วเข้าไปจุมพิต แม้ร่างกายจะเกร็งจนไม่สบาย แต่นี่ก็เป็นความทรมานอันหวานชื่น
โหลชีอายจนโกรธ "วางข้าลง" อุ้มแบบนี้นางเหมือนอะไร? นางไม่ใช่เด็กสักหน่อย ถึงนางร่างบาง ถูกเขาที่สูงใหญ่ยกตัวอ้อนแอ้นก็ไม่แปลก แต่นางไม่ใช่เด็กนี่
"ไม่วาง" เฉินซ่าอุ้มนางเดินไปทั้งอย่างนี้ ออกจากป่าผืนน้อยก็เป็นถนนใหญ่ ถึงตรงนั้นแล้วค่อยวางนางลงแล้วกัน
โหลชีดิ้นตัวสองสามที เฉินซ่าปวดหัวเล็กน้อย "ขืนเจ้าดิ้นอีก ไม่แน่ว่าข้าจะควบคุมอยู่นะ"
"เมื่อก่อนข้าไม่ยักรู้ว่าท่านไร้ยางอายเช่นนี้" โหลชีบ่นเสียงหนึ่ง ไม่กล้าขยับอีก ครั้งแรกที่นางตกสู่อ้อมอกเขา เขาก็มิใช่ไม่มีความรู้สึกหรือ?
เฉินซ่าพูดหน้านิ่ง "กินกาม สัญชาตญาณปกติ"
โหลชี "..."
ทำท่าพูดอย่างกับมีเหตุผลอย่างนั้นแหละ
กริ๊งๆ
เสียงกระดิ่งกังวานใสแว่วมา พวกเขาออกจากป่าต้นเฟิงแล้ว ถนนใหญ่ก็อยู่ตรงหน้า ที่ไม่ไกล มีรถม้ากำลังแล่นมาช้าๆ สี่มุมของรถม้าแขวนกระดิ่ง เสียงดังมาจากตรงนั้นนั่นเอง
ด้านหน้ามีม้าสี่ตัว ตรงกลางเป็นรถม้าหรูหราสองคันใหญ่ และมีรถม้าที่ธรรมดาและเล็กหน่อยอีกสองคัน ด้านหลังมีม้าอีกสี่ตัวตามมาติดๆ อานม้าล้วนงามตระการตาหาใดเปรียบ
โหลชีเลิกคิ้ว ถาม "ท่านรู้ไหมว่ารถม้านี่มาจากที่ไหน?"
เส้นทางสายนี้ไปยังเขาเวิ่นเทียนได้เท่านั้น ผู้ที่มามีแต่ไปร่วมงานวันเกิดของผู้อาวุโสใหญ่ที่เขาเวิ่นเทียน
เฉินซ่ามองแล้วเอ่ย "อุทยานเขาธนูเทพ"
อุทยานเขาธนูเทพ? โหลชีเอ๊ะเสียงหนึ่ง นางนึกขึ้นมาได้ อุทยานเขาธนูเทพก็มีคนไม่ลงรอยกับนางเหมือนกัน ตอนแรกที่เขาพิณใกล้เมืองชี ชิวชิ่นซูคุณหนูสามบุตรอนุแห่งอุทยานเขาธนูเทพไม่ใช่พาคนจะมาสังหารนาง บอกว่ารับเงินแสนตำลึงเงินขาวจะเอาชีวิตนางหรือ?
เพียงแต่ตอนหลังผมของคุณหนูสามชิวถูกวู๊วูกระชากหลุดไปกำหนึ่ง สงสัยคงไม่มีหน้าพบเจอผู้คนต้องหลบอีกนาน ผู้ชายข้างตัวนางที่ใช้ธนูนำวิถีเป็นยังนัดนางไปดูการแข่งขันทักษะธนูที่อุทยานเขาธนูเทพอีกหนึ่งเดือนให้หลัง?
เสียแต่นางมีธุระมากเกินไป ลืมไปนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าตอนนี้คนของอุทยานเขาธนูเทพก็มาด้วย ไม่รู้ว่าสามคนที่นางรู้จักในตอนนั้นจะมาด้วยหรือเปล่า? หากมา นั่นก็เป็นการรวมตัวใหญ่ของคู่อริ ครั้งนี้ต้องสนุกกว่าเดิมแน่
"ตอนนั้น อุทยานเขาธนูเทพไม่ได้ส่งคนมาเชิญเจ้าไปร่วมการแข่งทักษะยิงธนูหรือ? ไยท่านไม่ไปร่วมเล่า?"
เฉินซ่าเอ่ย "ข้าไม่คิดไปร่วมงานของพวกเขา"
โหลชียิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "แต่ข้าได้ยินว่าอุทยานเขาธนูเทพเป็นบ้านมารดาของท่านแม่ซู่หลิวอวิ๋น หรือก็คือน้าของนาง?"
เจ้าไม่ใช่อยากปกป้องซู่หลิวอวิ๋นหรือ?
เฉินซ่าฟังออกว่าถ้อยคำนางผิดปกติ จึงขยับเข้าไปทันที กัดริมฝีปากนางหนหนึ่ง ตวัดลิ้นของนางดูดแรงๆ ทำจนนางรักษาอารมณ์ยิ้มเหมือนไม่ยิ้มไม่อยู่ ใบหน้าร้อนขึ้นมาอีก แล้วถึงปล่อยนางด้วยความพอใจ "ต่อไปหากเจ้าสงสัยข้าอีก ข้าก็จะจัดการกับเจ้าเช่นนี้"
โหลชีเดือด "จัดการข้า?"
แต่ก่อนที่นางจะพองขน เฉินซ่าก็โอบนางแน่น ถอนหายใจเอ่ย "เป็นเด็กดีอย่าหาเรื่อง ถึงข้าจะไม่มีไมตรีกับซู่หลิวอวิ๋น เขาเวิ่นเทียนและเขาเฉินอวิ๋น แต่อาหญิงของซู่หลิวอวิ๋นเคยมีบุญคุณกับข้าจริง"
อาหญิงของซู่หลิวอวิ๋น? โหลชีตะลึง ลืมโมโห
"ตอนนั้นหลังจากข้าถูกผู้อาวุโสใหญ่ซัดสามฝ่ามือตกเขาหมอกพิษ นางก็แอบไปหาข้าที่นั่น ห่ออาหารแห้งกับยารักษาแผลหลายขวดให้ข้า อีกอย่าง...ที่ข้าออกมาจากที่นั่นได้ ก็สัมพันธ์กับอาหารแห้งและยารักษาแผลห่อนั้นอยู่มาก"
โหลชีรู้สึกแปลก "ซู่หลิวอวิ๋นอยู่ที่เขาเฉินอวิ๋น ตอนนั้นท่านอยู่ที่เขาเวิ่นเทียน อาหญิงของนางจะอยู่ที่เขาเวิ่นเทียนได้อย่างไร?"
เฉินซ่าส่ายหน้าเอ่ย "ที่จริงความสัมพันธ์ในนั้นข้าเองก็ไม่แน่ชัด แต่ความมีตัวตนของนางที่เขาเวิ่นเทียนน้อยมาก ถ้าไม่ใช่เพราะนางพูดออกมาเอง ข้าก็ไม่รู้ว่านางกับซู่หลิวอวิ๋นมีความสัมพันธ์ชั้นนี้ แต่...ตอนหลังนึกๆ ดูแล้ว นางน่าจะเป็นผู้หญิงเรือนหลังของผู้อาวุโสใหญ่"
ผู้อาวุโสใหญ่แห่งเขาเวิ่นเทียน แดนมนุษย์ล้วนร่ำลือเป็นดั่งเทพเซียน ที่จริงก็เป็นตระกูลสูงส่งมีอำนาจหนึ่งในโลกโลกีย์ เรือนหลังมีผู้หญิงหลายคน เพียงแต่ผู้หญิงเหล่านั้นมีโอกาสปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนน้อยนักเท่านั้น
หากโหลชีรู้ความคิดของพวกเขา ต้องชูนิ้วกลางให้พวกเขาแบบดูถูกแน่ นี่! ข้ามีเจ้าขาวที่เป็นยานพาหนะสุดหรูรู้ไหม? อีกอย่าง ถึงข้าจะเดิน แล้วเกี่ยวอะไรกับบั้นท้ายพวกเจ้า?
"ท่าน..."
"ฝ่าบาท"
เสียงขององครักษ์ด้านหน้าถูกเสียงบุรุษในรถม้าคันแรกสอดแทรกกลบทับมา ผ้าม่านรถม้าแง้มออก บุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งลงจากรถม้า ก่อนที่ผ้าม่านรถม้าจะตกลงมา โหลชีเห็นสตรีสูงศักดิ์ด้านในนามหนึ่ง
บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นสวมชุดผาวผ้าไหมสีเปลือกมังคุด ชุดผาวผ้าไหมหนามาก ยัดนุ่นไม่น้อย ตรงลำคอยังพันผ้าพันคอขนสัตว์สีเหลืองน้ำตาลอีกผืนหนึ่ง
ยามนี้เป็นกลางสารทฤดู แต่ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน แสงอาทิตย์อบอุ่นมาก สวมแบบนี้ บุรุษผู้นี้ต้องขี้หนาวเพียงไร? โหลชีมองสีหน้าและดวงตาเขาโดยสัญชาตญาณ จากนั้นก็เลิกคิ้ว
แต่ นางย่อมไม่ยุ่งเรื่องคนอื่น เพียงแต่ถอยหลังครึ่งก้าว ยืนข้างเฉินซ่า
"ชิวเข้อ เจ้าบ้านสามแห่งอุทยานเขาธนูเทพคารวะฝ่าบาท เด็กๆ ตาไร้แวว ล่วงเกินฝ่าบาท ขอทรงประทานอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ" บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นว่าแล้วทำหน้าขรึมกับเหล่าองครักษ์ที่ล้อมเข้ามาเมื่อครู่ ตวาดเสียงหนึ่ง "ยังไม่รีบไสหัวไปข้างหลังอีก!"
"ขอรับๆๆ!"
เหล่าองครักษ์ถอยไปอยู่หลังรถม้าคันที่สอง ก้มหน้า แม้แต่ชายตามองมาก็ไม่กล้าอีก
จักรพรรดิ จักรพรรดิแห่งพั่วอวี้? ชื่อเสียงอำหิตระบือทั่วแผ่นดิน พวกเขาเก็บชีวิตไว้ได้ก็ต้องดีใจมากแล้ว ไหนเลยยังกล้าไปข้างหน้าอีก?
ส่วนเจ้าบ้านสามแห่งอุทยานเขาธนูเทพ ลุงสามของนางฟ้าหลิวอวิ๋นแห่งเขาเฉินอวิ๋น ฐานะนี้ในแผ่นดินสี่ทิศไม่ด้อยเลยจริงๆ กับเฉินซ่า แม้เขาจะมีกิริยาเคารพนอบน้อม แต่แววตากลับไม่หวั่นเกรง
"เจ้าตาบอดหรือ? ที่พวกเจ้าล่วงเกินไม่เพียงกับข้า ยังมีสนมรักของข้าด้วย!" เฉินซ่าเอ่ยเสียงเย็นเยียบ
โหลชีกับชิวเข้อชะงักงันครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าที่เขาสนใจจะเป็นเรื่องนี้
เจ้าบ้านสามชิวหันไปทางโหลชีทันที ขณะจะพูด เฉินซ่าก็เอ่ยเสียงเย็นอีก "ข้าอนุญาตให้เจ้ามองนางแล้วหรือ?"
โหลชีชักไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีนิดๆ องค์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าจงใจแกล้งเขาใช่ไหม?
"คารวะพระสนม" ในดวงตาเจ้าบ้านสามชิวแวบความมืดมนเสี้ยวหนึ่ง เขาไม่ใช่คนของพั่วอวี้ ที่จริงไม่จำเป็นต้องลดตัวเช่นนี้ ในสายตาบุรุษที่มีฐานะเฉกเช่นพวกเขา นางสนมแคว้นต่างๆ ก็แค่มีฐานะสูงกว่าหญิงสามัญนิดหน่อยเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ