ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 524

พอคำนี้ร้องออกมา โหลชีพลันรู้สึกสะท้านเยือกในอก

เดิมนางคิดว่าหญิงขนขาวนี่ชอบผู้หญิง และไม่ไยดีผู้ชายเสียอีก ทั้งๆที่มีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตรมาหลายคน นางยังไม่ใส่ใจ กลับเอาแต่คิดถึงนาง...

ตอนนี้ฟังแล้ว นางไม่ใช่ชอบผู้หญิง แต่ชอบหนังหน้าผู้หญิง?

ชอบหนังหน้าผู้หญิงนี่จะทำอะไร?

เฉินซ่าอยู่ห่างจากโหลชีเพียงไม่กี่ก้าว พอโดนขัดขวางอีก ประกายอาฆาตในดวงตาเริ่มพุ่งสูง กระบี่แผ่ซ่านไอเย็นเยือกอำมหิตออกมาไม่น้อย ซัดใส่ใบหน้าหญิงขนขาวไปอย่างเต็มเหนี่ยว

"บุรุษ ล้วนน่ารังเกียจ หน้าตาแย่ก็เลว หน้าตาดีก็เลว พวกเจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าป้อนสาวงามนี่แหละ!"

หญิงขนขาวกรีดร้องไปพลาง ใช้สองแขนนางแทนไม้พลอง วาดร่ายรำเป็นวงกลมใส่เฉินซ่า นางเร็วมากแรงก็มาก และยังลงมือเร็วแรง สามารถหลบหลีกคมกระบี่ของกระบี่ดื่มเลือด พุ่งเข้าหาตัวกระบี่ มีหลายครั้งที่แขนปะทะกับกระบี่ดื่มเลือด ยังสั่นสะเทือนจนฝ่ามือของเฉินซ่าเริ่มชา

ตัวประหลาดขนขาวนี่ไม่อาจเรียกว่าคนได้แล้ว นางไม่เพียงเรี่ยวแรงมากเร็วมาก พรสวรรค์ด้านการต่อสู้ยังเห็นได้ชัดว่าสูงกว่าคนธรรมดามาก

ทำไมพวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีคนแบบนี้อยู่ด้วย?

พริบตาเดียว เฉินซ่าเองก็ไม่อาจสังหารนางอย่างรวดเร็วได้

เฮ่อเหลียนเจี๋ยเลิกคิ้ว และมองโหลชีหนึ่งที ความสนใจของนางทั้งหมดอยู่ที่เฉินซ่า ยืนข้างเขานี่กลับไม่ระแวงแม้เพียงนิด นี่คือคิดว่าเขาโดนขังอยู่ที่นี่และหมดหนทางแล้วงั้นรึ?

หางตาเขาปรายมองชิงยีพลางขมวดคิ้ว ส่งกระแสจิตถาม "หลานยีเล่า?"

ชิงยีกัดฟัน ดวงตาแดงเรื่อ "นายท่าน หลานยี เขาโดนเฉินซ่าฆ่าตายแล้ว!"

สายตาเฮ่อเหลียนเจี๋ยทอประกายเย็นเยียบขึ้นมา

แต่เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่ยื่นมือออกจากรอยแยกของก้อนหิน ยิงเส้นด้ายสีดำทองออกจากชายเสื้อข้อมือ ชิงยีรับปลายไว้ และใช้แรงตัดก้อนหินมหึมาที่บังอยู่ด้านหน้าเฮ่อเหลียนเจี๋ยออกทันที

พูดไปก็แปลก ก้อนหินที่ดูแข็งแกร่งมาก พอเจอเส้นด้ายนี้กลับเหมือนเต้าหู้ ไม่นานก็โดนตัดออก

ทั้งสองคนยกมือขึ้นตัดอีกชิ้นออก พริบตาเดียว ก้อนหินใหญ่มหึมานั่นก็โดนตัดทิ้งไปชิ้นใหญ่ ปรากฏช่องว่างเท่าตัวคนออกมา เพียงพอให้เฮ่อเหลียนเจี๋ยมุดร่างออกไป

เสียงเสือคำรามก้อง สะท้อนสะท้านแก้วหู สตรีขนขาวประหลาดนั่นกรีดร้อง เสียงตะคอกดังรัวๆ ในถ้ำนี่สะท้อนไปมา และเฮ่อเหลียนเจี๋ยก็เหลือแค่ตัดอีกเล็กน้อยก็ออกมาได้แล้ว

"เอาเจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่มาถลกหนังทำเบาะรองนั่งซะ!" ซวนหยวนฉงโจวโกรธจัดเมื่อเห็นเฉิงสิบโดนเสือขาวตวัดเล็บโดนที่หน้าอก เสื้อผ้าขาดวิ่นเป็นรอยเลือดซิบ เขายื่นมือหยิบพัดออกมา สะบัดคลี่พัด ด้ามพัดยิงมีดบินออกมา ตวัดซัดไปทางหัวเสือขาว

ความเร็วของเสือขาวเร็วมากจริงๆ โหลวซิ่นและอวิ๋นต่างได้รับบาดเจ็บ ซวนหยวนฉงโจวก็รู้สึกว่าจะยืดเยื้อต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เขาลงมือเต็มร้อย มีดบินจากตัวพัดแผ่ซ่านประกายเย็นเยียบเพราะได้รับกำลังภายใน มีสองใบพุ่งเข้าตาเสือขาว

เสือขาวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที มันสูญเสียความสามารถในการมองเห็นไป เลยชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง

เสียงโครมดังขึ้น น้ำบนนั้นไหลกรูลงมาราวกับฝนตก

"ตอนนี้แหละ องครักษ์อวิ๋น!"

อวิ๋นรับคำสั่ง ยกกระบี่ขึ้น ร่างลอยขึ้นสูง แทงเข้าไปในหัวเสือทันที! ในเวลาเดียวกัน ซวนหยวนฉงโจวก็สะบัดพัด มีดบินสะพัด เข้าไปในหัวเสือทั้งหมด

"โฮก!"

เสือขาวครานี้ร้องอย่างเจ็บปวดเหลือจะทน หญิงขนขาวร้อนรนยิ่งนัก รีบหันไปดูทันที ในตอนนี้เอง กระบี่ดื่มเลือดสะบัดพาดผ่านคอนาง

หญิงขนขาวตัวแข็งเกร็งไม่ขยับ หัวนั่นกลับค่อยๆเอียงลงช้าๆ เผยให้เห็นรอยแผลกรีดเรียบ หัวของนางหล่นลงพื้น กลิ้งหลายตลบ จนมาถึงเท้าโหลวซิ่น เขาสั่นเล็กน้อย เตะกระเด็นไป

เฉินซ่าเก็บกระบี่ เข้าฝักเสียงดังชิ้ง ไม่แม้แต่จะชายตาแลนาง พลางหมุนตัวเดินไปหาโหลชี จังหวะหมุนตัวเดินไปหาก็เห็นเฮ่อเหลียนเจี๋ยกำลังเบียดร่างออกมาตามรอยแยก และเขายังจับจูงโหลชี โหลชีกำลังดิ้นรน เขาโกรธจัดทันที ปราดร่างไปข้างโหลชีอย่างรวดเร็ว ซัดฝ่ามือใส่ด้านข้างหินมหึมาทันที

เสียงแคร่กดังขึ้น หินก้อนนั้นไถลหาเฮ่อเหลียนเจี๋ย และอุดช่องว่างนั่นไว้อีกครั้ง ส่วนฝั่งโหลชีกลับเกิดช่องว่างออกมา

"ปล่อยมือซะ บางทีข้าอาจจะยอมไว้ชีวิตเจ้า" เฉินซื่อดีดนิ้ว จี้จุดชิงยีกลางอากาศ "เขาด้วย ข้าฆ่าคนของเจ้าไปคนหนึ่งได้ ก็ฆ่าคนที่สองได้"

แววตาชิงยีวาวโรจน์ด้วยความโกรธ

ถ้าเฮ่อเหลียนเจี๋ยจะเลือก เขาไม่อยากปล่อยมือเลย เฉินซ่าเอาชิงยีมาเทียบกับโหลชี เขามีหรือจะไม่รู้ถึงความสำคัญของโหลชีในใจเขา?

แต่เขาไม่มีหนทาง เพราะเมื่อครู่ตอนเขาลากมือโหลชีก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตนโดนโหลชีวางยา ตอนนี้กำลังของเขาถดถอยอย่างรวดเร็ว

ไม่อยากปล่อยก็ช่วยไม่ได้

เขายิ้มเศร้า มองโหลชีพลางว่า "หากข้าตายในเงื้อมมือบุรุษของเจ้าได้ ชีวิตนี้ก็ถือว่ายกให้เจ้า เพราะเจ้าวางยาข้า ดังนั้นต้องเกี่ยวกับเจ้าไม่มากก็น้อย ชาตินี้เจ้าคงลืมข้าไม่ได้แน่"

เฉินซ่ากุมมืออีกข้างของโหลชีแล้ว ดึงนางเข้าหา โหลชีเลยเข้าไปในอ้อมกอดเขา ถึงเสื้อผ้าของทั้งสองต่างชื้น แต่การมีอีกฝ่ายในอ้อมแขนก็ยังสัมผัสได้ถึงความรุ่มร้อนชนิดหนึ่ง

เฉินซ่าลงมือแก้จุดให้นาง "เป็นกระไรหรือไม่?"

โหลชีส่ายหัว แต่ทนไม่ไหวเอื้อมมือบิดเนื้อที่เอวของเขา "เฝ้าข้าไว้ยังไงกัน?" ยังทำให้นางโดนคนอื่นลักพาตัวอีก

เขาแค่นเสียงเย็น พลางยื่นสายรัดเอวเส้นใหม่ด้วยสองมือให้กับโหลชี "ฮองเฮา เส้นใหม่ ไม่โดนคนน่ารังเกียจที่ไหนแตะต้องมาก่อน"

โหลชีแทบหัวเราะพรืดออกมา

ปัญญาอ่อนไหม? นางอยากถาม ผู้ชายพวกนี้ปัญญาอ่อนไปไหม? หา?

เฮ่อเหลียนเจี๋ยปรายตามองเศษผ้าที่สกปรกแล้วบนพื้น สายตามีประกายวาบผ่าน ยิ้มมุมปาก "องค์หญิงน้อย งั้นก็ไว้เจอกันใหม่"

ชิงยีมองพวกเขาอย่างระแวง อารักขาเฮ่อเหลียนเจี๋ยถอยไปอีกมุมหนึ่ง จากนั้นยื่นมือซัดด้านบนขึ้นไป ทางลับทางหนึ่งเปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปในทางนั้นอย่างรวดเร็ว

"ทางนั้นคือ..." เฉิงสิบจะตามไป โหลชีเรียกเขาไว้

"ไม่ต้องตามแล้ว ทิศนั้นน่าจะออกจากหุบเขาติดตรึงตามทางเดิม" และถ้าพวกเขาจะผ่านหุบเขาติดตรึงโดนไม่อยากกลับทางเดิม ทำได้แค่ออกไปอีกทาง และก็คือทางลับที่หญิงขนขาวบอกว่ามีสมบัติอยู่

นางเก็บพิชิตวัน เหล่เฉินซ่าหนึ่งที "ฝ่าบาทนี่ช่างจิตใจกว้างขวางจริงนะ ตอนนี้ท่านไม่ฆ่าเขา หรือว่าไม่กลัวว่าต่อไปจะฆ่าเขาไม่ได้รึ?"

ทุกคนหันมองเฉินซ่า อันที่จริงพวกเขาก็ไม่เข้าใจ ทำไมเฉินซ่ายอมปล่อยเฮ่อเหลียนเจี๋ย หลานยีแค่พูดท้าทายประโยคเดียวเขายังทนไม่ไหวซัดฝ่ามือใส่จนตายเลย แล้วตัวต้นเหตุนี่ล่ะ?

เฉินซ่ามองนาง สายตาทุ้มลึก "ข้าอยากฆ่าเขา เมื่อไหร่ก็ย่อมได้" พูดพลางโอบเอวนางไว้ "ข้าจะไม่ยอมเอาเปรียบเขาแม้แต่นิด ถึงแม้เขาจะสมควรตายก็ตาม"

พวกเฉิงสิบยังไม่ค่อยเข้าใจ ซวนหยวนฉงโจวกลับทำหน้าครุ่นคิด หันถามโหลชีอย่างขบขัน "พิษเครื่องหอมอะไรนั่นของเจ้า ในสายรัดเอวไม่มียาถอนพิษ?"

โหลชียักไหล่บอก "ข้ายังไม่ทันได้ทำยาถอนพิษออกมา"

ดังนั้นเท่ากับว่า เฮ่อเหลียนเจี๋ยในตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงเลย อย่าว่าแต่จะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสเลย คาดว่าตอนนี้เขาใช้แค่นิ้วเดียวก็จัดการอีกฝ่ายได้แล้ว แต่เมื่อครู่เฮ่อเหลียนเจี๋ยยังพูดราวกับเป็นเรื่องจริง ช่างหน้าหนาไร้ยางอายจริงๆ

เขาสามารถลักพาตัวโหลชีจากมือเฉินซ่าได้ เฉินซ่าย่อมเห็นเขาเป็นคู่ต่อสู้อยู่แล้ว บวกกับคราก่อนคำพูดนั้นที่เขาพูดว่า โหลชีต้องจำเขาไว้ในใจแน่อะไรนั่น ด้วยความเย่อหยิ่งของเฉินซ่า จะฆ่าเขาในตอนที่เขาไร้เรี่ยวแรงโต้ตอบได้อย่างไรกัน? ฆ่าเขาเสียแบบนี้ ต่อไปหากมีคนรู้เข้า คงจะพูดว่า อันที่จริงแล้วเฮ่อเหลียนเจี๋ยตายเพราะพิษเครื่องหอมของโหลชีมากกว่า

เฉินซ่าไม่ยอมให้เขามีโอกาสเช่นนี้ดอก เขาจะรอครั้งหน้าตอนเฮ่อเหลียนเจี๋ยวิทยายุทธ์เต็มเปี่ยม และเอาชนะเขาอย่างแท้จริง ฆ่าเขาซะ

นี่คือศักดิ์ศรีของบุรุษคนหนึ่ง

โหลชีเองก็เข้าใจ ดังนั้นนางเลยไม่ได้ยับยั้ง

"พวกเรารีบออกไปจากที่บ้านี่กันดีกว่า" บนพื้นเป็นศพไร้หัวของหญิงขนขาว และยังมีเสือขาวตาหงายตัวนั้น บวกกับความเย็นชื้นดิบชื้น อยู่นานๆนี่ไม่สบายเอาเสียเลย

เฉินซ่าย่อตัวลงเบื้องหน้าโหลชี "ขึ้นมา"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ