ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 557

ทั้งสิบกว่าคนนั่นยังมีชีวิตอยู่ และแต่ละคนเบิกตากว้าง สายตาทอประกายหวาดกลัวและโกรธแค้นยิ่งนัก

"คนพวกนี้คือ..."

ฉิงเหวยมองแล้วขนหัวลุก "ฉงอ๋อง ช่วยพวกเขาออกมาหรือไม่?"

"คนพวกนี้คือใคร เจ้ารู้จักรึ?"

ฉิงเหวยส่ายหัวบอก "ไม่รู้จัก"

ผู้เฒ่าเครายาวคนนั้นมองพวกเขาหลายครั้ง และหันเดินไปที่บันไดอีกข้าง

แต่เวลานี้เอง ผู้เฒ่าคนหนึ่งในสระเลือดพลันร้องขึ้น "จิ้งจอกแสงจันทร์ม่วง?"

พอได้ยินเสียงเขา วู๊วูที่ถูกผู้เฒ่าเครายาวอุ้มอยู่พลันดิ้นรน กระโดดลงไปจากอ้อมกอดผู้เฒ่าเครายาว วิ่งไปข้างสระเลือด ร้องวู๊วูใส่ผู้เฒ่าคนนั้น

"เจ้าคือจิ้งจอกน้อยตัวนั้นจริงรึ?"

"วู๊วู"

ผู้เฒ่าเครายาวคนนั้นหันกลับมา และมองดูจิ้งจอกน้อยอย่างประหลาดใจเล็กน้อย ความหมายในสายตานั้นคือ เจ้ามีคนรู้จักรึ?

ซวนหยวนฉงโจวเห็นแล้ว ใจกระตุก ขึ้นหน้าหลายก้าว พูดกับเขาว่า "ผู้อาวุโส อันที่จริงจิ้งจอกแสงจันทร์ม่วงตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของน้องสาวข้า และยังตั้งชื่อให้มันว่าวู๊วู...."

"วู๊ วู?"

ปากผู้เฒ่ามีเสียงออกมาแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะไม่ได้พูดมานานแล้ว ถึงจะส่งเสียงออกมาได้ แต่ก็ยังไม่คล่องแคล่วนัก

"ใช่ จิ้งจอกม่วงตัวนี้คอยอยู่ข้างกายน้องสาวข้ามาตลอด..." ซวนหยวนฉงโจวยังพูดไม่ทันจบ ผู้เฒ่าในสระเลือดคนนั้นก็ร้องขึ้นมาว่า "น้องสาวท่านคือผู้ใดกัน?"

ซวนหยวนฉงโจวเวลานี้ถึงหันมองเขา ร่างผอม มีแผลที่หน้าผาก เครายาวครึ่งเดียว สีหน้าเขาดูจะทุกข์ทรมานกว่าคนหนุ่มคนอื่นด้วย

พอเห็นเขาทำหน้าสงสัย ผู้เฒ่าคนนั้นรีบบอก "ข้าเป็นคนตระกูลจิน..."

"ท่านจิน?"

ซวนหยวนฉงโจวถามขึ้นอย่างแปลกใจทันที

"ท่านรู้จักข้า?"

"โหลชี" ซวนหยวนฉงโจวพูดแค่ชื่อ สังเกตสีหน้าอีกฝ่าย และเห็นเขาดีใจมาก " นังหนูชีรึ?"

ซวนหยวนฉงโจวกำลังจะตอบ พลันมีลมพัดมาที่ตา เขายังไม่ทันรู้สึกตัว ลำคอก็โดนมือเย็นเฉียบข้างหนึ่งบีบแน่น อีกฝ่ายแรงมากจนทำให้ตัวเขาลอยขึ้นเหนือพื้น

อากาศเหมือนโดนแยกออกฉับพลัน ซวนหยวนฉงโจวใบหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ มือสองข้างกำข้อมืออีกฝ่ายไว้อย่างไม่รู้ตัว แต่ข้อมืออีกฝ่ายกลับไม่ขยับเลยสักนิด

ซวนหยวนฉงโจวตกใจ เขาไม่ได้อ่อนแอขนาดนี้กระมัง แต่กลับไร้หนทางจะขัดขืนต่อหน้าผู้เฒ่าคนนี้!

"ฉงอ๋อง!"

พวกฉิงเหวยรีบพุ่งเข้ามา แต่ผู้เฒ่าสะบัดมือข้างหนึ่งมา พวกเขาราวกับโดนแรงมหาศาลสะบัดออกไป พากันล้มระเนระนาด

"โหล...ชี?"

ผู้เฒ่าเครายาวจ้องมองซวนหยวนฉงโจวเขม็ง พูดออกมาสองคำอย่างยากลำบาก

ซวนหยวนฉงโจวตอนนี้ในใจงุนงงมาก ผู้เฒ่าผู้นี้เป็นใครกันแน่? เป็นศัตรูหรือมิตร? ก่อนหน้านี้เขามิได้มีท่าทีเป็นศัตรูกับพวกเขาเลยสักนิด แต่ทำไมพอได้ยินชื่อโหลชีกลับมีประกายอาฆาตออกมาเล่า?

แต่นี่เป็นคนที่วู๊วูเชื่อใจ รู้จัก และยอมติดตามนี่นา

ใกล้หายใจไม่ออกแล้ว...

"วู๊วู!"

ใครก็คิดไม่ถึงว่าวู๊วูจะพุ่งเข้ามา ตกลงบนไหล่ผู้เฒ่า ยื่นกรงเล็บออกมากระแทกมือผู้เฒ่าที่บีบคอซวนหยวนฉงโจวอยู่

ผู้เฒ่าเครายาวผ่อนมือออกทันที

ซวนหยวนฉงโจวหายใจเข้าปอดอย่างร้อนรน ในใจเริ่มโมโห "ผู้อาวุโส หากมิใช่ว่าวู๊วูรู้จักท่าน ถึงข้าจะสู้ไม่ได้ แต่ก็สามารถทำร้ายท่านได้ไม่ยาก"

นี่เป็นความจริง ในช่วงความเป็นความตาย เขามีกระบวนท่าที่ทำให้ตายทั้งคู่ได้

"โหล ชี อยู่ ไหน?"

ผู้เฒ่ามองเขา ไล่ถามต่อ

"นางไม่อยู่ที่นี่ อยู่ตระกูลโหล" ซวนหยวนฉงโจวบอกพลางถอยไปหลายก้าว มาถึงข้างสระเลือด มองดูท่านจินที่อยู่ในสระเลือด

"ข้าดึงท่านขึ้นมา"

"ไม่ แตะพวกเราไม่ได้ สระลานตาในนี้มีแต่พิษร้ายทั้งนั้น บางทีคงมีแต่นังหนูชีมีวิธี" ท่านจินยิ้มเศร้า

"สระลานตา? สิ่งเหล่านี้มิใช่เลือด?"

"ไม่ใช่ เป็นน้ำผลไม้ชนิดหนึ่ง พวกท่านรีบไปจากที่นี่เถิด ที่นี่อันตรายนัก ถ้านางมารเฒ่านั่นกลับมา พวกท่านจะไปไม่ได้แล้ว..." ท่านจินบอก

"ท่านปู่ เหตุใดให้พวกเขาไปเล่า รีบให้พวกเขาช่วยพวกเราออกไปสิ!" ในสระลานตายังมีชายหนุ่มอีกสองคนที่ร้องขึ้นมา หนึ่งในนั้นมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเริ่มไอขึ้นมา

ท่านจินมองเขาอย่างกังวล หลับตาอย่างทรมาน "พวกเขาช่วยไม่ได้"

ผู้เฒ่าเครายาวไม่รู้ว่าปล่อยซวนหยวนฉงโจวตั้งแต่เมื่อไหร่ เขามองหุ่นเชิดพวกนั้น พลันสายตาแดงเรื่อ น้ำตาไหลอาบแก้มสองสาย

ซวนหยวนฉงโจวเห็นพริบตาเดียวคนฝั่งตนตายไปหลายคน ก็กัดฟันพุ่งเข้าไป ซัดฝ่ามือใส่หุ่นเชิดตัวหนึ่ง

แต่ผู้เฒ่าเครายาวห้ามเขาไว้

"พวกเขาเป็น...คนของข้า" เขาพูดคำนี้อย่างยากลำบาก เงยหน้าร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด

"อ๊า!"

เสียงนี้เต็มไปด้วยกำลังภายในล้ำลึก สะท้านสะเทือนจนทุกคนรู้สึกเจ็บหน้าอก หุ่นเชิดพวกนั้นก็ชะงัก และพร้อมใจกันหันมาทางเขา

ผู้เฒ่าเครายาวถามเสียงสะท้าน "พวก เจ้า จำข้าได้?"

เขาพูดจาคล่องแคล่วขึ้นกว่าตอนแรก แต่ยังคงพูดช้ามาก น้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย

หุ่นเชิดพวกนั้นชะงักเล็กน้อย แต่ก็โผเข้าหาเขาในเวลาเดียวกัน ท่าทางดุร้ายนั้นดูแล้วราวกับจะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆในเวลาเดียวกันเลย!

วู๊วูร้องพลางพุ่งเข้าไป เวลานี้เอง แส้ยาวสีดำพลันสะบัดเข้ามา ตวัดรัดร่างมันดึงเข้าไป

โหลชีไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเองเลย!

ขนสีม่วงเงินของวู๊วูในอ้อมกอดเหลือแค่นิดหน่อย และยังแหว่งโน่นแหว่งนี่ หนังที่เผยออกมายังมีบาดแผล รอยเลือดแห้งกรัง ติดดินโคลน สภาพดูน่าอนาถมาก

"ใครทำ?"

น้ำเสียงนางเย็นดุจน้ำแข็ง สายตาปรายมองไปทางหุ่นเชิดพวกนั้น "ตัวประหลาดพวกนี้?"

"วู๊วู!" วู๊วูน้ำตาไหลพราก ถูกับตัวโหลชีไม่หยุด เหมือนเด็กที่โดนทิ้งหายไปนานได้เจอครอบครัว ท่าทางน่าสงสารนั่นมองดูแล้วทำให้คนรู้สึกปวดใจยิ่งนัก

"ฉงเอ๋อร์" ซวนหยวนอี้เห็นซวนหยวนฉงโจวแล้ว พลางถอนหายใจโล่งอก

"แม่เจ้า ใครกล้ารังแกสัตว์เลี้ยงของข้า!" โหลชีตะคอกดัง แส้ปลิดวิญญาณในมือสะบัดใส่หุ่นเชิดที่อยู่ใกล้นางมากที่สุดทันที

ซวนหยวนฉงโจวรีบร้องบอก "ชีชีระวัง หุ่นเชิดพวกนี้กินคนด้วย!"

ไม่ต้องให้เขาบอก ตอนชีชีเข้ามาก็เห็นหุ่นเชิดสองคนกอดแขนคนกินกร้วมๆแล้ว "ข้าให้พวกมันกิน!"

โหลชีลากเฉินซ่า ปราดเข้าหาหุ่นเชิดเหล่านั้นราวกับเทพสงครามสองตน

"ห้ามฆ่าพวกเขา..." ผู้เฒ่าเครายาวยื่นมือจะขวาง แต่หุ่นเชิดตัวหนึ่งก็ทำท่าจะกัดไหล่เขา

โหลชีแค่นเสียงเย็น ไม่สนว่าเขาเป็นใคร "ห้ามฆ่าพวกมันกะผีสิ!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ