มือโหลชีกดปุ่มกลไกบนแส้ ข้อมือสะบัด เข็มสิบกว่าเล่มที่เรียวเล็กมากก็พุ่งยิงไปทางหุ่นเชิดพวกนั้นทันที
เข็มเหล่านี้เป็นสิ่งที่นางมาดัดแปลงเองภายหลัง เพิ่มผงหญ้าปีศาจเข้าไป เพื่อจะมาต่อกรกับศัตรูประเภทหุ่นเชิด ขอแค่โดนเข้า ต่อให้ไม่ได้โดนจุดชีพจรหลักก็จะทำให้อีกฝ่ายขยับตัวไม่ได้
แต่เหล่าหุ่นเชิดที่รูปร่างสูงใหญ่จนเหมือนกอริลลาพวกนี้กลับคล่องแคล่วกว่าที่นางคิดไว้ พอเข็มยิงออกไป พวกมันก็หลบหลีกไปตามๆกัน มีแค่ตัวเดียวที่โดนเข้า และล้มลงกับพื้นดังตึ้ง
"ข้าบอกแล้ว นี่เป็นคนของข้า!" ผู้เฒ่าเครายาวโดนแบบนี้เข้า พูดจาคล่องแคล่วขึ้นมาก
"เจ้าเป็นใครกันล่ะ!"
มือโหลชีโดนเฉินซ่าจูงไว้มั่น อีกมือสะบัดแส้ปลิดวิญญาณไปทางผู้เฒ่าเครายาวนั่น
"นังเด็กบังอาจนัก!" ผู้เฒ่าเครายาวสองแขนกางออกและรวบเข้า คิดจะใช้ฝ่ามือเปล่ามาจับแส้นาง!
เฉินซ่าออกแรงดึงมือที่จูงโหลชีไว้ ดึงนางมาหลบหลังเขา ตนเองซัดฝ่ามือใส่เขาไป พลางตะคอกเสียงเย็น "หนูสกปรก!"
จะพูดเรื่องบ้าอำนาจ เฉินซ่าไม่เคยแพ้ให้ใครมาก่อน
ทุกคนพากันหวาดหวั่น
ข่งซิวกลับร้องขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า "นังหนูชี กู่ของเฉินซ่า..."
ก่อนหน้าที่เขาจะร้องขึ้นมา ฝ่ามือของผู้เฒ่าเครายาวมาถึงมือเฉินซ่าแล้ว แต่พอเขาร้องออกมา ผู้เฒ่ากลับแววตาเปลี่ยนไป พลันถอยห่างไปหลายก้าว สายตาเคลือบแคลงจับจ้องใบหน้าโหลชีกับเฉินซ่าไปมา
พวกข่งซิวองครักษ์อวิ๋นซวนหยวนอี้โผเข้าหาหุ่นเชิดพวกนั้นพร้อมกัน และสกัดพวกมันไว้
"พวกเจ้าเป็นใคร?" ผู้เฒ่าถามน้ำเสียงแหบพร่า
โหลชีเชิดคางขึ้น "ข้าไม่อยากตอบเจ้า!"
ไม่คิดว่า ผู้เฒ่านั่นจะถลึงตาใส่นางพลางว่า "ข้าคือซวนหยวนจื้อ ไท่ซ่างหวงแห่งราชวงศ์ซวนหยวน"
"พรืด!"
โหลชีเกือบสำลักน้ำลายตนเองตาย แส้ปลิดวิญญาณของนางชี้ตรงไปที่เขา กำลังคิดจะถามว่าเจ้าคือทูตซ้ายของลัทธิสิ้นโลกีย์หรือไม่ ก็โดนผู้เฒ่าแย่งบอกมาแบบนี้ก่อน ตกตะลึงอึ้งเลย
ทุกคนล้วนพากันตะลึง
โดยเฉพาะซวนหยวนอี้กับซวนหยวนฉงโจว พวกเขาเดิมต่อกรกับเหล่าหุ่นเชิดอยู่ พอได้ยินคำนี้ก็ชะงักกึก ถ้าไม่ใช่เพราะข่งซิวและเฉิงสิบคุ้มครองได้ทัน สองพ่อลูกก็เกือบโดนหุ่นเชิดคว้าหมับและบาดเจ็บแล้ว
บัลลังค์ของราชวงศ์ซวนหยวนตอนนั้นถ่ายทอดให้ซวนหยวนจ้านซึ่งเป็นพ่อของโหลชีไปแล้ว ไท่ซ่างหวง ก็คือพ่อของพวกเขาสิ!
"ท่านพ่อ นี่คือเสด็จปู่ของข้ารึ?" ซวนหยวนฉงโจวถามอย่างอึ้งๆออกมา
ซวนหยวนอี้ส่ายหัวอย่างไม่รู้ตัว เดิมอยากปฏิเสธ แต่ไม่นานก็เสริมทัพอีกคำว่า "ข้าจำเขาไม่ได้"
ผู้เฒ่าเครายาวผมเผ้ากระจาย เครายาวจนปิดหน้าไปแล้ว ทั้งตัวใส่เพียงเสื้อตัวในสีขาวสกปรก ซวนหยวนอี้จำไม่ได้อยู่แล้ว
ผ่านไปอยู่นานโหลชีถึงหาเสียงตัวเองเจอ "อารอง ถ้าเขาเป็นท่านปู่จริง ทำไมจำท่านไม่ได้ล่ะ?"
จะบอกว่าจำซวนหยวนฉงโจวไม่ได้ยังพอว่า เพราะตอนซวนหยวนฉงโจวจากไปนั้นยังเล็กมาก ตอนนี้เติบใหญ่แล้วจะจำไม่ได้ก็ไม่แปลก แต่ซวนหยวนอี้แค่เปลี่ยนจากชายหนุ่มเป็นชายวัยกลางคน จะต่างมากขนาดนั้นเลยหรือไง?
"เจ้าคือ อี้เอ๋อร์?" เหมือนเป็นการตอบคำถามโหลชี ผู้เฒ่าเครายาวหันไปทางซวนหยวนอี้ และถามอย่างสงสัย
ซวนหยวนอี้ใจกระตุกทันที แสดงสีหน้าตกใจออกมา
อี้เอ๋อร์ ตอนนั้นเสด็จพ่อเรียกเขาเช่นนี้
"เสด็จพ่อ?" เขาเรียกอย่างสงสัย
"อี้เอ๋อร์ เป็นเจ้าจริงๆ! เสด็จพี่ที่ไม่ได้เรื่องและน่าตายคนนั้นของเจ้าล่ะ? ซวนหยวนจ้านล่ะ? มันอยู่ที่ไหน เรียกมันไสหัวออกมาพบข้า!" ผู้เฒ่าเครายาว ไม่สิ ซวนหยวนจื้อพลันตะคอกเสียงดัง
คำพูดนี้ถามจนทุกคนตกตะลึงกันอีก
หุ่นเชิดพวกนั้นกลับยังคงคิดจะจับคนมากินไม่หยุดหย่อน โหลชีเจอการเปลี่ยนแปลงนี้จนหงุดหงิด และไม่สนว่าคนนี้จะเป็นปู่แท้ๆของนางไหม นางลากเฉินซ่าพุ่งเข้าหาหุ่นเชิดพวกนั้น
"แม่งเอ๊ย หนวกหูจริง!พวกเจ้าถอยไป"
พวกข่งซิวได้ยินดังนั้นก็ถีบหุ่นเชิดตรงหน้ากระเด็นออกพร้อมกัน และถีบจนพวกมันถอยไปหลายก้าว ไปรวมตัวกัน เวลากำลังพอเหมาะพอเจาะ โหลชีลูบสายรัดเอว หญ้าปีศาจกำใหญ่สาดออกไป ในเวลาเดียวกัน อีกมือก็วาดยันต์สิบอันอย่างรวดเร็ว ประกายไฟหอมจากปลายนิ้วยิงไปที่หว่างคิ้วพวกมัน เฉินซ่ามองออกว่านางจะทำอะไร มือหนึ่งสะบัด ช่วยนางส่งประกายไฟหอมเหล่านั้นไปที่หว่างคิ้วหุ่นเชิด
แค่ชั่วไม่กี่อึดใจ หุ่นเชิดพวกนั้นก็เหมือนโดนวิชาสะกดร่าง นิ่งงันอยู่ที่เดิม "คราวนี้เงียบสักที"
โหลชีปรายตามองพวกมันอย่างรังเกียจ
คนพวกนี้โดนเลี้ยงให้กลายเป็นหุ่นเชิดชั่วร้ายที่ไม่มีสติไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่นานแล้ว ไม่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเป็นใครมีฐานะอะไร มีชีวิตอยู่ต่อไปก็เป็นทุกข์เปล่าๆ
"เทียนเทียน?" ซวนหยวนจื้อกลับมีท่าทีต่อโหลชีฮ่วนเทียนไม่เหมือนกัน "ดี ดี ดี!ข้าคิดว่าเจ้าตายไปแล้ว!"
ระหว่างพูด หันมองซวนหยวนฉงโจวอีก "อี้เอ๋อร์ นี่คือหลานข้า?"
ซวนหยวนอี้มองโหลชีก่อนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
"ดี!" ซวนหยวนจื้อตื่นเต้นมาก "สวรรค์ไม่ใจร้ายกับตระกูลซวนหยวนของข้า!"
เดิมน่าจะเป็นงานนับญาติที่น่าตื่นเต้นมาก แต่เพราะท่าทีของซวนหยวนจื้อที่มีต่อโหลชี ทำให้ทุกคนพากันเคร่งเครียด
ถ้าบอกว่าความจริงในตอนนั้นเป็นเรื่องรับไม่ได้อย่างมากในสายตาโหลชีล่ะ? เช่นนั้นแล้วการที่พวกเขามาตามหาความจริงจะยังมีความหมายอยู่ไหม?
เฉินซ่าโอบโหลชีพลางบอก "พวกเราไป" พวกเขาะทำอะไร ไม่ต้องให้ตาแก่แบบนี้มาบงการ
"หยุดเดี๋ยวนี้" ซวนหยวนจื้อขมวดคิ้วสั่ง "เจ้าหนูตระกูลเฉิน ในตัวเจ้าโดนกู่ปลิดชีพกระมัง? ตอนนั้นที่ข้าพาคนมา ก็ได้พาเฮ่อเหลียนฉางซึ่งเป็นองค์หญิงน้อยแห่งตระกูลเฮ่อเหลียนมาด้วย ถ้านางยังมีชีวิตอยู่ ต้องช่วยเจ้าแก้กู่ปลิดชีพได้แน่ เพราะนางเป็นหญิงธาตุหยิน เจ้ารีบไปตามหานาง แก้กู่ปลิดชีพซะ ไม่เช่นนั้นเจ้าไม่มีทางอยู่รอดเกินสามวันแน่"
"เสด็จพ่อ ท่านหมายความว่าอย่างไร?" ซวนหยวนอี้คิ้วขมวดทันที พวกเขารู้ว่าการแก้กู่ของหญิงธาตุหยินเป็นยังไง นี่จะให้เฉินซ่ากับสตรีอื่น...
ซวนหยวนจื้อพูดเสียงขรึมว่า "ตอนนั้นราชวงศ์เฉินเกิดเรื่องก็เป็นเพราะนังหนูนี่ ต้องมีจุดจบอย่างตอนนี้ เจ้าหนูนี่ก็เป็นความรับผิดชอบและหน้าที่ของพวกเราด้วย ตอนนั้นที่พึ่งรู้ว่าเขาโดนกู่ปลิดชีพ ข้าก็สั่งคนออกไปตามหาหญิงธาตุหยิน กว่าจะหาองค์หญิงน้อยแห่งตระกูลเฮ่อเหลียนมาได้มันไม่ง่ายเลย เดิมคิดจะเลี้ยงนางข้างกายให้เติบใหญ่ แล้วค่อยตามหาเจ้าหนูนี่ รอพวกเขาเติบโตแล้วค่อยแก้กู่ ไม่คิดเลยว่าจะมาตกหลุมพรางที่นี่...."
โหลชีได้ยินมาถึงตรงนี้อดยิ้มเย็นขันไม่ได้ว่า "ยิ่งใหญ่จริงนะ" นางไม่ใช่ไม่โกรธ ปู่ของนางเห็นนางเป็นเหมือนมหันตภัย ยังพยายามหาคนอื่นมาช่วยคนอื่น----
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคนอื่นที่ว่าตอนนี้เป็นผู้ชายของนาง งั้นนางจะถือเป็นอะไรล่ะ?
"นังหลานทรพี! ไม่คิดว่าเจ้าจะดวงแข็งปานนี้! ยังอยู่กับเจ้าหนูตระกูลเฉินอีก! แต่เจ้าไม่ใช่หญิงธาตุหยิน ช่วยเขาไม่ได้ ยังคิดจะให้ร้ายเขาอีกรึ? อี้เอ๋อร์ รีบส่งคนออกไปตามหาองค์หญิงเฮ่อเหลียนซะ!"
เขาพึ่งพูดจบ ไม่รู้ว่ามีเสียงหัวเราะร่วนรื่นหูดังออกมาจากมุมไหน
"ไม่ต้องหาแล้ว ข้าอยู่ที่นี่"
พอพูดจบ กำแพงด้านหลังสระลานตาพลันเปิดออกเงียบเชียบ สตรีแน่งน้อยนางหนึ่งเดินออกมาจากข้างใน เท้าของนางเหยียบหัวพวกท่านจินเดินออกมาอย่างแผ่วเบาแต่มั่นคง
นางอยู่ในชุดขาวเรียบง่าย ผมดำไหลลงเป็นคลื่นน้ำตก คิ้วตางามงด ริมฝีปากมีรอยยิ้มเบาบาง สายตานางมองไปที่ใบหน้าทุกคน จนไปหยุดลงที่เฉินซ่า พลันยิ้มหวานออกมา
"เจ้านี่เองคือเฉินซ่า หน้าตาหล่อเหลายิ่ง ข้าชอบมาก ถ้าเจ้าอยากแก้กู่ ข้าจะสั่งให้คนตระเตรียมแท่นคำนับ คืนนี้พวกเราเข้าพิธีแต่งงานกราบไหว้ฟ้าดินเลยเป็นไร?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ