เฉินซ่าไม่เคยอยู่ใต้อาณัติของผู้อื่น ถูกจับตามองจากข้างบนลงมา นับประสาอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่ง
สองมือของนางกดอยู่ตรงแผงอกของเขา ผมสีดำร่วงหล่นลงมาราวกับน้ำตก ในความงามที่พราวไปด้วยเสน่ห์แฝงไปด้วยความสง่างาม ในสายตาและในใจของเขา ใครก็ไม่สามารถเทียบได้
ผมยาวที่ดำจนเงางามอ่อนนุ่มราวกับน้ำเสริมให้ใบหน้าของนางไหล่ขาวของนางยิ่งเนียนละเอียดมากยิ่งขึ้น ขาวกว่าเกล็ดน้ำแข็งแข่งกับหิมะ ผิวขาวบอบบาง งดงามไร้ที่เปรียบ
แต่ว่า ที่สดใสที่สุดก็คือดวงตาทั้งคู่ของนาง ดำเจิดจ้าดุจอัญมณี ดุร้ายและเย้ายวน ที่งดงามที่สุดก็คือริมฝีปากของนาง เขาไม่เคยเห็นริมฝีปากของนางแดงขนาดนี้มาก่อน ไม่แต่งแต้มแต่ยังแดงสด ชุ่มชื้นมันวาว แถมนางยังดันใช้ฟันที่ขาวสวยนั่นกัดริมฝีปากล่างเบาๆ บิดเอวเบาๆ มองดูเขาราวกับนางฟ้า
เฉินซ่ารู้เพียงว่าร่างกายอยู่ในกองเพลิง
นี่คือการแผดเผาอีกแบบหนึ่งที่แตกต่างออกไป ลุกโชน ร้อนแรงเสียจนเหงื่อเม็ดเล็กๆปรากฏบนหน้าผากของเขา และจากนั้นก็รวมตัวกัน หยดลงในขมับ
"ปีศาจสาว......" เขาเรียกออกมาด้วยเสียงแหบแห้งคำหนึ่ง
เขาเคลื่อนไหวครั้งหนึ่งต้องการจะเปลี่ยนจากการป้องกันเป็นการโจมตีอีกครั้ง แต่โหลชีกลับกดเขาเอาไว้ เลิกคิ้วขึ้นมา "อย่าขยับ ตอนนี้ข้าเป็นนายอยู่"
เหงื่อของเฉินซ่าไหลออกมามากยิ่งขึ้น ลำคอแห้งผาก
ขณะเดียวกันเขาก็สามารถรู้สึกได้ว่าหนอนกู่ที่อยู่ในร่างกายมีอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อย ดูเหมือนจะกำลังมุดไปทั่ว เจ็บ มันเจ็บปวดมาก แต่เมื่อโหลชีโน้มตัวลงมา ในตอนที่มีความใกล้ชิดกับเขาทางผิวกาย ความเจ็บปวดแบบนั้นก็บรรเทาลงไปมาก
สายตาของเขาร้อนผ่าว: "ปีศาจสาว เจ้าสามารถต้านทานกู่นี้ได้จริงๆ"
"บางที อีกสักพักข้าก็จะสามารถจับมันเอาไว้ได้ บีบมันให้แหลกเป็นผุยผง......" ขณะที่โหลชีพูดไป ริมฝีปากสีแดงลูบไล้ผ่านอกของเขาเบาๆ "บางที พวกเราไม่มีโอกาสจะได้เจอกับคนที่วางกู่ให้ท่านแล้ว"
เฉินซ่าหายใจติดขัด "เพราะอะไร?"
"น่าเสียดาย กู่ประเภทนี้โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นกู่ตัวแม่กับกู่ตัวลูก ที่ท่านถูกคือกู่ตัวลูก กู่ตัวลูกถูกควบคุมจากกู่ตัวแม่ แต่ว่า ถ้าหากกู่ตัวลูกตาย กู่ตัวแม่ก็จะถูกแว้งกัดเช่นกัน" เสียงของโหลชีเบาลงเรื่อยๆ มือของนางลูบไปถึงเข็มขัดของเขา ถอดมันออกอย่างรวดเร็ว "ระดับความรุนแรงของอาการแว้งกัดขึ้นกับความร้ายกาจของกู่ กู่ของท่านตัวนี้คิดว่าน่าจะเป็นบรรพบุรุษของหนอนกู่ในใต้หล้าแล้ว ดังนั้นอานุภาพของอาการแว้งกัดจะต้องแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบอย่างแน่นอน ท่านผู้นั้น ต้อง ตาย อย่าง แน่นอน"
ดังนั้น ในทางด้านใดด้านหนึ่งแล้ว แก้กู่ก็เท่ากับการแก้แค้น
แต่ว่าในใจของเฉินซ่ากับโหลชีคนสองคนนี้ การแก้แค้นไหนเลยจะง่ายดายขนาดนี้? ไม่เพียงแค่คนที่ลงกู่เท่านั้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขา ไม่มีใครหนีพ้นไปได้!
"วู้ ตอนนี้ไม่ต้องสนใจคนอื่น......" เฉินซ่ากอดนางเอาไว้แล้วก็อยากย้อนกลับมาอีก โหลชีพลิกกลับมาทันที ก็ไม่รู้ว่านางเอาพิชิตวันออกมาเมื่อไหร่ ปลายแหลมกดเขาเอาไว้ มองดูเขาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
"เฮ้ย อย่าขยับนะ บอกท่านแล้วไง มีข้าเป็นนาย"
เฉินซ่าหายใจหอบ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน: "เช่นนั้นเจ้าก็เร็วๆหน่อย ปีศาจสาว!"
โหลชีมีความสุข พิชิตวันเลิกขึ้นมา ตัดเสื้อคลุมของเขาออกอย่างสมบูรณ์ เขาก็ให้ความร่วมมืออย่างดี มือก็ถอดออกมาจากแขนเสื้อ ใบมีดเย็นเฉียบของพิชิตวันเคลื่อนย้ายไปทางกางเกงของเขาอีกครั้ง เฉินซ่าขนลุกซู่ไปทั้งตัว
"มือของเจ้าอย่าสั่นล่ะ ทำให้ต่อไปตัวเองเป็นหม้ายไปตลอดชีวิตเชียวนะ"
"ถุย" โหลชีถุยเขา สะบัดข้อมือ ตัดผ้าชิ้นสุดท้ายของเขาขาด
นี่เป็นการทดสอบที่ทำให้คนรู้สึกสั่นสะท้านจริงๆ เขาใกล้จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว นางยังอืดอาดยืดยาดอยู่เช่นนี้ เวลาแบบนี้ให้เขามาเป็นผู้นำน่าจะดีกว่า แต่ว่านางกำลังมีอารมณ์เล่นสนุกอยู่ เขาทำได้แค่ให้ความร่วมมือเท่านั้น
พิชิตวันที่เย็นเฉียบตัดกางเกงของเขาออก การกระทำของนางเชื่องช้าไร้ที่เปรียบ ทำให้เฉินซ่าใกล้จะบ้าตายอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำตามใจนาง
"ไปฝึกมาจากไหน?" เสียงของเขาแหบแห้ง
โหลชีส่งสายตาหวานให้เขา: "ข้ามันเป็นอัจฉริยะ ไม่ว่าอะไรก็สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง"
ปีศาจสาว เป็นปีศาจสาวจริงๆด้วย
ร่างกายของเขาเปลือยเปล่าแล้ว
อุณหภูมิในรถม้าสูงขึ้นมา......
......
หลังเขา บนป้ายหลุมศพมากมาย ลายมือเลือนรางแล้ว มีป้ายหลุมศพบางป้ายถึงขั้นมีตะไคร่น้ำขึ้นมาหนาทึบ มีงูตัวบางๆแหวกว่ายผ่านพุ่มหญ้า เงียบงันจนทำให้คนรู้สึกขนลุกเล็กน้อย
ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ชั่วครู่เดียวก็มืดสลัวลงมา ผ่านไปครู่หนึ่งก็มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย ทำให้สุสานแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยความบรรยากาศที่มืดมนและน่ากลัว
มีคนถือร่มกระดาษน้ำมันเดินเข้าไปท่ามกลางหลุมฝังศพเหล่านี้ช้าๆ ฝีเท้าเบามาก ข้างหลังมีคนติดตามอยู่สิบกว่าคน แต่กลับปล่อยให้เม็ดฝนหยดลงมาบนหัว แยกแยะกันออกไป มองดูป้ายหลุมศพทุกป้ายอย่างละเอียด
"นายท่าน หากันมาสองวันแล้ว เป็นไปได้ไหมว่าของสิ่งนั้นไม่ได้ซ่อนอยู่ในป้ายหลุมศพ?"
เฮ่อเหลียนเจี๋ยส่ายหน้า: "อยู่ได้แค่ในป้ายหลุมศพเท่านั้น"
"แต่ว่าข้าน้อยตรวจสอบป้ายหลุมศพทุกป้ายดูแล้ว ไม่พบอะไร......"
"ชิงยี นี่เจ้าหงุดหงิดแล้ว?"
ชิงยีก้มหน้าลงทันทีพร้อมกล่าวว่า: "ข้าน้อยผิดไปแล้ว"
สายตาของเฮ่อเหลียนเจี๋ยกวาดมองผ่านสุสาน น้ำเสียงราบเรียบ "โหลชีได้กุญแจโอสถน้ำพุไปแล้ว หาของสิ่งนี้เจอข้าจะสามารถเจรจาเงื่อนไขกับนางได้ หากว่าหาไม่เจอ ข้าก็ได้แต่......"
ได้แต่อะไร เฮ่อเหลียนเจี๋ยกลับไม่ได้พูดต่อไป
เวลานี้ มีองครักษ์บินโฉบเข้ามา คุกเข่าข้างหนึ่งแล้วกล่าวว่า: "นายท่าน กองราชาอสูรเทพราชวงศ์เฉินออกเดินทางมายังสุสานแล้ว!"
แววตาของเฮ่อเหลียนเจี๋ยประกายแวบขึ้นมาเล็กน้อย "องค์หญิงน้อยมาด้วยไหม?"
"มาด้วย! แต่คนที่นำหน้าคือโหลฮ่วนเทียน! รถม้าของเฉินซ่ากับองค์หญิงน้อยยังไม่ได้ออกเดินทางชั่วคราว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ