ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 583

"สิ่งใดกัน?" น้ำเสียงเฉิงสิบแหบพร่าเล็กน้อย

ชิวชิ่นเซียนหันมองเขา พลันพบว่า เขาที่เคร่งขรึมมาคลอด ตอนนี้สองมือกลับสั่นเทาเล็กน้อย

ในใจชิวชิ่นเซียนรู้สึกแปลกๆ และพอดีสบตากับสายตาที่มองมาของอิ้นเหยาเฟิง

ทั้งสองสบตากัน และหันมองเฉิงสิบพร้อมกัน

รู้สึกว่าเฉิงสิบในตอนนี้ใกล้จะระเบิดแล้ว

หยุนรั่วหวาลังเลเล็กน้อย พลางว่า "หุบเขาศักดิ์สิทธิ์มีของล้ำค่ามากมาย สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เอาออกมาจากหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ ไม่รู้เรียกอะไร แต่พกไว้บนร่างจะสามารถดูดซึมพิษร้ายทั้งหมดได้ บางทีอาจจะชะล้างกัดเซาะวิญญาณ์ได้"

โหลชีกับเฉินซ่าเดินไปในเรือนที่แสงสว่างสลัว เงาร่างของทั้งคู่ถูกดึงยืดยาวออก

พวกเขาไม่ได้พูดอะไร ระหว่างทางก็ไม่มีใครเลย

ค่ำคืนช่างเงียบงัน แค่เห็นท่าทางเดินเล่นสบายใจของพวกเขาสองคนแล้ว ใครเลยจะคิดว่า ตอนนี้พวกเขาแบกรับเงามืดที่น่ากลัวอย่างกัดเซาะวิญญาณ์เอาไว้

ในมือโหลชียังคงถือถ้วยชานั้นไว้

ฉากนี้ดูน่าขันยิ่งในสายตาหานเสี่ยวซื่อ

นางต้องรู้อยู่แล้วว่า โหลชีและเฉินซ่าไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขาต้องกำลังคิดหาทางแน่ แต่กัดเซาะวิญญาณ์คืออะไร? เป็นสิ่งที่นางหลบซ่อนตัวในซีเจียงสิบปีถึงจะหาเจอ ที่ซีเจียงและหนานเจียง ของสิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นของที่เลวร้ายที่สุด ไม่มีใครกล้าแตะต้อง หากมิใช่ฝ่าบาท นางเองก็ไม่รู้ว่าของสิ่งนี้เดิมส่งออกไปจากแผ่นดินใหญ่หลงหยิน

นี่เป็นสิ่งที่ฝ่าบาทพยายามอย่างยากลำบากให้ได้มา นางรู้ถึงความสำคัญของสิ่งนี้สำหรับฝ่าบาท หลังจากได้ของนี้มาแล้วนางควรจะส่งกลับไปทันที แต่เจอเข้ากับหยุนรั่วหวาเสียก่อน เพราะภารกิจที่นางทำไว้เมื่อก่อนคือดีมาก ฝ่าบาทเชื่อในความสามารถของนาง เลยให้นางจัดการเรื่องหยุนรั่วหวาเสียก่อน

หากมิใช่เจอกับโหลชีและเฉินซ่า ไม่ใช่ความคิดที่แวบเข้ามากะทันหัน หานเสี่ยวซื่อก็คงไม่คิดจะใช้กัดเซาะวิญญาณ์เล็กน้อย

เวลานี้ ด้านหลังนางพลันมีเสียงหนึ่งที่แยกไม่ออกว่าชายหรือหญิงดังขึ้นว่า "เจ้าใช้กัดเซาะวิญญาณ์ ไม่กลัวฝ่าบาทพิโรธรึ? กัดเซาะวิญญาณ์เป็นของที่ฝ่าบาทคิดจะใช้กับบุรุษผู้นั้น หากเจ้าทำลายแผนการของฝ่าบาท จะต้องอยากจะอยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้แน่"

หานเสี่ยวซื่อสะท้านเยือกในอกเล็กน้อย อันที่จริงนางอยู่ซีเจียงมาตลอด ต่อมาอยูด้านนอก การเชื่อมต่อและความเข้าใจต่อหลงหยินทางนี้ล้วนได้รับรู้จากปากนกต่อและคนสนิททั้งนั้น ดังนั้นถึงจะรู้ดีในนิสัยชายผู้นั้น แต่ก็ไม่ได้มีความรู้จักมักจี่อะไร

ถ้านางรู้ คงไม่ใช้ของสิ่งนี้แน่ อย่างน้อยก็ไม่กล้าใช้บนตัวโหลชี น่าเสียดายที่ตอนนี้นางไม่รู้

ดังนั้นหลังจากนางสะท้านเยือกในอกเล็กน้อยก็ยิ้มน้อยๆว่า "ถ้าข้าพาโหลชีกลับไปให้ฝ่าบาท ก็จะเป็นความดีความชอบอย่างมาก ได้กัดเซาะวิญญาณ์มา ฝ่าบาทก็ดีใจมากจนสัญญาว่าข้าจะขอรางวัลอันใดก็ได้ หากมีโหลชีเพิ่มมาด้วยเล่า?"

คนด้านหลังเงียบไปครู่หนึ่ง เพราะนางได้กัดเซาะวิญญาณ์มา และได้รับคำมั่นจากฝ่าบาทว่า "รางวัลอะไรก็ได้" ดังนั้นเขาถึงคอยอารักขานางที่นี่ เชื่อฟังนางทุกอย่าง

หานเสี่ยวซื่อไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะตอบอะไรนาง จากนั้นพูดอย่างตื่นเต้นดีใจอีกว่า "ข้าจะให้ฝ่าบาทรู้ว่า ข้าคือลูกน้องที่ดีที่สุดของเขา เป็นลูกสาวที่เก่งที่สุดของเขา ข้าจะให้เขาภูมิใจในตัวข้า และยอมให้ข้าใช้แซ่เขา! ข้าจะเป็นองค์หญิง!"

"ขอให้เจ้าสมหวัง"

"เหอะเหอะ ไปเถอะ พวกเราไปดูละครกัน ข้าร้อนใจอยากเห็นภาพเฉินซ่ามองดูภรรยาตนเองเลือกดื่มชาถ้วยนั้นและมีสัมพันธ์กับบุรุษอื่นแล้ว"

นางกดปุ่มกลไก ห้องลับที่ทั้งสองคนยืนอยู่พลันพลิกตัวขึ้น พอหยุดลงก็กดอีกปุ่มหนึ่ง กำแพงด้านหน้าเปิดออกซ้ายขวา นี่คือเรือนข้างของด้านนอกห้องโถงนั่น

ถ้าไม่ใช่นางออกมาเอง คงยากจะหาห้องลับเยี่ยงนี้ได้

โหลชีกับเฉินซ่ายืนอยู่นอกห้องเก็บฟืน

"เจ้าถอยไปหน่อย" เฉินซ่าพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ไม่ว่าคนด้านในจะเป็นใคร พอคิดถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของสตรีผู้นั้นว่าจะส่งมาขึ้นเตียงโหลชี รังสีอำมหิตของเขาก็ทะยานไม่หยุดหย่อน

โหลชีกะพริบตาปริบๆไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ก็ยอมถอยห่างอย่างว่าง่าย

และได้เห็นเฉินซ่าซัดฝ่ามือใส่ห้องเก็บฟืนนั่น

ทุกคนที่ตามมาอยู่ห่างๆเห็นเพียงเขาสะบัดมือ แต่กลับได้ยินเสียงบรึ้ม ห้องเก็บฟืนนั่นพลันล้มครืน และระหว่างฝ่ามือบ้าคลั่งของเขา เศษซากกำแพงเหล่านั้นพลันกระจายออกไปราวใบไม้ร่วง

รอจนทุกอย่างสงบนิ่ง ด้านหน้าไหนเลยจะมีห้องเก็บฟืนอีก เหลือเพียงแค่ห้องที่กำแพงสี่ด้านกลายเป็นซากปรักหักพัง แทบจะเรียกห้องไม่ได้แล้ว

"ท่านไม่กลัวบุรุษในนั้นโดนล้มทับตายรึ?" โหลชีแอบหน่ายใจ

เฉินซ่าเหล่นางหนึ่งที พูดเสียงเรียบว่า "ล้มทับตายจะสบายไปสำหรับมันสิ"

แม่เจ้า

คำพูดนี้หมายความว่า ถ้าคนข้างในไม่โดนล้มทับตายก็จะยิ่งตายอนาถหนักขึ้นสิ โหลชีอดสงสารคนข้างในไม่ได้

แต่ด้านในไม่มีคน

เฉินซ่าแค่นเสียงเย็น เดินเข้าไป ประตูที่ยากจะประคองตนเอาไว้ได้ถูกเขาเตะกระเด็นไป และล้มลงพื้นดังปึ้ง

"วางใจเถอะ ข้าไม่สนใจร่างกายเจ้า" โหลชีเหล่นางจากหัวจรดเท้า บ่นออกมาว่า "เพราะยังไงรูปร่างเจ้าก็ไม่ดีเท่าข้า อีกอย่าง ข้าชอบบุรุษ ไม่สนใจสตรี"

ลมกลางคืนพัดมา หานเสี่ยวซื่อที่โดนปลดเสื้อเผยให้เห็นหน้าอกรู้สึกหนาวเล็กน้อย

ต่อมาได้ยินเสียงต่อสู้ นางไม่อาจหันไปมองได้ และไม่รู้ว่าองครักษ์ที่ฝีมือล้ำเลิศของตนคนนั้นจะชนะหรือแพ้ ยังไม่รีบมาช่วยนางอีก!

จากนั้นนางก็เห็นโหลชียื่นมือเอียงถ้วยชาใบนั้นลง น้ำชาไหลลงพื้นหมมด สายตาโหลชีเผยประกายสีแดง จากนั้นนิ้วมือนางพลันเกิดประกายไฟสีน้ำเงินแกมแดง ประกายไฟนั่นโดนนางดีดตกลงไปบนน้ำชาเหล่านั้น เกิดเป็นประกายไฟลุกโชนหนักกว่าเดิม

"เจ้ามันบ้า เจ้าเลือกตายรึ?" เทน้ำชาทิ้ง กัดเซาะวิญญาณ์ก็จะแทรกซึมลงผิวหนังนาง กลืนกินชีวิตของนางอย่างบ้าคลั่ง อีกครึ่งปีให้หลังต้องตายแน่

ต่อให้เทพเซียนมาอีกเป็นหมื่นก็ต้องโดนกลืนกิน นี่เป็นที่มาของชื่อกัดเซาะวิญญาณ์

แต่ตอนนี้โหลชีกลับเลือกทางนี้?

หานเสี่ยวซื่อมองนางอย่างตะลึง เหมือนกำลังมองคนบ้า แต่วินาทีต่อมา นางก็ตกใจกลัวยิ่ง

เพราะโหลชีกลับแนบถ้วยนั้นลงบนหน้าอกนาง จากนั้นจับมือทั้งสองของนางเอาถ้วยชามาแนบไปบนหน้าอก พลางจี้จุดนาง นางจะดึงมือออกก็ทำไม่ได้

หานเสี่ยวซื่อตกใจลนลานแล้วจริงๆ หวาดกลัวแล้วจริงๆ นางดวงตาแดงเรื่อ กรีดร้องออกมา "โหลชี นังแพศยา ปล่อยข้านะ!"

โหลชีแบมือออก "ข้าไม่ได้จับเจ้าไว้นี่"

"เจ้า เหตุใดเจ้าไม่เป็นอะไรเลย?"

"อ้อ จริงสิ ลืมบอกเจ้าไป ในตัวข้ามียามากมายนับไม่ถ้วน" โหลชียกมือขึ้น ให้นางเห็นมือที่ถือถ้วยชาเมื่อกี้ของตน ท้องนิ้วมือทั้งสิบของตนเป็นสีแดง เหมือนเค้นเลือดมารวมกันไว้ที่นิ้วมือทั้งสิบก็ไม่ปาน

นางไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน อดตะลึงไม่ได้

โหลชีกะพริบตาปริบๆหัวเราะบอก "คำสาปเลือดดวงชะตาของตระกูลซวนหยวนบวกกับฤทธิ์ยาทั้งหมด บีบมาที่นิ้วมือ ต้านทานกัดเซาะวิญญาณ์ครู่หนึ่งก็ยังพอทำได้อยู่"

ในตอนที่หานเสี่ยวซื่อตกตะลึงแทบกระอักเลือดนั้น นางก็แถมให้อีกคำว่า "จริงสิ ยังมีดีจิ้งจอกมารด้วยนะ"

ของดีมากมายเยี่ยงนี้ ต่อให้นางไม่แน่ใจว่าจะต้านทานกัดเซาะวิญญาณ์ได้ แต่พยายามยืนหยัดอยู่สิบกว่าวินาทีไม่ให้กัดเซาะวิญญาณ์เข้ามา ก็ยังพอทำได้อยู่ ดังนั้นในห้องโถง ตอนเฉินซ่าคุกเข่าลงต่อหน้านาง นางก็ส่งกระแสจิตบอกเขาเรื่องนี้แล้ว อีกอย่าง นางจะใช้คำสาปเลือดดวงชะตาและเคลื่อนย้ายฤทธิ์ยา ยังต้องการเวลาอยู่บ้าง ดังนั้นระหว่างทางที่มาเลยเหมือนเดินเล่นชมจันทร์ อันที่จริงคือพยายามอยู่ ความจริงพิสูจน์แล้วว่านางชนะพนัน ในเมื่อหานเสี่ยวซื่อชอบกัดเซาะวิญญาณ์ขนาดนี้ นางก็ต้องคืนกัดเซาะวิญญาณ์ให้นางสิ

ในตอนนี้เอง เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นด้านหลัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ