ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 605

นี่เป็นครั้งแรกที่โหลชีรับรู้รสชาติที่ทุกคนไม่ฟังคำพูดตน

นางต่อต้านมาตลอด แต่ไม่มีใครฟังนางเลย หยิบยา ต้มน้ำ วางค่ายกล ภายใต้การสั่งการของซวนหยวนคง ทุกคนล้วนวุ่นวายหัวหมุน

สถานที่แช่น้ำยาเลือกที่ห้องพักตะวันตกของซวนหยวนคง ที่นั่นยังขุดสระน้ำในห้องใหญ่มากเอาไว้ และยังเป็นบ่อน้ำพุร้อนอีก

แต่ในเมื่อเป็นน้ำยา ย่อมไม่มีทางเทยาลงไปในสระใหญ่ขนาดนี้อยู่แล้ว น้ำที่ต้มก็ยกจากบ่อน้ำพุร้อนนี่ไป จากนั้นต้มเดือดแล้วก็ยกกลับมา เทลงไปในถังน้ำใหญ่ และถังน้ำนี้วางอยู่กลางบ่อน้ำพุร้อน ด้านล่างวางแผ่นหินใหญ่ไว้หลายชั้น เพื่อป้องกันน้ำจากบ่อน้ำพุร้อนกระฉอกเข้าไปทำฤทธิ์ยาเบาบางลง

รอบด้านของบ่อน้ำพุร้อนนี้ ซวนหยวนคงวางค่ายกลคงขวัญ และยังสั่งให้นางต้องแช่อยู่ในนั้นให้ครบครึ่งชั่วยาม

"นักพรตเลว ข้าไม่แช่! แช่ไปครึ่งชั่วยามผิวข้าก็ย่นเป็นคนแก่หมดแล้ว!" โหลชีจับขอบประตูแน่นไม่ยอมเข้าไป

นางไม่ได้กลัวเจ็บ ปัญหาคือความคันน่ะ แทบจะคันมาจากจิตวิญญาณ เกาไม่ได้หยุดไม่ได้ ตอนนั้นทรมานจนเป็นบาดแผลในใจนางเลย

ซวนหยวนคงเดินเข้าไปอย่างหน่ายใจ เริ่มแงะนิ้วมือนางออก เปิดโปงนางอย่างไม่ไว้หน้า "เจ้าน่ะแช่น้ำยาแช่มาตั้งแต่เล็กจนโตเลยนะ ผิวไม่ย่นนานแล้ว คราวก่อนที่แช่ก็ตอนเจ้าเก้าขวบ ตอนนี้โตจนแต่งงานแล้ว ยังกลัวอะไรอีก? ขายขี้หน้าไหมเนี่ย?"

"ได้ยินว่ามีคนจะแย่งร่างกายข้า ข้าก็ต้องมาแช่น้ำยาคงขวัญ นี่ถึงขายขี้หน้าต่างหากล่ะ! ข้า...." โหลชียังพูดไม่ทันจบ ก็โดนดึงเข้าไปในอ้อมกอดหนึ่ง

เฉินซ่าโอบนางแน่น บอกกับซวนหยวนคงว่า "ข้าพานางเข้าไปแช่ ท่านไปได้แล้ว"

"เรื่องอะไร? ตอนนางยังเด็กข้ายังช่วยนางอาบน้ำเลย..."

"ปึ้ง!"

ประตูไม้หนาใหญ่โดนสะบัดโดยแรงต่อหน้าเขา ทำเอาฝุ่นผงสะเทือน

"เฝ้าไว้ให้ดี ห้ามให้ใครเข้าใกล้ทั้งนั้น!" เสียงเย็นของเฉินซ่าดังมาจากข้างใน มีแววกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วย

"ขอรับ!" พวกเทียนยีตี้เอ้อร์ เทียนอิ่งเฉิงสิบโหลวซิ่นรับคำโดยพร้อมเพรียง

ซวนหยวนคงยังกระทืบเท้า แต่กลับโดนเอ้อร์หลิงล่อหลอกจากไป

เอ้อร์หลิงแอบปาดเหงื่อที่หน้าผาก ฝ่าบาทช่างขี้หึงนัก กล้าพูดว่าช่วยจักรพรรดินีอาบน้ำตอนนางยังเด็กต่อหน้าเขา ไม่ทำเขาหึงเป็นบ้าเป็นหลังหรือไง?

ในห้อง โหลชีที่โดนอุ้มเดินไปยังบ่อน้ำพุร้อนเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าดำทะมึนของเฉินซ่า พูดอย่างหน่ายใจว่า "เรื่องสมัยเด็ก ไม่สามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ ท่านคงไม่คิดจะคิดบัญชีกับข้ากระมัง?" หาได้ผู้ชายแบบนี้นางเหนื่อยใจจริงๆ...

"ตอนนี้ให้ข้าช่วยเจ้าอาบเอง!"

เขาเริ่มลงมือลอกเสื้อผ้านางออก โหลชีรีบร้องบอก "อย่ากระชากอย่ากระชาก! อ๊า เสื้อผ้าขาดหมดแล้วนะ!"

ด้านนอก เหล่าองครักษ์มุมปากกระตุก ต่างขยายวงล้อมของการเฝ้าใหญ่ขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย ค่อยๆถอยหลังไป

"ท่านจับที่ไหนกัน!" เสียงร้องของโหลชีดังขึ้นอีก พวกเขาปาดเหงื่อ พร้อมใจกันยกเท้าขึ้นถอยหลังไปอีกระยะหนึ่ง

"อุ๊...อุ๊...."

โชคดีที่ปากของจักรพรรดินีเหมือนจะโดนปิดไว้แล้ว ในที่สุดไม่ได้พูดอะไรให้พวกเขาเหงื่อตกขึ้นมาอีก ส่วนเรื่องใช้อะไรอุดนั้น....

นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะเป็นห่วงละ

โหลชีโดนลอกคราบจนขาวโพลนและโยนเข้าไปในถังน้ำใหญ่ที่มีน้ำยาเต็มถัง น้ำร้อนมาก และยาชนิดนี้แรงนัก แค่แช่นิดเดียวนางก็รู้สึกมีเข็มแทง ยุบๆยิบๆไปทั่วทุกส่วนของร่างกายที่แช่น้ำยาอยู่ พริบตาเดียวร่างแข็งเกร็ง

แต่นางโดนกักไว้ในอ้อมกอดเฉินซ่า จะหนีก็หนีไม่รอด ปากโดนปากเขาอุดไว้ ลิ้นโดนกระหวัดพันรัด ขนาดคำพูดต่อต้านยังพูดออกมาไม่ได้

อันที่จริงนางยากถามเขาว่าเจ็บไหม

เฉินซ่ารับรู้ได้ถึงความรู้สึกโดนเข็มนับพันทิ่มแทงไปทั่วร่างกายจริงๆ ถึงจะเบากว่าตอนพิษกู่เขากำเริบมากนัก แต่สำหรับคนธรรมดาแล้วมันเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะทนรับได้แล้ว พอคิดว่าแก้วตาดวงใจของเขาต้องรับความทรมานเช่นนี้ตั้งแต่ยังเด็ก เขารู้สึกปวดใจยิ่งนัก

ผู้คนต่างรู้สึกว่าโหลชีมีความสามารถสูงนัก เรื่องพวกนี้ไม่ได้มีมาแต่เกิดทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าแค่ฝึกฝนนิดหน่อยก็จะฝึกฝนออกมาได้ ดูท่าความเจ็บปวดทรมานที่นางได้รับตั้งแต่ยังเด็กก็ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะคาดคิดได้

ปวดใจนัก จุมพิตจึงอ่อนโยนขึ้นมาก เขาจับมือนางไว้ ใช้แขนกันไว้ที่คอตนเอง โอบรัดนางแน่นขึ้น ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดกันแนบแน่นขึ้น

คนหนึ่งแข็งแรง อีกคนอ่อนนุ่ม

"อุ๊ เดี๋ยวก่อน" โหลชีพลันผลักเขาออก "เดี๋ยวจะมีความทิ่มแทงเจ็บปวดอย่างมากระยะหนึ่ง..."

"ถ้าเจ็บมากข้าให้เจ้ากัดข้าได้" เฉินซ่ากดหัวนางเข้าอ้อมกอด "ชีชี คิดว่าเพื่อชีวิตของข้า ทนไว้"

โหลชีอึ้ง เหนือหัวมีเสียงเฉินซ่าทุ้มต่ำลอยมา

"ถ้าเจ้าเกิดเรื่องขึ้น ถ้าเจ้าโดนผู้อื่นแย่งร่างกายไป ถ้าต้องเห็นเจ้าแต่กลับเป็นผู้อื่นแทนที่ เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร?"

พอเขาคิดถึงภาพนั้น ก็รู้สึกว่าหัวใจแทบจะระเบิดออกมา ถ้าเขากอดร่างกายเช่นนี้ แต่กลับพบว่าวิญญาณเปลี่ยนคนไป ไม่ใช่สตรีที่เขารักที่สุด แล้วเขาจะทำเช่นไร?

"หน้าตาของเจ้า ร่างกายของเจ้า หัวใจของเจ้าวิญญาณของเจ้า ล้วนเป็นของข้าทั้งสิ้น" เขาลูบหลังเรียบเนียนดุจผ้าไหมของนางแผ่วเบา ถึงจะบอกว่ารักเพียงคนเดียว ไม่ว่านางจะเปลี่ยนเป็นอะไรก็ไม่สนใจทั้งสิ้น แต่ร่างกายนี้เขารักใคร่ยิ่งนัก เขารักใคร่มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ถ้ายกให้ผู้อื่น สตรีนางนั้นจะหาบุรุษอื่นมาทำลายร่างกายนี้ เช่นนั้นเขาต้องบ้าแน่

ประตูเปิดออกแล้ว เฉินซ่ากับโหลชีจูงมือกันเดินออกมา ในที่สุดทั้งคู่ก็แต่งตัวเรียบร้อย เปลี่ยนเป็นชุดใหม่ ความองอาจสง่างามของเฉินซ่า ความอรชรงดงามของโหลชี ยืนเคียงไหล่กันอยู่ตรงนั้น เหมือนเปล่งแสงได้อย่างไงอย่างงั้น ดึงดูดสายตาทุกคนเข้าไป

ซวนหยวนคงที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ในศาลาที่ห่างออกไปหน่อยมองมายังพวกเขา พลันรู้สึกดวงตาร้อนผ่าว

ตอนนั้นเขาก็แค่หนุ่มน้อยที่พึ่งจะออกจากสำนักไปฝึกฝนคนหนึ่ง กลับโดนยัดเด็กทารกใส่มาให้ พริบตาเดียวต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ ความทุกข์ยากลำบากในนั้นไม่รู้ใครจะเข้าใจบ้าง ทั้งๆที่รักใคร่นางจนแทบจะยกขึ้นฟ้า ทั้งๆที่กลัวนางเจ็บแทบไม่ไหว แต่กลับต้องบีบบังคับตัวเองใจแข็ง ให้นางฝึกยุทธ์อย่างลำบาก วันๆเอาแต่จับนางแช่น้ำยา

การแช่น้ำยาทุกข์ทรมานแค่ไหนเขาไม่ใช่ไม่รู้

มีช่วงหนึ่ง เพราะว่าฝึกยุทธ์ นางเลยได้รับบาดเจ็บทุกวัน แต่พอทำไม่ได้ถึงระดับที่เขาต้องการ เขายังต้องลงโทษนาง มีครั้งหนึ่งนางฝึกคาถาวาโยท่ามกลางลมพายุฝน เขาอยู่ในห้องยังทนไม่ไหวน้ำตาไหลอาบแก้ม

แต่เขารู้ว่านางมีชะตาหน้าที่ของนาง เรื่องตอนนั้นเขารู้ไม่ละเอียดนัก แต่รู้ว่า ไม่ว่ายังไงก็ตาม นางเป็นจุดสำคัญ ทั่วใต้หล้านี้ต้องการนาง จะล่มสลายก็ต้องให้นางมาล่มมัน

"นักพรตเลว ตาแดงแล้วหรอ?"

เสียงใสกระจ่างของโหลชีพลันลอยมา ซวนหยวนคงรีบหันหน้าหนี กะพริบตาปริบๆบอก "ใครตาแดงกัน?"

"เชอะ เจ้าสงสารข้าก็ไม่ใช่แค่วันนี้เมื่อวานสักหน่อย ตอนเจ้าอายุสามสิบน่ะ ยังเคยร้องไห้ฉี่ราดเพราะข้าฝึกยุทธ์ได้รับบาดเจ็บสลบไปสองวันเต็มเลยนี่นา" โหลชีเปิดโปงเขาอย่างไม่ไว้หน้า

โหลวซิ่นทนไม่ไหวที่สุด หลุดหัวเราะพรืดออกมา

ซวนหยวนคงโกรธจัดทันที "เจ้าหนูเลวนี่ เจ้าน่ะสิฉี่ราด!" เขากระโดดขึ้นมาจะเข้าไปตบหัวนาง แต่โดนมือเฉินซ่ากันไว้ก่อน

เฉินซ่าพูดเสียงเรียบว่า "ตอนนี้ข้าสามารถสู้กับท่านได้ละ"

"มาสิ มาเลย!เจ้าหนูคิดว่าจะสู้ข้าได้รึ?" ซวนหยวนคงเริ่มพับแขนเสื้ออีก

เวลานี้มีคนเดินก้าวเท้ายาวเข้ามา นั่นคือศิษย์พี่ของซวนหยวนคง พ่อของฮั่วหยูฉุน

"ตีนเขาส่งข่าวมา ทหารยักษ์ร้ายพึ่งตีราชวงศ์เฉินแตกไปอีกเมือง ฆ่าหมดทั้งเมือง ไม่มีใครรอดเลย! สามวันต่อมาทหารยักษ์ร้ายจะทำการต่อสู้ซึ่งหน้ากับกองทัพใหญ่ที่ไท่ซ่างหวงแห่งราชวงศ์เฉินนำทัพด้วยตัวเอง!" เขามองเฉินซ่ากับโหลชีหนึ่งที พลางชะงัก ก่อนพูดต่อว่า "อีกอย่าง ระหว่างทางราชวงศ์ซวนหยวนส่งกองทหารไปช่วยราชวงศ์เฉิน แม่ทัพและท่านอ๋องโดนจับตัวไป กองทัพเลยหยุดชะงักลง ไร้ผู้สั่งการ"

ใต้หล้าวุ่นวาย

สีหน้าของโหลชีกับเฉินซ่าสองคนเคร่งเครียดขึ้นมาพร้อมกัน

"นี่มันรังแกตระกูลเฉินกับซวนหยวนไม่มีคนแล้ว" เฉินซ่าพูดขึ้นเนิบช้า

โหลชียิ้มมุมปากบอก "ต้องโทษพวกเราไม่มีชื่อเสียง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ลงเขาไปรบกับใต้หล้าเถอะ!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ