ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 625

"หยุนเฟิง" ยื่นมือออกไปเชยคางเขาขึ้นแผ่วเบา ท่าทางอย่างนั้นราวกับชายผู้หนึ่งกำลังเย้าหยอกหญิงนางโลม

อิงตัวสั่นไปทั้งตัว

เขาคันไปหมดทั้งตัว โดนบุรุษที่แต่งกายเป็นหญิงเย้าหยอกแบบนี้ ไม่สบายตัวเลยจริงๆ

"อืม หน้าตาไม่เลว คืนนี้ให้เจ้ารับใช้แล้วกัน"

"พรืด!"

อิงทนไม่ไหวอีกต่อไป

"เจ้ามิใช่ผู้ชายรึ?"

"วางใจเถิด ถึงเวลา ข้าจะใช้ร่างกายเสี่ยวโฉวก่อน" เขายิ้มอย่างงดงามขึ้นมา ยื่นมือไปประคองใบหน้าอิง "แต่เจ้าองอาจเพียงนี้ ข้าใช้ร่างกายจ้าวหยุนเฟิง เจ้าก็คงทำได้กระมัง?"

อิงอยากอ๊วกจริงๆ

ในใจเขาโห่ร้องตะโกน โหลชีเจ้าแกล้งข้า!นี่ต้องให้เขาเชื่อฟังด้วยรึ?

ร่างกายเขาแข็งเกร็ง อดกลั้นไม่ใช้ฝ่ามือซัดอีกฝ่ายให้ตาย พลางว่า "เจ้ามองยังไงว่าข้าหน้าตาหล่อเหลากัน? ดูใบหน้าข้าสิมีแต่บาดแผล บวมไปหมดแล้ว..."

"เจ้าต้องเรียกข้าว่าฝ่าบาทเหมือนกับพวกเขา" "หยุนเฟิง"ยิ้มเย้ายวน "ส่วนเรื่องบาดแผลบนใบหน้าเจ้า มิเป็นไรดอก มองออกว่าเดิมหน้าตาดีมาก ข้าจะช่วยเจ้ารักษาบาดแผลเอง แต่ว่าก่อนหน้านั้นเจ้าต้องเสียสละสักหน่อย ช่วยข้าทำเรื่องหนึ่ง"

ประเด็นหลักมาแล้ว

อิงดูขรึมขึ้นมาหน่อย "เรื่องอะไร?"

ไม่คิดว่า "หยุนเฟิง"จะพูดขึ้นว่า "โหลชีให้เจ้าเข้ามากระมัง?"

อิงอึ้งตะลึง พยักหน้าอย่างเปิดเผยว่า "ถูกต้อง นางบอกว่าข้าโดนพิษ พิษนี้นางแก้ไม่ได้ เพื่อให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อไป เลยให้ข้ามาหาเจ้า"

"ฮะฮะฮะฮะ นังหนูโง่นั่นเป็นห่วงชีวิตคนข้างกายอย่างนี้เสมอ เป็นข้อเสียจริงๆ"

ระหว่างพูด นางหันมองชิวชิ่นเซียนที่ยืนอยู่กลางห้องโถง กะพริบตางามใส่ "ใช่หรือไม่? โหลชี?"

โหลชี?

อิงตกใจมาก หันไปมองชิวชิ่นเซียนทันที

แต่ไม่ว่ามองยังไง ก็เป็นชิวชิ่นเซียนนี่นา!

ใบหน้าของชิวชิ่นเซียน เรือนร่างของชิวชิ่นเซียน ลักษณะของชิวชิ่นเซียนนี่นา

ชิวชิ่นเซียนมองเขาอย่างตะลึง นางไม่เข้าใจเอามากๆ "อะไรนะ?"

"หยุนเฟิง"จ้องนางเขม็งครู่หนึ่ง และสังเกตปฏิกิริยาของอิง พลันหัวเราะออกมา "ดูท่าข้าจะตาฝาด มองผิดไป เจ้าว่างั้นใช่หรือไม่ องครักษ์อิง?"

อิงเหล่เขาอย่างดูถูกนัก "จักรพรรดินีตรัสว่าในเมืองหลวงนี่ต้องมีผีแน่ ดูท่าเจ้าคงเตรียมกับดักไว้รอนางแล้ว ดังนั้นนางไม่มีทางเข้ามาอย่างนี้แน่นอน จะมาก็ต้องพากองทัพหลายแสนนายมาติดกำแพงเมืองบีบให้เจ้าออกไป"

"ฮะฮะฮะ ก็ดูเหมือนนิสัยนังหนูนั่น"

"หยุนเฟิง" พูดพลางหันมององครักษ์อิง "ในเมื่อโหลชีพูดอย่างนั้นแล้ว เจ้าจะยอมเชื่อฟังข้าทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตตนเองหรือไม่?"

อิงกัดฟัน พูดออกมาหนึ่งคำว่า "ใช่"

"แบบนี้ดีที่สุด ตอนนี้เจ้าไม่ต้องเชื่อฟังข้าทั้งหมด แต่ต่อไปเจ้าต้องเชื่อฟังนะ"

"หยุนเฟิง"ล้วงหยิบขวดยาออกมาจากในอกเสื้อ "ในนี้เป็นยาถอนพิษครั้งแรก แจกจ่ายไปคนละหนึ่งเม็ดเถิด ข้าจะบอกเจ้าให้ ยาถอนพิษหนึ่งเม็ดมีฤทธิ์แค่หนึ่งวันเท่านั้น"

วันเดียว?!

อิงโกรธนัก แต่เวลานี้ก็ไม่อาจพูดอะไรได้

เขาเทยาถอนพิษออกมาหนึ่งเม็ด กลืนลงไปอย่างไม่ลังเล จากนั้นโยนขวดให้ชิวชิ่นเซียน "ไปแจกให้พวกเขาเถิด"

ชิวชิ่นเซียนหันมอง"หยุนเฟิง" กิริยาที่แสดงออกว่ายอมเชื่อฟังคำสั่งนี้ทำให้เขายินดียิ่ง เขาโบกมือบอก "ไปเถิด เฮ่อเหลียนหมิง จัดที่พักให้พวกเขา คืนนี้ข้ามีงานจะให้พวกเขาทำ"

เฮ่อเหลียนหมิงยืนขึ้นมา เดินไปหาชิวชิ่นเซียน "ออกมา"

พอเขาเดินไป ชายหนึ่งหญิงหนึ่งก็เดินตามมา

ชิวชิ่นเซียนอดไม่อยู่หันมองสองคนนั้น ในตอนที่เห็นใบหน้าพวกเขา ดวงตานางมีประกายตกตะลึงวาบผ่าน แต่รีบเก็บมันไว้อย่างรวดเร็ว

"มองอะไร! นี่มิใช่สิ่งที่เจ้าจะมองได้!" เฮ่อเหลียนหมิงโกรธขึ้งทันที

ชิวชิ่นเซียนทำราวกับตกใจมาก รีบหลุบตาลง "เจ้าค่ะ"

ดูท่านางจะกลัวตายมากกว่าอิงเสียอีก

"หยุนเฟิง"มองนางพลางบอกกับเฮ่อเหลียนหมิงว่า "เหตุใดเจ้าต้องปกป้องของปลอมอย่างสองคนนั่นด้วย? คืนนี้ยังไงต้องใช้พวกเขา รออีกเดี๋ยวจัดการใบหน้าพวกเขาแล้ว แข็งเกร็งอย่างนี้ ต่อให้อยู่ห่างไกล เจ้าก็อย่าคิดจะหลอกเจ้าคนเจ้าเล่ห์อย่างโหลชีได้เลย"

"ฝ่าบาท จะใช้พวกเขาสองคนจริงรึ?"

"มิเช่นนั้น เวลาน้อยนิดแค่นี้ เจ้าจะหาใบหน้าสองหน้านั้นออกมายังไง? ข้าเตือนเจ้าไว้ก่อนเลยนะ ห้ามทำใบหน้าโหลชีอีก"

"ขอรับ แต่ว่า..." ดูเฮ่อเหลียนหมิงจะไม่อยากจากสองคนนี้ บางทีอาจต้องพูดว่าไม่อยากจากสองใบหน้านี้ "สองคนนี้ คนหนึ่งเคยเป็นองครักษ์ของหยุนโยว อีกคนเป็นพี่สาวบุญธรรมของกู่จิ้งเอ๋อร์ ตอนนั้นนางก็เคยอยู่ใกล้ชิดเฉินซ่าวัยเด็ก พิษกู่บนตัวเฉินซ่าเป็นฝีมือนาง ถ้าเกิดทำให้พวกเขาจับพิรุธได้..."

ปึ้ง!

"หยุนเฟิง" ซัดฝ่ามือหนึ่งใส่หน้าเขาไป เห็นได้ชัดว่าอารมณ์แปรปรวน "ไสหัวไป! ข้าบอกจะใช้พวกมันสองคน ก็ต้องเป็นพวกมันสองคน!เจ้ากอดของปลอมอย่างเจ้าสองคนนี้มานานหลายปี รักใคร่พวกมันขึ้นมาจริงๆหรือไง? รอข้าครอบครองร่างกายโหลชีแล้ว จะใช้สายเลือดดึงดูดให้หาตัวซวนหยวนจ้านและฮองเฮาเฉินกู่จิ้งเอ๋อร์เจอ ตัวจริงก็ยกให้เจ้าแล้ว เจ้ายังจะเก็บตัวปลอมสองคนนี้ไว้ทำอะไร?"

เฮ่อเหลียนหมิงโดนเขาซัดฝ่ามือกลางอากาศตบใส่หน้าไป พริบตาเดียวใบหน้าบวมขึ้นมาทันที

เขามองไปหนึ่งครั้ง พอดีเห็นเข้ากับนางเดินตามหลังเฮ่อเหลียนหมิงเลี้ยวไปพอดี ได้เห็นแค่ใบหน้าด้านข้างของนาง

พวกเขาโดนพาไปยังตำหนักชุนหวาที่ห่างไปไม่ไกล มีทหารเกือบสามสิบนายคอยจับตาดูอยู่

ชิวชิ่นเซียนเปิดขวดยานั้นออก แจกจ่ายไปคนละเม็ด หลังจากทุกคนกลืนลงไป นางกุมท้องบอกจะไปปลดทุกข์ มีทหารสองนายตามนางออกไป

ก่อนไป ทหารร่างสูงใหญ่คนนั้นร้องบอก "เดี๋ยวก่อน ข้าก็ปวดท้องเหมือนกัน ไปด้วยกันเถิด"

ยังไงซะก็มีแค่สองคน เหล่าองครักษ์เลยไม่ได้สงสัยอะไร พาพวกเขาไปห้องปลดทุกข์ ทั้งสี่คนยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก

แต่ไม่นาน ชิวชิ่นเซียนกับทหารร่างสูงใหญ่คนนั้นก็แอบออกมา และทำทหารสี่นายนั้นสลบไปอย่างไร้เสียงจากด้านหลัง

"ข้าจะวิเคราะห์ยาถอนพิษนี้สักหน่อย มีสูตรแล้วจะทำยาถอนพิษออกมาได้เร็วมาก" น้ำเสียงชิวชิ่นเซียนเปลี่ยนไปเป็นเสียงของโหลชี "ซ่า ท่านไปช่วยข้าดูหน่อย"

และเสียงกับราศีของทหารร่างสูงใหญ่นายนั้นก็เปลี่ยนตาม เห็นได้ชัดว่าเป็นเฉินซ่า

"เจ้าทำเรื่องของเจ้า อย่างอื่นยกให้ข้าจัดการเอง"

โหลชีรีบดึงหลอดแก้วสองอันออกมาจากผมอย่างรวดเร็ว และเอายาเม็ดเล็กที่ตนพึ่งทำเข้าไป เริ่มวิเคราะห์ พวกเขาลอบเข้ามา นี่เป็นหนึ่งในเป้าหมาย ได้ยาถอนพิษมาหน่อย นางถึงจะสามารถทำยาถอนพิษในปริมาณพอเพียงออกมาได้

อีกเป้าหมายหนึ่งคือ เพื่อหยุนเฟิงและเสี่ยวโฉว อีกอย่าง สืบว่าทำยังไงถึงจะทำลายผู้หญิงบ้าคนนั้นได้

เพียงแต่ความระแวงของผู้หญิงบ้าคนนั้นหนักมากจริงๆ รู้จักนางในระดับหนึ่ง เมื่อครู่ยังเลียบเคียงถามนางเลย ถ้าไม่ใช่เพราะโหลชีนิ่งพอ ตอนนี้คงโดนนางจับได้แล้ว

แต่มาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว นางได้รู้เรื่องที่อยากรู้มากมายเลย อย่างเช่นค่ายกลลอกวิญญาณที่ใหญ่เสียเปล่าบนตำหนักใหญ่นั่น อันที่จริงค่ายกลลอกวิญญาณนี่มีประโยชน์สองอย่าง สำหรับผู้หญิงบ้าคนนั้นแล้ว ก็มีประโยชน์ในการกักวิญญาณ นางอยู่ในร่างหยุนเฟิง ไม่สามารถออกจากค่ายกลลอกวิญญาณนั่นได้ ไม่งั้นก็จะอยู่ในร่างต่อไปไม่ได้

แต่ค่ายกลเยี่ยงนี้ต้องการให้มีคนช่วยวางค่ายกล วังศุทธิเซียน ค่ายกลลอกวิญญาณนั่นของนักพรตเลว ใครช่วยวางกัน? ฮูหยินโหยว?

เวลานี้โหลชียังไม่มีเวลาสนใจฮูหยินโหยวคนนั้น

นางยังได้รู้อีกเรื่องหนึ่ง และเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าตาซวนหยวนจ้าน เพียงแต่ไม่คิดเลยว่า จะเป็นการพบกันแบบนี้ เป็นการที่คนอื่นใช้ใบหน้าของเขา

"ซ่า ผู้หญิงคนนั้น ถูกจัดการให้เป็นหน้าตาของเสด็จแม่ของท่าน และนางยังเป็นคนที่ลงพิษกู่ใส่ท่านเมื่อตอนนั้น พี่สาวบุญธรรมของเสด็จแม่ท่าน"

นางพูดออกมา

เฉินซ่าร่างแข็งเกร็ง จากนั้นในแววตามีประกายแสงเย็นเยียบขึ้นมา

"งั้นรึ?"

"ท่านคิดจะทำอย่างไร?" โหลชีบอก "คืนนี้พวกมันจะใช้พวกเขามาล่อพวกเรา ผู้ชายอีกคนหนึ่งเป็นหน้าตาของซวนหยวนจ้าน"

นางเข้าใจความรู้สึกเฉินซ่าตอนนี้ดี เหมือนกับนาง พ่อตนเองโดนคนแอบดูแบบนี้ จัดการให้เป็นรูปร่างหน้าตาของเขา คอยอยู่เคียงข้างผู้ชายที่โรคจิตคนนั้น!

นางอยากฆ่าคน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ