ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 65

พูดว่านางเป็นผู้หญิงของเขาอีกแล้ว

โหลชีนวดขมับ

"เฉินซ่า ท่านเองก็รู้ว่ายกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนมไปแล้วจะเกิดผลอย่างไร? เหตุใดจึง..."

เฉินซ่าตัดบทคำนาง "เจ้าอยากให้มีสตรีอื่นมาแบ่งปันข้ากับเจ้ารึ?"

"หา? อะไรนะ? แค่กแค่ก แค่กแค่ก..." โหลชีไม่รู้จะทำตัวยังไงดีแล้ว ไม่เล่นแบบนี้สิ ต่อให้พวกเขาจะคบกัน ก็ต้องแบบรอให้อีกฝ่ายชอบ แล้วเขามาจีบนาง นางรู้สึกโอเคถึงยอมเป็นแฟนเขาสิ ค่อยเป็นค่อยไปทีละก้าวใช่ไหม? ตอนนี้ยังไม่ได้มีอะไรเลย ข้ามผ่านเข้าขั้นตอนสามีภรรยาเลย?

นางรับปากแล้วหรอ? นางรับปากแล้วหรือไง?

"ตอบข้า" เฉินซ่าบีบแก้มนางไว้ สายตาจ้องมองมาทางนางอย่างจริงจัง ความหมายที่สื่อออกมาคือ ถ้าเจ้ากล้าตอบว่าใช่ ข้าจะทำเจ้าแหลกเป็นชิ้นๆแน่

โหลชีไม่ใช่คนโง่ มองออกว่าเขาจริงจัง มองออกถึงความรักในดวงตาเขา มองออกถึงความบ้าคลั่งและครอบครองของเขา นางไม่รู้ว่าเขาชอบนางตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าทำไมแค่เพียงครึ่งเดือนกว่าๆก็ทำให้เขายอมยกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนมที่เตรียมการมายาวนานเพื่อนาง

เขาบ้าอำนาจ เขาอหังการ์ เขาทำอะไรตามใจ ไม่สนใจเลยว่ายกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนมไปแล้วจะเกิดผลลัพธ์ยังไง

แต่น่าตายนัก ผู้ชายแบบนี้มันสเปคนางเลย โดนใจนางจริงๆ อันที่จริงแล้วผู้ชายแบบนี้นางชอบจริงๆ ชอบ

โหลชีเม้มปาก ปัดมือเขาออก ดันตัวเองไปหน้าเขา สองมือกุมหน้าเขาไว้ ตนเองนั่งบนตัวเขา สี่สายตาประสานกัน

นางเก็บท่าทีเสแสร้งทั้งหมดขึ้น ถอดหน้ากากทั้งหมดออก ในวินาทีนี้กลับมาเป็นราชินีโหลชีคนเดิม

"เฉินซ่า เจ้าฟังข้านะ" นางพูดอย่างชัดเจน "ข้าเป็นสตรีที่เห็นแก่ตัวและขี้หึง จำความแค้นได้ขึ้นใจ ดื้อรั้นมาก" เขามองนาง ผงกหัวเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่ากำลังฟัง

นางพูดต่อไปว่า "ตอนนี้เจ้ามาหาเรื่องข้าก่อน เจ้ามาหาเรื่องข้า ต้องคิดให้ดี คำพูดบางอย่างข้าจะพูดกับเจ้าให้ชัดเจนก่อน หากเจ้าคิดจะอยู่กับข้าจริง เยี่ยงนั้น ไม่เพียงว่านับจากนี้ข้าจะเป็นสตรีของเจ้า ตรงกันข้าม นับแต่นี้เจ้าก็เป็นบุรุษของข้าด้วย! ข้าไม่ยอมรับกับความรักที่หลอกลวง ไม่ยอมรับการเล่นสนุก ยิ่งไปกว่านั้น ข้าไม่ยอมรับการทรยศหักหลัง! เจ้ามีข้าแล้ว ข้าไม่อนุญาตให้เจ้ามีสตรีอื่นใดอีก หัวใจและร่างกายของเจ้า ต้องปกปักรักษาไว้ให้ดี! หากเจ้ากล้าทรยศหักหลังข้า ข้าจะฆ่าเจ้าแน่!"

"ดังนั้น ทางที่ดีท่านควรคิดให้รอบคอบก่อน"

สิ่งที่ตอบนางมาคือ เฉินซ่าโอบนางพลิกตัว และกดร่างนางไว้ใต้ร่างเขา ระดมจูบอย่างบ้าคลั่ง

โหลชีนวดหัวที่ระบมเล็กน้อยและได้สติกลับมา พบว่า ตนเองกำลังเกาะอยู่บนแผงอกใครบางคน พอเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็กำลังมองนางอย่างเร่าร้อนเช่นกัน

โหลชีกำลังจะลุกขึ้น และก็นึกขึ้นมาได้ว่า วันนี้เป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำแล้ว! วันนี้นางต้องอยู่ใกล้เขาไม่ให้ห่างแม้แต่วินาทีเดียว ต้องเป็นยาให้เขา ตอนนี้ถ้านางออกไป เขาจะเลือดออกท่วมกายทันที สองตาแดงก่ำ กลายเป็นเจ้าตัวเต็มเลือดคนนั้นที่นางเจอตอนพึ่งมาที่นี่

"มิต้องกลัว วันนี้ข้าจะไม่ห่างกายท่านเลย" นางยิ้มให้กับเขา

เฉินซ่าไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หัวใจคล้ายถูกบีบรัดและคลายออก ในสายตาของทุกคน เขาเก่งกาจมาตลอด น่ากลัวนัก นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับเขาว่าไม่ต้องกลัว

เขาเคยกลัวด้วยรึ? ไม่ เขาไม่เคยเกรงกลัวผู้ใดมาก่อน ผ่านร้อนผ่านหนาวมายี่สิบกว่าปีนี้ เขาเหนื่อยเป็น และโดดเดี่ยวเช่นกัน

ตอนนี้นางกลับมาเติมเต็มความว่างเปล่าให้กับเขาแล้ว

ความรู้สึกเช่นนี้เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเขา แต่ดีมาก รู้สึกดีมาก

เขาโอบนางไว้แน่น ตะโกนว่า "ใครก็ได้"

เทียนยีปรากฏตัวหลังม่านมู่ลี่ในพริบตา "ฝ่าบาท!" น้ำเสียงเทียนยีมีแววยินดีปรีดาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินองครักษ์อิงบอกว่า ขอเพียงมีโหลชีอยู่ข้างกาย ฝ่าบาทจะไม่อาการกำเริบในวันขึ้นสิบห้าค่ำ และไม่ต่างอะไรกับคนปกติเลย! ดูท่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ  เป็นเช่นนั้นจริงๆ  !

ดี ช่างดียิ่งนัก!

แบบนี้ยังจะกลัวอะไร ยังต้องกลัวอะไรอีก

"บอกพวกอิง พิธีคัดเลือกพระสนมจัดตามเดิม"

"ขอรับ!"

เทียนยีหายตัวไป

อิงกับเยว่ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกตั้งแต่เช้าพอได้ยินข่าวนี้ พลันถอนหายใจโล่งอก

พวกเขาไม่ได้นอนทั้งคืน กลัวโหลชีไม่ยอมเกลี้ยกล่อมนายท่าน หากพิธียกเลิกจริง พวกเขาคงต้องเครียดกันมากแน่ โชคยังดี โชคยังดี

"โหลชีมีผลกระทบต่อนายท่านไม่น้อยจริงๆ" เยว่พูดเสียงเรียบ

อิงมองไปทางตำหนักบรรทมของฝ่าบาท โอบไหล่เขาบอกว่า "นางมีประโยชน์ไม่น้อย ยอมนาง ยอมนาง"

ทั้งสองพากันไปจัดการงานส่วนของตน

เทียนยียืนเฝ้าอยู่ด้านนอกตำหนัก ไม่นานเอ้อร์หลิงยกอ่างล้างหน้าเข้ามา

เฉินซ่ากับโหลชีแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว แต่เอ้อร์หลิงยังรู้สึกหน้าร้อนผ่าวแดงเรื่อ เพราะเฉินซ่านั่งอยู่บนเตียง โดยมีโหลชีนั่งอยู่บนตักเขา ปกติมิเคยเห็นพวกเขาแสดงท่าทีสนิทสนมเยี่ยงนี้ต่อหน้าผู้คนมาก่อน...

อีกอย่าง ด้านนอกลือกันว่าฝ่าบาทในวันนี้น่ากลัวมาก มิใช่กระมัง เหมือนปกตินี่นา? นางรู้สึกว่าฝ่าบาทในตอนนี้ยังดูเย็นชาน้อยกว่าปกติด้วยซ้ำ

นางพูดจบก็ตวัดมือจะเดินออกไป โหลชีกลับสายตาดำมืด และสะบัดเล็บ มีผงเล็กน้อยหล่นใส่คอเสื้อของน่าหลานตันเอ๋อร์

คนที่รังแกนาง ทำลายอาหารเช้าของนาง จะไม่เก็บกำไรอะไรเลยก็ไปแบบนี้ เป็นไปได้หรอ จะเป็นไปได้ยังไง นางบอกแล้ว นางเป็นคนเห็นแก่ตัวงกและยังเจ้าคิดเจ้าแค้นคนหนึ่ง

เป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

นางโอบคอเฉินซ่า และหรี่ตาบอกว่า "นี่ ถ้าต้องแตกหักกับเขาเวิ่นเทียนเพื่อข้า ท่านจะเสียใจหรือไม่? กลัวไหม?"

เฉินซ่าจับนางลงจากหลังมากอดไว้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "ถ้าข้าจะปะทะกับเขาเวิ่นเทียน เจ้ากลัวหรือไม่?"

ตะลึงไปเล็กน้อย โหลชีหัวเราะร่าออกมา พูดอย่างไม่เกรงกลัว "กลัว กลัวกะผีน่ะสิ! ข้าเอากะท่านด้วย!"

เขาเวิ่นเทียน คิดว่าพวกเขาเป็นผู้ควบคุมกฎของโลกนี้หรือไง? เป็นศัตรูกับนาง ต้องโดนระเบิดให้ราบทั้งภูเขา! ใครกลัวใครกันล่ะ!

เฉินซ่ามองท่าทีหัวเราะอย่างถือดีของนางแล้ว อดใจไม่ไหวก้มหน้าลงไป จูบ จูบที่ริมฝีปากนาง เขาชอบสตรีนางนี้ ชอบยิ่งนัก ทุกคนล้วนพยายามเกลี้ยกล่อมเขาให้ทน ทนอดกลั้นความโกรธทั้งหมด ทนเขาเวิ่นเทียน เพราะทนชั่วครู่ทำให้ลมสงบ! เพราะเขาเวิ่นเทียนแข็งแกร่งมากเกินไป มีเพียงนาง มีเพียงนาง ที่พูดอย่างโอหังไม่เกรงกลัวเช่นนี้กับเขาว่า กลัวกะผีน่ะสิ นางจะเอาด้วยกับเขา!

เขารู้ เขารู้ดีว่า นางมิได้เป็นอย่างที่เห็นเมื่อครั้งแรก มิได้อ่อนแอขี้ขลาด มิใช่เลย

สตรีที่คนอย่างเขาเฉินซ่าเลือก จะอ่อนแอขี้ขลาดได้อย่างไรกัน จะเป็นไปได้อย่างไร!

เอ้อร์หลิงหันหน้าหนี ปิดตาเอาไว้

ฮือฮือ ให้ตายสิ เหตุใดฝ่าบาทจึงกระทำเช่นนี้ต่อหน้าพวกเขากัน น่าอายยิ่งนัก

วันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนเก้า พิธีคัดเลือกพระสนมของฝ่าบาทแห่งพั่วอวี้

ทั่วทั้งพั่วอวี้ล้วนประดับประดาโคมไฟมากมาย มีแต่เสียงหัวเราะยินดีปรีดา

ตำหนักจิ่วเซียว นับจากด้านนอกจนถึงตำหนักหนึ่งตำหนักสาม ทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยความร่าเริง นางกำนัลแต่ละตำหนักของตำหนักสองล้วนประจำที่ รอเพียงนายหญิงที่จะมาอยู่ตำหนักตน

ทั้งหมดหกพระที่นั่งคืนนี้ฝ่าบาทคงจะคิดเลือกพระสนมอย่างน้อยสามคน หากเป็นไปได้ คงจะเลือกทั้งหมดหกคนเลย

เหล่านางกำนัลมิได้คิดอะไรมากมาย เพียงแต่รู้สึกว่า ถ้าตำหนักจิ่วเซียวมีนายหญิงแล้วคงจะคึกคักขึ้นมา บางทีฝ่าบาทคงจะรู้สึกดีขึ้นหน่อย ถ้าผู้ใดได้รับความเมตตาได้เข้าตำหนักสาม พวกนางก็จะสามารถตามเข้าไปได้ด้วย

ส่วนเหล่าพ่อบ้านคิดมากไปกว่านั้นเล็กน้อย หากเลือกสนมถึงหกคน แสดงว่าอย่างน้อยฝ่าบาทจะมีอำนาจสนับสนุนเพิ่มอีกหกแห่ง เช่นนั้นแล้ววันที่พวกเขาจะตราทัพกำราบพั่วอวี้ถิ่นทุรกันดารคงใกล้ถึงแล้วละ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ