“นายจะกลับเข้าบริษัทหรือว่าจะไปกินอาหารเที่ยงก่อนครับ” แดร็กเอ่ยถามขึ้นในขณะที่รถยนต์ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน หลังจากเสียงสะอื้นไห้ของเพตราจบลง
“กินข้าวเที่ยงหรือยัง” มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามเจ้าของร่างเล็กบนหน้าตักเสียงราบเรียบ ก่อนจะเชยคางมนเพื่อรอคำตอบ
“จะกินได้ยังไงพาหนูออกมาก่อนพักเที่ยงอีก” เพตราทำหน้าบูดบึ้งแต่ก็ยอมทิ้งตัวซบแผงอกแกร่งแล้วยกมือขึ้นมาบีบแก้มสากเบาๆ ราวกับมันเป็นของเล่น
“ไปร้านเดิม” โชแปงสบตากับแดร็กผ่านกระจกมองหลังเป็นคำตอบ แล้วจึงหลุบตามองมือเด็กสาวเพียงนิดก่อนจะดึงลงมากุมไว้ที่ตัก
“หนูอยากกินส้มตำ”
“ฉันกินไม่เป็น”
“มันอร่อยมากๆ ลองกินไหม” มาเฟียหนุ่มส่ายหัวเป็นคำตอบ เพียงแค่นึกถึงหน้าตาประหลาดๆ ของมันก็รู้สึกไม่โอเคแล้ว เพตราทำหน้าบูดบึ้งเมื่อถูกคนตัวสูงปฏิเสธ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้งอแงอะไร
“ร้านประจำของเธออยู่ไหน”
“อยู่หลังมหาลัยค่ะ”
“ไอ้แดร็กไปร้านนั้น” มาเฟียหนุ่มยอมตามใจคนตัวเล็กเพราะเห็นว่าเธอกำลังเสียใจเรื่องแม่อยู่ อาหารอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เพตรารู้สึกดีมากขึ้นก็ได้
“ครับนาย”
“เดี๋ยวนี้ใจดีนะเนี่ย”
“อยากให้ฉันใจร้ายเหรอ”
“หนูไม่ชอบความรุนแรง”
“แต่เธอก็ชอบให้ฉันกระแทกแรงๆ” คำพูดหยอกล้อหยาบคายของคนตัวสูง ส่งผลให้ใบหน้าสะสวยแดงเห่อล่ามจนถึงใบหู ร่างบางยกมือปิดปากหนาแล้วตีมันเบาๆ โทษฐานที่มันทำให้เธอเขินอายจนแทบบ้าขนาดนี้
“เพราะใครล่ะ” เพตรามองค้อนโชแปงด้วยใบหน้าที่ยังแดงระเรื่อไม่จางหายไป เพราะเขาถึงทำให้เธอคุ้นชินกับเซ็กซ์ดุเดือดในทุกๆ คืน ยิ่งเวลาเขาเล้าโลมมันยิ่งทำให้เธอคล้อยตามเกือบทุกครั้ง
“เพราะเธอติดใจเซ็กซ์ของฉันมากกว่า”
“เพราะพี่นั่นแหละ ติดใจหนู”
“หึ” ชายหนุ่มไม่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของเด็กสาวแม้แต่นิด เพราะเขารู้ตัวว่าทุกๆ อย่างในร่างกายของเธอมันเข้ากับเขาได้โดยไม่ต้องทำอะไรมากมาย
“อยากไปจากที่นี่จัง” เด็กสาวมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะพึมพำขึ้นมาเสียงแผ่วเบา แต่ก็พอจะเล็ดลอดให้มาเฟียหนุ่มได้ยิน
“จากฉัน?”
“ไม่ใช่…หนูอยากหนีจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในชีวิต”
“…” โชแปงเงียบยอมเป็นผู้ฟังที่ดีให้คนตัวเล็กอธิบายสิ่งที่เคยเจอออกมาให้หมด อาจจะช่วยให้เธอสบายใจได้มากขึ้น
“อยากอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่อยากอยู่ที่ประเทศนี้อีกแล้ว” ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พ่อเธอจะกลับมาพาเธอไปเร่ขายให้กับคนมีเงินอย่างไร้ศักด์ศรีอีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าที่ผู้เป็นพ่อหายเข้ากลีบเมฆไปเป็นเพราะรู้ว่าโชแปงกำลังดูแลเธอหรือว่าหาเธอไม่เจอกันแน่
“…”
“หนูฝันอยากมีแฟนดีๆ สักคน อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์เพราะตั้งแต่จำความได้ชีวิตหนูมันไม่เคยสมบูรณ์เลยสักครั้ง” ตั้งแต่จำความได้พ่อแม่ของเธอก็ทะเลาะกันบ้านแตกแทบจะทุกวัน พ่อติดการพนันส่วนแม่ของเธอก็มีชู้ตามคำบอกกล่าวของผู้เป็นพ่อ มันเลยกลายเป็นครอบครัวที่ร้อนเป็นไฟแทนที่จะอบอุ่นอย่างครอบครัวของคนอื่นๆ
“อายุแค่นี้ยังต้องเจออะไรอีกมากมาย”
“พี่อายุเท่าไหร่กันเชียว พูดเหมือนคนอายุสี่สิบไปได้”
“อายุเยอะกว่าเธอแล้วกัน”
“เบื่อหนูไหม…ตอนนี้เบื่อหนูแล้วรึยัง” หญิงสาวขยับตัวนั่งคร่อมตักแกร่งของมาเฟียหนุ่ม ส่งผลให้กระโปรงทรงเอร่นขึ้นมาจนเกือบเห็นแพนตี้ลายลูกไม้สีดำ
“พี่ถามอะไรเนี่ย” โชแปงปัดมือเพตราออกอย่างแรงก่อนจะถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“จูบกับไอ้เวรนั่นรึยัง”
“จูบหรือไม่จูบมันสำคัญกับพี่ยังไง”
“…”
“ยังไม่ได้จูบ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจริงจังกับสิ่งที่ถามออกมาเธอจึงยอมตอบแต่ไม่ยอมบอกความจริงกับเขา
“สายตาของเธอมันโกหกฉันไม่ได้หรอกนะ”
“…”
“ฉันให้โอกาสตอบอีกครั้งนึง…จูบกับมันรึยัง?”
“จะ…จูบแล้วค่ะ” เพตราก้มหน้าตอบคำถามราวกับโดนแฟนจับได้ว่ามีกิ๊กทั้งที่มันเป็นอดีตของเธอและนานมากแล้วด้วย
“ยัยเพย์” ยังไม่ทันที่โชแปงจะได้เอาเรื่องคนตัวเล็กที่กล้าโกหกเขา เสียงแหลมของใบหม่อนก็ตะโกนทักทายเพื่อนรักที่บังเอิญมาเจอกัน หลังจากไม่ได้เจอกันมานานเกือบเดือน
“ยะ…ยัยหม่อน” เพตราทำหน้าราวกับเห็นผี สิ่งที่เธอไม่ต้องการให้ใบหม่อนรู้มากที่สุดก็คือเธอกำลังมีความสัมพันธ์บางอย่างกับมาเฟียอย่างโชแปง
“พาผู้ชายที่ไหนมากินส้มตำ…พี่เกียร์ใช่ไหม” โชคดีที่ลูกค้าเพิ่งเริ่มทยอยกันออกจากร้านไป ทำให้เหลือเพียงแค่เพตราโชแปงและใบหม่อนที่อยู่ภายในร้าน จึงไม่มีใครได้ยินคำพูดของใบหม่อนที่ตะโกนถามพร้อมกับก้าวขาเดินเข้าไปหาเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม
“…” ชื่อบุคคลที่สามทำโชแปงเกิดไม่สบอารมณ์ขึ้นมาและมากไปกว่านั้นยังถูกคิดว่าเป็นผู้ชายอีกคนของเพตราอีกต่างหาก
“อ้าว! ไม่ใช่พี่เกียร์นี่ แกมีแฟนใหม่แล้วเหรอ” ใบหม่อนพยายามแซวโดยไม่รับรู้ถึงอารมณ์ของโชแปงเลยสักนิด มีเพียงแค่เพตราที่ทำหน้าไม่สู้ดีเพราะกลัวว่าจะถูกหมายหัว
“แกช่วยอย่าพูดถึงพี่เกียร์ได้ไหม ฉันขอร้องล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: BAD NIGHT คืนร้ายคืนรัก