บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 100

สิบล้านตำลึง!

ทันทีที่องค์หญิงหลิงหยุนหยิบใบกษาปณ์แก้วแดงออกมา ทั้งลานล้วนตกอกตกใจ

การเดิมพันนี้ใหญ่หลวงพอตัวจริงๆ!

แต่ในใบกษาปณ์แก้วกาฬที่เย่จายซิงนำออกมามียอดเงินถึงร้อยล้านตำลึง ต่อให้ถึงตอนนั้นองค์หญิงหลิงหยุนได้ส่วนแบ่งไปก้อนโต คนอื่นๆ ก็ยังแบ่งเอาไปได้อีกเยอะอยู่ดี

นอกจากนี้ แม้กระทั่งองค์หญิงหลิงหยุนยังซื้อให้เหยียนฮั๋วกวงชนะ แสดงว่าเย่ยู่หยางต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

ต่อให้สิ่งที่เย่จายซิงพูดจะเป็นความจริง เย่ยู่หยางฟื้นวรยุทธกลับคืนมาได้จริง เขาก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเหยียนฮั๋วกวงได้

นับประสาอะไรเล่า ไม่มีใครคิดว่าเย่ยู่หยางฟื้นวรยุทธกลับคืนมาได้จริง มากสุดก็แค่รักษาขาจนหายดีเท่านั้น

ในตอนแรกที่เขาตกจากโอรสสวรรค์กลายเป็นคนพิการ กล่าวได้เลยว่าสั่นสะเทือนไปทั่วแคว้น หมอเทวดาหลายคนล้วนบอกว่าเขาไม่อาจฝึกวรยุทธได้อีกแล้วในชีวิตนี้ เว้นเสียแต่ว่าจะมียานิพพาน แต่ใครจะไม่รู้บ้างว่ายานิพพานหายสาบสูญไปชั่วอายุคนแล้ว อีกอย่าง ต่อให้มีอาจารย์กลั่นยาที่มีวิชาแก่กล้าสามารถกลั่นยานิพพานออกมาได้ แล้วมันจะตกมาถึงเขาหรือ?

ผู้คนนำสมบัติที่มีค่าที่สุดของตนเองออกมาเดิมพันอย่างไม่มีใครยอมใคร ไม่นาน ถาดด้านขวาก็มีสมบัติแต่ละอย่างกองพะเนินสูงเท่าคนหนึ่งคน มากมายหลายสิ่ง ชวนให้ตามึนลายไปหมด

“ใกล้ได้เวลาแล้ว มีใครยังไม่ได้เดิมพันอีกหรือไม่? หรือหากจะเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันนะ ข้าจะย้ำเป็นครั้งสุดท้าย เสี่ยวยู่เขาฟื้นวรยุทธกลับมาได้แล้ว ถึงตอนนั้นพวกเจ้าห้ามมาเสียใจทีหลังนะ”

“เจ้าคงไม่ได้จะกลับคำหรอกนะ!”

มีคนมองเย่จายซิงอย่างระแวดระวัง

“ข้าจะกลับคำได้อย่างไร เพราะเสี่ยวยู่ต้องชนะแน่ คนที่จะต้องเสียใจที่หลังก็คือพวกเจ้า”

น้ำเสียงของนางเอื่อยเฉื่อย แต่นัยน์ตากลับส่องประกายแวววาว

เห็นนางเป็นเช่นนี้ จึงมีคนรู้สึกลังเลในใจ นางมีความมั่นใจสูงมาก หากบนหน้าไม่มีปานแดงปื้นใหญ่ที่น่าเกลียดไปเสียหน่อยขนาดนั้น คงงดงามน่าดู

“ข้าเจ้าพระยาเซี่ยขอเสริมด้วยยาขั้นห้าสามสิบเม็ด เดิมพันว่าเย่ยู่หยางต้องแพ้อย่างไร้กังขาแน่นอน!”

ทันใดนั้นเจ้าพระยาเซี่ยก็นำขวดยาขวดหนึ่งออกมา เปิดจุกขวดออก จากนั้นกลิ่นหอมของยาขั้นห้าก็ลอยโชยออกมา

“ยาขั้นห้าสามสิบเม็ด มูลค่ามหาศาล!”

“เจ้าพระยาเซี่ยใจป้ำยิ่งนัก!”

ผู้คนพากันออกความเห็น

เจ้าพระยาเซี่ยนำขวดยาโยนเข้าไปในกองสมบัติ แล้วพูดถากถางว่า: “เย่จายซิง วันนี้น้องชายเจ้าแพ้แแน่นอน เจ้าบอกว่าจะไม่กลับคำ คงไม่พ้นทำเป็นใจใหญ่เพื่อรักษาหน้าล่ะสิ ไม่ว่าเจ้าจะเอาใบกษาปณ์แก้วกาฬใบนี้มาจากไหน เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้น้ำหินทิพย์ในนี้กลับไปแม้แต่ก้อนเดียว!”

“เฮอะๆ ”

เย่จายซิงหัวเราะเยาะ : “บุตรชายแห่งสมาคมนักกลั่นยาสาขา นำยาน้อยนิดขนาดนี้ออกมาเดิมพันเสียได้ ท่านยังมีแก่ใจมาผยองอีกหรือ หากข้าเป็นท่าน จะหนีบหางให้แน่นแล้วไม่ออกมาให้ขายขี้หน้าชาวบ้านเลย”

“พูดจาสามหาว! ยาขั้นห้าสามสิบเม็ด มูลค่านับล้านตำลึง เจ้ามีปัญญาหามาได้สักเม็ดไหมเล่า? ”

เจ้าพระยาเซี่ยจ้องนางอย่างเชือดเฉือน

“พอเถิด ท่านเจ้าพระยา ท่านอย่าไปเถียงกับน้องสี่เลย ใบกษาปณ์แก้วกาฬของนางคงเป็นอ๋องเซ่อเจิ้งที่มอบให้ ข้าคิดว่านางคงอยากทำประชดถึงได้นำใบกษาปณ์แก้วกาฬออกมา ในใจคงกำลังนึกเสียดายและโมโหอยู่แน่ๆ พูดจาไม่ดีก็ไม่แปลกอะไร”

ยู่เจียหยูทำหน้าอ่อนโยนกล่าวกับเซี่ยซือห้าว

ความจริงนางก็อยากเดิมพันเช่นกัน ทว่าในฐานะญาติผู้พี่ของเย่ยู่หยาง หากนางพนันว่าเหยียนฮั๋วกวงชนะ คนอื่นจะต้องมีคำครหาแน่ เสียดายนัก ไม่อย่างนั้น คงได้แบ่งร้อยล้านตำลึงนี้กับเขาด้วย ยอดเงินมากมายขนาดนี้ ใครบ้างจะไม่ตาลุกวาว

แต่เพื่อภาพลักษณ์ของนางที่อยู่ในอุดมคติของทุกคน จึงได้แต่หักห้ามความร้อนรุ่มไว้ในใจ

“ได้เวลาแล้ว! ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้เกียรติ ทุกท่านจงวางใจ วันนี้จะต้องทำให้พวกท่านรับทรัพย์เป็นถุงเป็นถังอย่างแน่นอน!”

เหยียนฮั๋วกวงกระแทกดาบลงบนพื้น ก่อเกิดเสียงวิ้งวิ้งเบาๆ พาให้ทุกคนตัวตื่นหน้าตั้ง

“วรยุทธแดนศิษย์ทิพย์ขั้นแปดตอนปลาย!”

“คุณชายเหยียนเป็นคนหนุ่มอนาคตไกลจริงๆ! อายุน้อยเท่านี้ก็มีวรยุทธสูงขนาดนี้แล้ว ที่กล่าวกันว่าอัจฉริยะนั้นไม่เกินจริงเลย!”

“ฮ่าฮ่า ประเสริฐแท้ คิดไม่ถึงเลยว่ามาชมการประลอง แล้วยังจะชนะได้เงินอีก!”

“เป็นพลังวิญญาณแดนศิษย์ทิพย์ขั้นเจ็ดอีกต่างหาก!!”

“ไม่! นี่ไม่ใช่เรื่องจริง!”

“เป็นไปได้อย่างไร!”

ชั่วขณะนี้ ทุกคนล้วนตาโตอ้าปากค้าง ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เหว้ยไฉเวยลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที ปากอ้าสุดความกว้าง นัยน์ตาสะท้อนแววตกตะลึงสุดขีด

“เจ้า…เจ้าฟื้นวรยุทธกลับมาได้แล้วจริงๆ หรือนี่!”

ในหัวของนางนึกย้อนไปถึงเมื่อสิบวันก่อนทันใด เย่ยู่หยางบอกว่าเขาฟื้นวรยุทธกลับมาได้ แต่นางไม่เชื่อ ทั้งยังคิดว่าเขาโกหก

ทว่ามันคือเรื่องจริง!

แต่เย่ยู่หยางไม่ได้มองนาง เขาชี้กระบี่ไปที่เหยียนฮั๋วกวง แล้วเอ่ยเสียงหมางเมิน:

“ตอนอยู่ในแดนลับ นักรบเดนตายของเจ้าโผล่มา ตัดเส้นลมปราณของข้า ทำลายตันเถียนของข้า บดกระดูกขาของข้า วันนี้ ความแค้นระหว่างเจ้าและข้า ถึงเวลาปิดฉากมันแล้ว”

เหยียนฮั๋วกวงถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว เขาสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตบนร่างของเย่ยู่หยาง คล้ายกับเขาได้ย้อนกลับไปตอนแรกที่ถูกรัศมีของเย่ยู่หยางสยบจนหม่นหมองไร้แสงอีกครั้ง

ไม่!

ครึ่งปีนี้แดนของเขาก้าวหน้าขึ้นมาก ต่อให้ตอนนี้เย่ยู่หยางจะฟื้นวรยุทธกลับคืนมาแล้ว แต่ก็ต่ำกว่าเขาอยู่หนึ่งแดน มีอะไรให้เขาต้องกลัวกัน!

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพล่ามมั่วซั่วอะไร ในแดนลับเจ้าประสบเคราะห์เอง เกี่ยวอะไรกับข้า ในเมื่อเจ้าต้องการสู้กับข้า เช่นนั้นข้าก็จะไปกับเจ้าให้ถึงที่สุด!”

เขาไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว เย่ยู่หยางเองก็ไม่มีหลักฐาน

แต่วันนี้เขาจะทำให้เย่ยู่หยางกลายเป็นคนพิการจริงๆ อีกครั้ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา