บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 109

เย่เจ๋อบูและแม่นางโจวตื่นเต้นจนแทบจะเป็นลม

พวกเขาถูกขลังจนหวาดกลัวไปหมด แถมยังกลัวการถูกทรมานจากการสอบปากคำ

เมื่อได้ยินว่าเย่เจียหรงปล่อยพวกเขาออกมา สายตาที่พวกเขามองนางราวกับมองเห็นพ่อแม่แท้ๆ ของตน

“หรงเอ๋อร์ เจ้าแน่ใจแล้วใช่หรือไม่”

เย่เจ๋อหย่งถามนางพลางขมวดคิ้วแน่น

“พวกเราโดนบางคนหลอกลวงเสียแล้ว มีคนตั้งใจใส่ร้ายอาสามกับน้าสาม และได้ย้ายเอาสมบัติในคลังออกไปแล้ว อาสามกับน้าสามถูกใส่ร้ายจนมีสภาพน่าสงสารเช่นนี้ พวกเราจะต้องเอาคืนนะเจ้าคะ”

เย่เจียหรงหรี่ตาพลางมองไปทางทั้งสองคนที่มีสภาพไม่ต่างจากขอทาน

“ใครกัน! เป็นฝีมือของใครกันแน่ ข้าจะต้องทำให้พวกมันมีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น”

เย่เจ๋อบูตะโกนลั่น

“แน่นอนว่าเป็นฝีมือของน้องสี่อย่างไรเล่า กุญแจอยู่ในมือของนางมาตลอด นางจะยอมมอบกุญแจให้คนอื่นได้อย่างไร นางตั้งใจวางแผนให้พวกเราบ้านสองและบ้านสามเข่นฆ่ากันเอง นางจะได้ยึดเอาสมบัติไปและเสวยสุขคนเดียว”

นางกล่าวพลางยิ้มอย่างเลือดเย็น “คิดไม่ถึงเลยว่าน้องสี่จะเจ้าแผนการขนาดนี้ พวกเราประเมินนางต่ำเกินไปเสียแล้ว”

แววตาของฮูหยินเฒ่าและคนอื่นๆ เต็มไปด้วยคำถาม เพราะไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คิดไปไม่ถึงเย่จายซิง

เมื่อก่อนเย่จายซิงเป็นคนไม่กล้าต่อปากต่อคำ ตอนนี้แม้ว่าจะเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน  แต่พวกเขาก็ยังไม่คิดอยู่ดีว่านางจะใจกล้าขนาดนี้

“นางแพศยา!”

ฮูหยินเฒ่ากล่าวเสียงเข้ม

“กล้าปั่นหัวพวกเราเล่น ความผิดครั้งนี้จะต้องชดใช้ด้วยความตายเท่านั้น!”

เย่เจ๋อบูและนางโจวก็โกรธมากเช่นกัน

“พวกเราจะไปคิดบัญชีกับนางตอนนี้เลย นางอยู่ที่ใด!”

นางโจวดึงแขนเสื้อขึ้นด้วยท่าทางร้ายกาจ

เย่เจียหรงกล่าวอย่างมีแผนการว่า

“ตอนนี้น้องสี่อยู่ใกล้ๆ กับจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง อ๋องเซ่อเจิ้งประกาศกับทุกคนนางคือว่าที่พระชายา โปรดปราณนางมาก ตอนนี้แม้ว่านางจะยังไม่ได้อยู่ในจวน แต่นางก็อาศัยอยู่ในโรงเตี๊ยมที่แพงที่สุดของเมืองอย่างโรงเตี๊ยมเถิงหยุน”

“คนอัปลักษณ์อย่างนางกลับได้อยู่ที่โรงเตี๊ยมเถิงหยุนเลยรึ! สมบัติที่อยู่ในคลังสมบัติจะต้องถูกนางขโมยไปอย่างแน่นอน! แถมยังใส่ร้ายพวกเราสองสามีภรรยามาได้ตั้งนานขนาดนี้ ข้าจะต้องประหารนางหมื่นมีดพันแร่!”

เย่เจ๋อบูกัดฟันแน่น

“ตอนนี้นางไม่ได้มีเพียงอ๋องเซ่อเจิ้งคอยปกป้องเท่านั้น แต่ยังมีสมบัติมากมาย ข้อคิดว่าสมบัติที่คุณลุงทิ้งไว้ให้จะต้องมีไม่น้อยกว่าร้อยล้าน ไม่อย่างนั้นแล้วน้องสี่จะเอากษาปณ์แก้วกาฬของโรงแลกเงินผานหลงมาได้อย่างไร”

เย่เจียหยูรีบเติมเชื้อไฟ

ทุกคนที่ได้ยินต่างโกรธและอิจฉา หากรู้แต่แรกว่าเหตุการณ์อย่างเช่นวันนี้จะเกิดขึ้น คงลงมือสังหารเย่จายซิงกับน้องชายไปตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้จะต้องพลิกจวนแม่ทัพก็จะต้องหากุญแจคลังสมบัติกลับมาให้ได้

เงินตั้งร้อยล้าน นั่นมันเงินตั้งร้อยล้านเชียวนะ!

มากพอที่จะทำให้จวนแม่ทัพฟุ่มเฟือยไปได้อีกหลายชาติ! เหตุใดถึงไปตกอยู่ในมือคนอัปลักษณ์อย่างนางได้

“ข้าจะไปหานางอรพิษนั่นตอนนี้ ข้าจะทำให้นางคายทุกอย่างที่อมเอาไว้ออกมาให้ได้!”

นางโจวจะไปหาเย่จายซิงทั้งที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงเช่นนี้

“น้าสาม ท่านไปตอนนี้มีแต่จะถูกคนของโรงเตี๊ยมเถิงหยุนไล่ออกมา แถมข้างกายน้องสี่ยังมีองครักษ์ฝีมือฉกาจจากแดนมหาจักรพรรดิทิพย์อยู่ด้วย”

เย่เจียหรงกล่าวเรียบๆ

“หรงเอ๋อร์ งั้นไหนเจ้าว่ามาสิว่าควรทำอย่างไร เจ้าเข้าใจครอบครัวนี้มากที่สุดแล้ว”

นางโจวถามอย่างประสบสอพลอ

แม้ว่านางจะเกลียดชังที่บ้านรองใช้วิธีการโหดเหี้ยมกับพวกเขาสองสามีภรรยา ไม่สนใจความรู้สึก แต่นางก็แค้นใจเย่จายซิงนั่นมากกว่า อย่างแรกคือต้องจัดการเย่จายซิงให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยเอาเงินก้อนใหญ่มาแบ่งให้ทุกคนเท่าๆ กัน จะได้แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต

อย่าทำให้สุดท้ายเปลี่ยนจากคู่รักกลายเป็นคู่แค้นเลย

เมื่อกลับมาจากจวนอ๋องเซ่อเจิ้งแล้ว เย่จายซิงจึงไปคุยกับน้องชาย

“เสี่ยวยู่ เจ้าเก่งมากเลย พี่ภูมิใจในตัวเจ้ามาก พี่อยากพูดกับเจ้าแบบนี้ตั้งแต่ตอนอยู่ที่สนามแล้ว”

คำพูดนี้ของนางทำเอายู่หยางถึงกับหน้าแดง เขาเปลี่ยนจากทายาทสวรรค์ผู้เยือกเย็นกลายมาเป็นหนุ่มน้อยขี้อายเสียแล้ว

“ข้าไม่คิดเลยว่าวิถีกระบี่ของเจ้าจะโดดเด่นขนาดนี้ เหนือความคาดหมายของข้ามาก”

นางยกนิ้วโป้งให้เขา

เย่ยู่หยางเกาศีรษะ “ถ้าไม่ได้ยานิพพานของท่านพี่ ข้าคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ได้”

“ฮ่า ที่แท้เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นฝีมือของข้านี่เอง เอาล่ะ พี่ขอพูดเรื่องจริงจังกับเจ้าเสียหน่อย คราวนี้ที่ข้าได้ไปเทือกเขาอัสดงกับเสด็จอา ข้าได้เจอของที่ท่านพ่อทิ้งเอาไว้จริงๆ เป็นหลักฐานแสดงว่าเขายังไม่ตาย แต่อาจจะหายตัวไปอยู่ที่อื่น”

นางเอาของของท่านพ่อที่เจอที่เทือกเขาอัสดงออกมาสองสามชิ้น วางไว้บนโต๊ะตรงหน้ายู่หยาง

ขณะที่เขาเห็นมงกุฎหยกและชุดเกราะนั้นเอง ดวงตาของเย่ยู่หยางก็แดงก่ำขึ้น น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ “ท่านพี่ ท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่จริงหรือ”

เย่จายซิงลูบหัวเขาแล้วกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า

“ใช่แล้ว เขาไม่ได้ตายอยู่ในปากของอสูรปีศาจ แต่หนีไปอยู่ในแดนลึกลับ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไปสัมผัสเข้ากับค่ายวาร์ปโบราณทำให้ไม่รู้ว่าเขาถูกส่งไปที่ใด แม้แต่มงกุฎหยกที่เขารักที่สุดยังไม่ทันได้เอาไปด้วย ไม่เพียงเท่านี้ เสี่ยวยู่ ข้ามีเรื่องของท่านแม่จะบอกเจ้า แม่ทัพผางบอกว่าบางทีท่านแม่อาจจะยังไม่ตาย แต่นางกลับไปยังสถานที่เดิมที่นางเคยมา”

เย่ยู่หยางเงยหน้าขึ้น น้ำตาไหลพรากแล้วกล่าวอย่างสงสัยว่า “ที่ไหนคือสถานที่เดิมที่ท่านแม่เคยมา”

“แม่ทัพผางบอกว่า ท่านแม่อาจจะไม่ใช่คนแผ่นดินเทียนเหย้า และข้ายังบังเอิญค้นพบว่าเลือดในกายข้าเป็นเลือดของวิหคเพลิงแท้ ข้าเลยสงสัยว่า ฐานะที่แท้จริงของท่านแม่อาจจะเป็นองค์หญิงแห่งเผ่าวิหคเพลิงของอาณาจักรเวหาทิพย์ ข้าอยากให้เจ้ากรีดเลือดให้ข้าสักหน่อย ข้าอยากรู้ว่าเจ้ามีเลือดวิหคเพลิงแท้เหมือนอย่างข้าหรือไม่”

เขาอ้าปากค้าง อาณาจักรเวหาทิพย์? องค์หญิงวิหคเพลิง?

เรื่องทั้งหมดนี้มันไกลเกินจินตนาการเกินไปแล้ว ขนาดเขาฝันยังไม่สามารถฝันได้ไกลขนาดนี้

 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา