เย่จายซิงครุ่นคิด แต่ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อหมดจดของจวินหยวนเริ่มขมวดคิ้วแน่นขึ้น แววตาของนางก็เริ่มกระสับกระส่ายไปมา ก่อนจะกล่าวออกมาว่า
“เสด็จอาจะถืออะไรไหม หากข้าจะพูดถึง……เรื่องของหลงเฟยหลี”
สีหน้าของจวินหยวนเคร่งเครียดขึ้น
เขาถือสาเรื่องนี้ตามคาดจริงๆ
นางคิดในใจ
แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา สตรีที่ตนเองชอบถูกผู้ชายคนอื่นทำเสียหาย ไม่มีผู้ชายคนใดยอมรับเรื่องนี้ได้
“ข้าจะฆ่ามัน”
น้ำเสียงของจวินหยวนเย็นยะเยือกราวน้ำแข็ง
“แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า น้องซิง พวกเราจะทำเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น ข้าจะปกป้องเจ้าให้ดีกว่านี้ และจะพาเจ้าออกจากช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ให้ได้”
เขาโอบนางเข้ามาไว้ในอ้อมอก แล้วกล่าวอย่างตำหนิตัวเอง
“ขอโทษนะน้องซิงที่ข้าไม่ได้ปกป้องเจ้าให้ดี”
เย่จายซิงได้กลิ่นอายจากตัวเขา ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
“อันที่จริงสิ่งที่ข้าอยากจะบอกก็คือ หลงเฟยหลีแค่ดูดเลือดของข้าไป เขาไม่ได้ทำอะไรข้าเลย ดังนั้นท่านอย่าโทษตัวเองเลย”
“เจ้าว่าอะไรนะ”
จวินหยวนมองนางอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของนางถึงรู้ว่าเมื่อครู่นี้โดนนางหลอกเข้าให้แล้ว
“เลือดวิหคเพลิงแท้สามารถช่วยยับยั้งพิษของหลงเฟยหลีได้ เขาลักพาตัวข้าไปเพียงเพื่อเลือดของข้าเท่านั้น ต่อมาข้าตั้งใจช่วยเขาขจัดพิษ เขาเลยไม่กล้าทำอะไรข้า หลังจากนั้นท่านก็มา เขารู้สึกได้ถึงอันตรายและรู้ตัวว่าไม่สามารถช่วยท่านได้เลยตั้งใจวางแผนให้แมงมุมตัวหนึ่งกัดข้าทิ้งรอยรอยสีแดงไว้บนตัวของข้า เพราะต้องการทำให้ความสัมพันธ์ของเราร้าวฉาน เราสองคนจะได้ใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข ข้าตั้งใจจะเล่าให้ท่านฟังนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาส”
นางยิ้มระหว่างที่เล่าให้เขาฟัง
“เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
จวินหยวนถอนใจ
ตอนนั้นที่เขาเข้าใจผิดว่าหลงเฟยหลีทำร้ายนางนั้น เขาคิดอยากจะทำลายฟ้าดินให้พังราบ แน่นอนว่าการเป็นบุรุษที่แข็งแกร่งทรงพลังไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้ แต่คนที่เกลียดชังคือหลงเฟยหลี และโกรธที่ตัวเองมาช้าไปหนึ่งก้าว ทำให้ร่างกายและจิตใจของนางต้องเจ็บปวด ตอนนั้นสิ่งที่เขารู้สึกมากกว่าก็คือความละลายใจและรู้สึกผิดต่อนาง
เมื่อนางไม่ได้เป็นอะไร เขาย่อมดีใจ
แต่ลูกนอกสมรสปีศาจอย่างหลงเฟยหลีก็ยังคงสมควรตายอยู่ดี
เขาดึงนางเข้ามากอดเอาไว้แน่นเช่นเคย “โชคดีที่เจ้าไม่เป็นไร นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปข้าจะไม่ปล่อยให้น้องซิงได้รับอันตรายอะไรอีก”
มือที่จับผ้าห่มของเย่จายซิงข้าหนึ่งคลายออกแล้วเอาเอาไปโอบแผ่นหลังของเขาเอาไว้ก่อนจะตบเบาๆ แล้วกล่าวเบาๆ ว่า
“ขอบคุณท่านมาก”
ขอบคุณที่ท่านทำให้ข้าสัมผัสได้ถึงความรัก
ข้าจะพยายามเปิดใจยอมรับท่าน
……
สองพี่น้องเย่เจียหรงมองไปทางจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง รอแล้วรอเล่า เย่จายซิงก็ไม่ยอมออกมาสักที
ทั้งสองกลับไปอย่างไม่พอใจนัก คิดแล้วคิดอีกจึงตัดสินใจไปถามเย่ยู่หยาง
“ขอโทษคุณหนูทั้งสองด้วย ร้านของข้าถูกอ๋องเซ่อเจิ้งซื้อไว้แล้ว คนอื่นๆ ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้”
ยังไม่ทันจะได้ก้าวเข้าไปในโรงเตี๊ยม ผู้หญิงทั้งสองก็ถูกขวางเอาวไ้เสียก่อน
เย่เจียหยูมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
แต่เย่เจียหรงกลับเอ่ยอย่างอ่อนโยน
“เถ้าแก่ พวกเราเป็นลูกพี่ลูกน้องของเย่ยู่หยาง ท่านคงรู้จักพวกเราแน่ รบกวนท่านช่วยไปบอกเขาทีว่าเรามีเรื่องสำคัญอยากพูดกับเขา”
“แน่นอนว่านางไม่มีปัญญา แต่อ๋องเซ่อเจิ้งช่วยนางได้ ข้างกายนางมีองครักษ์จากแดนมหาจักรพรรดิทิพย์อยู่ไม่ใช่หรือ” เย่เจียหรงกัดฟันยิ้ม “พวกเราทั้งหมดโดนนางตบตาเข้าให้แล้ว”
เย่เจียหยูทั้งตกใจทั้งโกรธ ตึงวิ่งไปฟ้องท่านย่ากับพ่อแม่ทันที
ไม่นานนัก ทุกคนก็ไปรวมตัวกันอยู่ที่่ด้านนอกห้องฟืน
เนื่องจากถูกขังมาครึ่งเดือนกว่าแล้ว เย่เจ๋อบูกับนางโจวจึงกินนอนและขับถ่ายอยู่ที่นั่นทั้งหมด ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปใกล้ ทุกคนต่างก็ได้กลิ่นเหม็นแทงจมูก แม้แต่เย่เจียหรงก็ไม่สามารถควบคุมสีหน้าของตัวเองให้ไม่ให้แสดงอาการรังเกียจออกมาได้ นางปิดจมูกเอาไว้แน่น
“ท่านพ่อ ให้คนไปเอาตัวท่านอาสามกับท่านน้าสามออกมาเถิดเจ้าค่ะ”
เย่เจียหรงเอ่ย นางไม่อยากเดินเข้าไปใกล้มากกว่านี้อีกแล้ว
เย่เจ๋อบูและนางโจวถูกนำตัวออกมา พวกเขาทั้งสองหน้าตามอมแมมผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าของเขาดูไม่ออกอีกแล้วว่าเป็นสีอะไร แถมยังมีกลิ่นเหม็นคลุ้งโชยออกมา
เมื่อพวกเขาเดินออกมาแล้ว ก็รีบวิ่งเข้ามาหาฮูหยินเฒ่า
“ท่านแม่ พวกเราถูกใส่ร้าย พวกเราไม่ได้เปิดคลังสมบัติจริงๆ!”
ฮูหยินเฒ่าถูกกระโจนเข้าใส่แบบนี้ ร่างกายของนางยืนไม่ค่อยจะตรงเท่าไหร่นักอยู่แล้ว นางจึงร้องโวยวายให้คนมาแยกตัวคนทั้งสองออกไป และบอกให้เย่เจียหรงรีบถามพวกเขาให้เสร็จเร็วๆ
เย่เจียหรงหยิบยาออกมาสองเม็ด
“อาสามกับน้าสาม พวกท่านคงจะรู้จักนาคำจริงกระมัง น้องสามเย่เจียเยี่ยนก็กินยาคำจริงของน้องสี่เข้าไป จนต้องพูดความจริงทั้งหมดออกมา มิเช่นนั้นแล้วเลือดในร่างกายจะไหลออกมาทั้งหมดจนตาย ข้าคิดว่าพวกท่านก็คงไม่อยากจะพบเจอกับเหตุการณ์แบบนั้น”
“เอามาให้ข้ากินเถอะ หรงเอ๋อร์ อาสามรับรองว่าสิ่งที่ข้าพูดทั้งหมดจะเป็นความจริงเท่านั้น”
“ข้าก็ยอมกินยาคำจริงเช่นกัน ขอเพียงทวงความบริสุทธ์ของพวกเราคืนมาได้”
เย่เจ๋อบูกับนางโจวต่างรีบแย่งกันกินยาคำจริงที่อยู่ในมือของนาง
เย่เจียหรงเห็นเช่นนั้น ก็เริ่มวางแผนการในใจ นางก็แค่ไปเอายาธรรมดาทั่วๆ ไปมาสองเม็ดเท่านั้น แล้วหันไปพูดกับฮูหยินเฒ่าว่า
“ท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ อาสามกับน้าสามไม่ได้โกหก พวกเขาไม่รู้เรื่องคลังสมบัติจริงๆ มีคนตั้งใจใส่ร้ายพวกเขา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...