บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 177

องค์หญิงหลิวอิ๋งล้มอยู่บนพื้น

ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในนั้นรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก

เสวียนเจ๋อเป็นถึงอสูรเทพที่ก่อนหน้านั้นยังแสดงแววตาดูหมิ่นเหยียดยามผู้คนในนั้น ยังดูถูกว่าเป็นพวกมนุษย์โง่เขลา

คาดไม่ถึงเหมือนว่าถูกสิ่งใดทำให้ตกตระหนกตกใจ สี่ขานั้นแผ่ลงบนพื้นและยังสะบัดองค์หญิงทิ้งลงและบินเตลิดออกไป

“องค์หญิง ท่านได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าเพค่ะ”

โจอวเหม้ยวิ่งเข้าไปคนแรกเพื่อจะพยุงองค์หญิง เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสที่จะประจบองค์หญิง

องค์หญิงหลิวอิ๋งสะบัดมือนางออกด้วยสีหน้าอารมณ์เสีย แล้วลุกขึ้นยืนเอง

เจ้าเป็นอะไรไป!

องค์หญิงกำลังสื่อสารกับอสูรเทพของตน

นางรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวของอสูรเทพ การคุกเข่าลงกราบของอสูรเทพนั้นเหมือนจะบ่งบอกถึงการยอมเป็นผู้น้อย ท่าทีเหมือนตอนที่เสวียนเจ๋อพบเจออสูรเทพมังกรเขียวของเสด็จอาเป็นครั้งแรก นั้นเป็นเพราะความเกรงกลัวของอสูรเทพที่มีต่ออสูรศักดิ์สิทธิ์

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือท่าทีครั้งแรกที่พบเจออสูรศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้เกิดความหวาดกลัวรุนแรงถึงเพียงนี้

นางผู้เป็นองค์หญิงแห่งแคว้นเทพมังกร เป็นครั้งแรกที่ต้องเสียหน้าถึงเพียงนี้

ที่อสูรเทพเสวียนเจ๋อข้างกายไม่เชื่อฟังนาง และยังลงไปคุกเข่าสั่นพะงาบทำให้นางเสียหน้ายิ่งนัก!

ผ่านไปสักพัก อสูรเทพเสวียนเจ๋อถึงเงยหน้าขึ้นมา แววตายังเต็มไปด้วยความหวาดผวา ผู้คนได้เห็นเช่นนั้นแล้วรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

ที่สามารถทำให้อสูรเทพนั้นกลายสภาพเป็นเช่นนี้ หรือจะมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งกว่าอสูรเทพ?

มันไม่น่าจะเป็นไปได้

อสูรเทพประจำกายของเซ่าตี้คืออสูรเทพมังกรเขียว แต่เซ่าตี้เป็นเสด็จอาขององค์หญิง การพบหน้ากันของอสูรศักดิ์สิทธิ์กับอสูรเทพนั้นน่าจะ

ไม่น้อย ไม่น่าจะมีผลที่รุนแรงขนาดนี้

ถ้าที่นี่มีอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่จริง ผู้คนเยอะถึงเพียงนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้ไม่ได้

ยกเว้นเพียงแต่ว่าการฝึกตนของอสูรศักดิ์สิทธิ์เกิดอาเพศขึ้นมา เลยทำให้บ้าคลั่งเช่นนี้?

องค์หญิงหลิวอิ๋งไม่รู้ว่าคนรอบกายคิดสิ่งใดอยู่ นางจับญาณไปที่หน้าผากเพื่อถามอสูรเทพเสวียนเจ๋อว่าเกิดอะไรขึ้น

“นายหญิง เมื่อสักครู่ข้ารู้สึกได้ถึงรัศมีแรงกล้าของอสูรเทพไป๋เจ๋อจากอดีตกาล”

เสวียนเจ๋อและนางสามารถส่งจิตสัมผัสกันได้ น้ำเสียงของมันยังแฝงไปด้วยความหวาดกลัว

บรรพบุรุษอสูรสักดิ์สิทธิ์เสวียนเจ๋อนั้นมีสายเลือดสัมพันธ์ของอสูรเทพไป๋เจ๋ออยู่ จะว่าเป็นญาติห่างๆก็ไม่ใกล้เคียง

ถึงแม้ชื่อของเสวียนเจ๋อนั้นจะมีอักษรว่าเจ๋อ แต่ทั้งสองนั้นยังห่างกันมาก ท่านไป๋เจ๋อคืออสูรเทพที่ยิ่งใหญ่ติดหนึ่งในสิบ ในอดีตกาลนั้น

เสวียนเจ๋อนั้นมิอาจเทียบชั้นกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นเพราะบรรพบุรุษนั้นได้สร้างสัมพันธภาพขึ้นมากลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์

องค์หญิงหลิวอิ๋งยังคงนั้นตื่นตระหนก

อสูรเทพไป๋เจ๋อ?!

เท่าที่นางทราบ ทั่วผืนแผ่นดินใหญ่นี้มีอสูรเทพเพียงสองตัว หนึ่งคืออสูรเทพมังกรเขียวที่เป็นเสด็จอาและสองคืออสูรเทพกิเลนของอ๋องเซ่อเจิ้งที่อยู่ในแคว้นเล็ก

ตอนนั้นนางมีความคิดจะกำจัดอสูรเทพกิเลน นางได้สั่งการให้คนไปฆ่าอ๋องเซ่อเจิ้งเพื่อจะชิงอสูรเทพกิเลนมา แต่คนที่ถูกส่งไปหลายชุดนั้นกลับโดนสังหารอย่างไม่เป็นท่า

นางเตรียมการไว้ว่าจะเป็นผู้ลงมือชิงอสูรเทพมาด้วยตัวเอง อ๋องของแคว้นเล็กเช่นนั้น ไม่ได้อยู่ในสายตานางเลยสักนิด

“ไป๋เจ๋ออยู่ที่ไหน!”

นางรีบถามขึ้นมา

การล้มลงครั้งนี้ ถ้าสามารถได้มาซึ่งอสูรเทพที่ยังไม่มีเจ้าของนั้นจะดีแค่ไหน

อสูรเทพเสวียนเจ๋อตอบว่าไม่รู้ รู้สึกได้แค่ว่ามีแสงอำมหิตมาจากแดนไกลที่สื่อสายสัมพันธ์ถึงมันได้ มันทำได้เพียงยอมอยู่ใต้บังคับบัญชาและไม่กล้าที่จะไปสืบสาวเอาความ

“ไร้ประโยชน์สิ้นดี!”

องค์หญิงหลิวอิ๋งได้คำตอบเช่นนั้น นางด่าอยู่ในใจ

คนที่ตายยังเป็นถึงนางสนมคนสนิทขององค์หญิง

ทุกคนต่างมองไปที่เย่จายซิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าหอไป๋เป่า ยานี้เป็นยาที่นางกลั่นออกมา

สองวันมานี้หอไป๋เป่านั้นชื่อเสียงโด่งดัง เวลาเป็นเงินเป็นทอง ต่างมาเพื่อซื้อโอรสไขกระดูกเยือกสำหรับคนมีเงินนั้นเสมือนปลาได้น้ำ ลูกค้ามากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ธุรกิจยาของสมาคมอาจารย์กลั่นยายังเทียบไม่ได้กับหอไป๋เป่า

นึกไม่ถึง ยานี้มีปัญหาได้อย่างไร!

แต่กระนั้นก็ตาม เย่จายซิงถึงแม้ได้ฟังเช่นนั้นแล้ว สีหน้านางไม่ได้เปลี่ยนไปแม่แต่นิด ถ้าเป็นคนทั่วไปอาจจะตกใจกลัวจนจิตตะเลิดเปิดเปิงไปแล้ว

หนานกงเหยาที่อยู่ในห้องรับรองนั้นเดินไปมาอย่ากระวนกระวายใจ

เย่จายซิงกลับไม่ตื่นตระหนก พูดด้วยน้ำเสียไม่สะทกสะท้านว่า:

“องค์หญิงพูดว่ายาของข้ากินแล้วตาย ท่านมีหลักฐานหรือไม่?”

“แน่นอน! พวกข้าทั้งหมดเป็นพยานได้! ”

โจอวเหม้ยยืนออกมาพูดเสียงดังด้วยท่าทีได้มั่นใจว่า:

“เย่จายซิง ข้ารู้ว่ายาที่เจ้ากลั่นออกนั้นมีปัญหา! ยาที่มีปัญหาเจ้ายังกล้าเอาออกมาขาย เจ้ามันช่างกล้ากระทำอย่างบุ่มบ่าม!วันนี้องค์หญิง

ลดฐานะมาหาเจ้าเพื่อทวงความยุติธรรม มิเช่นนั้นจะมีผู้คนอีกมากที่ถูกเจ้าหลอกและต้องเอาชีวิตมาทิ้ง!!”

องค์หญิงหลิวอิ๋งพงกหน้าอย่างพอใจ คิดไม่ผิดวันนี้ที่มาโจอวเหม้ยมา

โจอวเหม้ยยังบอกลูกค้าที่อยู่ด้านนอกว่า: “ยาของนางกินแล้วถึงแก่ชีวิต พวกเจ้ายังกล้าซื้อรึ พวกเจ้าคิดว่าชีวิตพวกเจ้านั้นอมตะกันหรืออย่างไร?”

เย่จายซิงท่าทียังเฉยเมยและหัวเราะเบาๆและพูดเสียงดังว่า:

“ท่านพูดว่านางสนมกินโอรสไขกระดูกเยือกที่ข้ากลั่นแล้วสิ้นชีพ แต่ยาที่ข้าขายออกไปไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน พวกท่านมั่นใจได้อย่างไรว่านางตายเพราะกินยาข้า ไม่ใช่เป็นเพราะสาเหตุอื่นรึ”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าคิดว่าองค์หญิงอย่างข้าจะวางแผนและตั้งใจใส่ร้ายเจ้ารึ? ”

องค์หญิงหลิวอิ๋งผู้สูงส่งยิ้มอย่างเย็นเยือก: “ข้ายังไม่รู้จักว่าเจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เจ้าอย่าริอ่านสำคัญตัวผิดไป!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา