ถ้าองค์หญิงหลิวอิ๋งไม่รู้จริงๆว่าเย่จายซิงเป็นผู้ใด และถ้านางไม่ได้อยู่ในสายตาองค์หญิงจริง องค์หญิงคงไม่วางแผนเอาการตายของนางสนมมาโยนความผิดใส่นางหรอก
ยิ่งไปกว่านั้นคงไม่มาหาเรื่องนางถึงหอไป๋เป่าอย่างอึกทึกครึกโครมเช่นนี้
สายตาเย่จายซิงนั้นแลดูเยาะเย้ย องค์หญิงหลิวอิ๋งที่พูดจาโอ่อ่าสง่าผ่าเผย มันช่างน่าขำนัก
“องค์หญิงอย่าโกรธไปเลยค่ะ คนที่ไม่รู้อาจคิดว่าข้าอาจจะพูดแทงใจดำความคิดขององค์หญิง และทำให้ท่านโกรธ”
“บังอาจนัก! ข้าจะพาลโกรธเจ้าทำไม เจ้าเอายาที่ทำร้ายผู้คนและมาหลอกชาวบ้านในเฉินตู ข้าไม่อาจทนดูคนพรรค์นี้มาทำร้ายประชาชนของ
ข้าได้
ข้าเลยต้องมาจัดการเจ้าด้วยตัวเอง!”
องค์หญิงหลิวอิ๋งป่าวประกาศออกมาเสียงดัง แต่สีหน้าไม่ได้นิ่งเฉยอย่างก่อนหน้านี้แล้ว
แต่กับเย่จายซิงที่ท่าทีที่สงบนิ่งเมื่อเทียบกันแล้วองค์หญิงดูจะเป็นผู้เจ้าอารมณ์มากกว่าหลายเท่า
ความเป็นจริง ท่าทีองค์หญิงหลิวอิ๋งดูกระวนกระวายใจนั่งไม่ติดกับที่หลังจากที่ตกลงมาจากหลังอสูรเทพเสวียนเจ๋อนั้นแล้ว ตกลงมาจากที่สูงเพียงนั้น แล้วยังถูกเย่จายซิงยั่วโมโหเพิ่มอีกนิด ทำให้สถานการณ์ของนางตกเป็นรองทันที
“จับตัวนางไว้และปิดร้านเดี๋ยวนี้ พานางกลับไปทรมานให้รับสารภาพ”
องค์หญิงหลิวอิ๋งสั่งการอย่างเสียงดัง
“ช้าก่อน”
น้ำเสียงเย่จายซิงพูดขึ้นอย่างก้องและแววตาเย็นชา ทำให้ทุกคนนั้นเงียบสงัดไปชั่วครู่
“องค์หญิงบอกว่ายาที่ข้ากลั่นออกมานั้นทำให้นางสนมของท่านตาย ศพของนางสนมอยู่ที่ใดเพราะอย่างน้อยต้องมีการชันสูตรศพก่อนถึงจะสรุปได้ ท่านเป็นถึงองค์หญิงสูงส่งแห่งแคว้นเทพมังกร ขั้นตอนพวกนี้ท่านก็ไม่ทราบรึ? หรือองค์หญิงจะปรักปรำข้าให้รับโทษ?”
“ดูแล้วเจ้าอยากจะหนีความผิด! ทุกคนที่นี่ดูเจ้าออก นางสนมผู้นั้นใช้ยาโอรสไขกระดูกเยือกของเจ้าแล้วตาย ถ้าไม่ใช่ยาของเจ้า แล้วจะเป็นยาของใคร?”
โจอวเหม้ยพูดด้วยท่าทางเยาะเย้ย
เย่จายซิงไม่ได้สนใจท่าทีโจอวเหม้ยที่กำลังทำตัวเป็นตัวตลก สายตานางจ้องมององค์หญิงอย่างเย็นเยือก:
“คนอย่างเย่จายซิงทำทุกอย่างเปิดเผย ไม่ทำเรื่องผิดต่อฟ้าหรือผิดต่อดิน ถ้ายาข้ามีปัญหาจริงข้าย่อมต้องยอมรับ ก่อนที่ข้าจะขายยาออกไป ข้าได้ตรวจสอบยาทุกเม็ดอีกครั้ง ข้ารับรองได้ว่ายาข้านั้นไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน และช่วงนี้ก็ไม่มีผู้ใดที่กินยาแล้วมีปัญหา เพราะฉะนั้นข้ามีข้อโต้แย้งพอที่จะสงสัยการตายของนางสนมเป็นสาเหตุอื่น ถ้าองค์หญิงจะให้ข้ารับโทษ ทางที่ดีให้หมอมาชันสูตรการตายของนางสนมต่อหน้าทุกคนจะดีกว่า!”
สีหน้าขององค์หญิงหลิวอิ๋งนั้นดูเคร่งเครียดไป
ความคิดของเย่จายซิงที่จะต่อสู้หาความจริงอยู่เหนือความคาดหมายขององค์หญิง
เดิมนางคิดว่าจะทำให้เย่จายซิงกลัวจนฉี่ราดและคุกเข่าขอชีวิต นึกไม่ถึงว่านางจะเป็นคนล้มลงเองก่อนและยิ่งทำให้นางดูต่ำเตี้ยเรี่ยดินไปอีก
“ไปนำศพนางสนมและพาหมอชันสูตรเข้ามา ข้าจะตามใจทุกอย่างที่เจ้าขอ”
ศพของนางสนมนั้นได้มีการจัดการมาก่อนแล้ว อีกสักครู่องค์หญิงแค่โยนความผิดให้เย่จายซิงว่านางส่งคนไปทำลายศพเพื่อทำลายหลักฐาน
นางยังมีไม้ตายสำรอง เย่จายซิงบอกคนอื่นๆที่กินยานางไม่มีปัญหาอะไร แต่องค์หญิงเตรียมจะให้เกิดปัญหาอย่างแน่นอน
ถึงเวลานั้นทุกคนก็จะโกรธเกลียดนาง และจะใช้โอกาสนี้จับนางเข้าห้องขังได้
หลังองครักษ์เดินออกไป บรรยากาศแปลเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด
ต่างมองหน้ากันโดยไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไร
มีแต่โจอวเหม้ยที่ยังพูดจาไร้สาระ นางได้แต่พูดประณามเย่จายซิงไม่หยุด ใส่ร้ายว่าเป็นหอยาเถื่อนอีกทั้งยังสรรหาคำสารพัดมาด่าเย่จายซิง
เย่จายซิงท่าทีไม่ได้เปลี่ยนไป ยังคงสีหน้าเป็นปกติและเงียบสงบ
ชาวบ้านที่รายล้อมเมื่อเห็นภาพเช่นนั้นแล้ว ต่างรู้สึกว่าเย่จายซิงไม่น่าจะเป็นคนผิด นางยังยืนหยัดความจริงของตนโดยไม่ลุกลี้ลุกลน นางสนมนั้นอาจตายด้วยสาเหตุอื่นเป็นแน่
ผู้คนต่างก็รู้ว่าคุณภาพยาของหอไป๋เป่านั้นดี คุณภาพยังดีกว่าของสมาคมอาจารย์กลั่นยาเสียอีก อีกทั้งราคายังถูก
เย่จายซิงพูดขึ้น: “งั้นก็ให้ท่านหมอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าก่อน ดูว่ายาข้าเป็นเหตุให้นางสนมตายหรือไม่”
องค์หญิงหลิวอิ๋งกำหมัดแน่นจนซีด เหตุใดถึงไม่เป็นไปตามแผนที่นางวางไว้!
หมอชันสูตรยังมึนงงบนหัวเปียกไปด้วยไอหมอก เมื่อสักครู่เขายังอยู่บ้านดูแลหลาน พริบตาเดียวเขาก็มายืนอยู่ตรงนี้ เมื่อเขาเห็นศพนางสนมที่นอนอยู่บนพื้น เขากลับมามีสติขึ้นในทันที
“นี่มันพิษกุหลาบพันปี!”
หมอชันสูตรยังไม่ทันได้พิสูจน์จากร่าง ก็สามารถดูออกว่าตายจากเหตุอันใด
“ห๊า พิษกุหลาบพันปี! ที่ร่ำลือมาว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งในแดนราชาทิพย์ถ้าโดนพิษนี้เข้าก็จะสิ้นชีพในทันใด? ”
“ถูกต้อง””
หมอชันสูตรพยักหน้าและพูดขึ้นอีกว่า: “เมื่อสักครู่ข้าได้ยินว่านางสนมตายเพราะกินยากลั่นเข้าไปใช่ไหม? มันเป็นไปไม่ได้ พิษกุหลาบพันปีไม่สามารถสลายเข้ากับยาได้ ไม่เพียงแค่นั้นพิษของมันยังจะทำให้ยานั้นหมดประสิทธิภาพไป”
เย่จายซิงพูดขึ้นว่า:
“ถ้าป็นเช่นนั้น การตายของนางสนมผู้นี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโอรสไขกระดูกเยือกของข้า องค์หญิง นางสนมผู้นี้สีผิวเปลี่ยนเป็นขาวใสเพราะกินยาของข้าไป ยาได้ออกฤทธิ์แล้ว บ่งบอกได้ว่าไม่มีพิษกุหลาบพันปีในยาข้า ว่าแต่ยาพิษกุหลาบพันปีนี้ทั้งแพงและหายาก องค์หญิงลองคิดดูว่าใครที่สามารถผู้ครอบครองยานี้ได้ ผู้นั้นอาจหมายเอาชีวิตองค์หญิงก็เป็นได้”
องค์หญิงหลิวอิ๋งไร้คำพูดใดๆ
“เป็นไปได้อย่างไร! เห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นเพราะยาของเจ้า! เจ้าอย่ามาเล่นลิ้น! ข้าดูแล้วหมอชันสูตรผู้นี้ก็เป็นพวกเดียวกับเจ้าเป็นแน่”
โจอวเหม้ยพูดเสียงดัง
“พูดจาไร้สาระ บรรพบุรุษข้าก็เป็นหมอชันสูตรในเฉินตู ตัวข้าเองก็เป็นหมอชันสูตรมาเป็นร้อยปี ไม่เคยพิสูจน์ผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว ข้าสามารถสาบานต่อหน้าสวรรค์ได้!”
หมอชันสูตรพูดด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...