“เสด็จอา อย่าถ่ายลมปราณให้ข้าอีกเลย แล้วก็อย่าอยู่เฝ้าข้า ท่านต้องฟื้นฟูร่างกายของท่านให้ดี ข้านั้นต้องกลับออกมาอย่างเร็ววันแน่นอน”
เย่จายซิงจับมือของเสด็จอาอย่างแน่น เพื่อหยุดการถ่ายทอดลมปราณของเขา ระหว่างทางที่กลับมาเขานั้นได้รักษาร่างกายตลอดมา แต่ว่านางนั้นได้เสียพลังไปค่อนข้างมาก นางต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายด้วยตัวเอง
“เจ้าเข้าไปเถอะ”
โม่เสิ่นยวนลูบมือนางเบาๆแล้วเอามืออีกข้างมาจับหน้าที่เย็นเฉียบของนาง
นางมองหน้าเขาแล้วยิ้ม และพูดขึ้นมาอย่างออดอ้อนว่า:
“เสด็จอา จูบข้าทีหนึ่งซิ”
โม่เสิ่นยวนนั้นตกใจเล็กน้อย ที่ผ่านมาจะเป็นตัวเขาเองที่เป็นคนเข้าหานาง น้อยมากที่นางจะเป็นคนเข้าหาเขา เลยทำให้เขารู้สึกตะลึงและทำตัวไม่ถูก
ริมฝีปากเขานั้นมีรอยหยักขึ้นเรื่อยๆ เขาเอนตัวลงแล้วจูบไปที่ริมฝีปากซีดนั้นหนึ่งที ถึงแม้จะแตะโดนผิวริมฝีปากนางเท่านั้น แต่มันก็ให้ความรู้สึกนุ่มนวล
“รอน้องซิงหายดีแล้ว เรามาจูบกันให้หนำใจไปเลยนะ”
ริมฝีปากของเขานั้นย้ายไปกระซิบอยู่ข้างหูของนาง เขาพูดกับนางด้วยน้ำเสียงทุ้ม
เย่จายซิงขยิบตา พยักหน้ารับรู้ ใจนางนั้นเต้นกระเพื่อมรับรู้ได้ถึงความหอมหวานของความรัก
รอนางหายดี พวกเขาจะจูบกันให้พอ ไม่เพียงแค่นั้น นางยังพร้อมที่จะมอบตัวและหัวใจให้เขา จุดพรหมจรรย์บนข้อมือนี้เป็นของเสด็จอาเพียงผู้เดียว
นางมองหน้าอันหล่อเหลาของเสด็จอาพร้อมกับหลับตาลง ตัวนางนั้นได้เลือนหายไปอยู่บนเตียง แล้วนอนอยู่ในห่วงกาลเวลานั้น
เสี่ยวไป๋มองนางแล้วถอนหายใจ แล้วพานางไปอยู่ใกล้บ่อผดุง
เมื่อก่อนห้วงกาลเวลาชี่ทิพย์ที่สมบูรณ์ที่สุดคือที่นี่ ต่อมาได้มีการเอาหยกรวมจิตนั้นเข้าไปในบ่อ ชี่ทิพย์ของที่นี่จึงหอมกรุ่นขึ้นมาเรื่อยๆ
ชี่ทิพย์นับไม่ถ้วนที่รวมเป็นเมฆหมอกสีขาว และอุ้มชูร่างกายของเย่จายซิงไว้
……
บนเตียงนั้นดูว่างเปล่า โม่เสินหยวนเผยฝ่ามือออก บนฝ่ามือนั้นมีขวดหยกสีขาวอยู่หนึ่งขวด ที่น้องซิงเพิ่งให้เขามาเมื่อสักครู่
หลังจากเปิดจุกขวดออก เขาเลยเพิ่งรู้ว่ายาน้ำนี้ใช้พู่เทพในการกลั่นออกมา
เวลาที่น้องซิงรู้สึกตัวนั้นค่อนข้างน้อย แต่นางก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงสุขภาพของเขา
เขาใช้สองมือกุมขวดหยกที่มีคุณค่านั้นไว้แน่น ขวดหยกนั้นยังฟุ้งไปด้วยกลิ่นหอมของนาง
เขาสูดลมหายใจลึกๆ ในสมองนั้นนึกถึงหลงเฟยหลีที่มองน้องซิงอย่างตาไม่กะพริบ ทำให้แรงอาฆาตของเขานั้นแผ่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ในใจของเขานั้นเหมือนได้ยินเสียงโห่ร้องของคนนับไม่ถ้วน
ฆ่ามัน ฆ่าหลงเฟยหลี น้องซิงต้องเป็นของข้าคนเดียว จะให้ผู้อื่นมาหมายปองไม่ได้
โม่เสิ่นยวนปิดตาลง ตอนเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แววตาพิฆาตนั้นได้ถูกกดลงไปแล้ว
หลังจากได้ดื่มยาน้ำพู่เทพแล้วนั้น ความอัศจรรย์นั้นได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ได้เข้าไปซ่อมแซมร่างกายของเขา ยืดอายุโครงสร้างกระดูกนั้นได้เพิ่มมากขึ้น แต่เพิ่มได้เพียงห้าปีก็ได้หยุดลง พลังที่เหลือของเขานั้นได้เข้าไปขยายเส้นเอ็นของเขา
ถ้าเป็นคนธรรมดา เมื่อกินพู่เทพเข้าไปแล้วนั้น สามารถต่ออายุขัยเพิ่มขึ้นอีกสิบๆปี แต่เขานั้นได้ใช้อายุขัยของเขาในการใช้วิชาลี้ลับ
ระดับเซียนข้าวทิพย์ก็ใช้การไม่ได้มาก
เขาเก็บขวดหยกนั้น ใบหน้าไม่ได้แสดงสีหน้าของความผิดหวัง เพิ่มอายุขัยมาห้าปี เขาสามารถอยู่ดูแลน้องซิงได้เพิ่มอีกห้าปี
แน่นอนว่า เขารู้สึกไม่พอใจช่วงเวลาที่เหลืออันสั้นที่จะได้อยู่กับน้องซิง น้องซิงนั้นรักเขา ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเขา ใต้หล้านี้ก็มีเพียงน้องซิงเท่านั้นที่เสียใจ สิ่งที่เขาไม่อยากเห็นเป็นที่สุดคือน้ำตาของน้องซิง
ยังมีเวลาอีกสิบกว่าปี เขาจะหาวิธีในการต่ออายุขัยให้อมตะให้ได้ ทำการต่อไปเรื่อยๆก็สามารถต่อได้ยาวนานขึ้น
ทันใดนั้นแผ่นหยกส่งเสียงนั้นก็สว่างขึ้น
โม่เสิ่นยวนกลับไม่ได้สนใจ
ไม่ต้องเดา นอกจากเสด็จพ่อของเขาแล้ว ไม่มีใครอื่นที่จะส่งเสียงมา
ผ่านไปสักครู่ ฝ่าบาทนั้นคลายมือที่กอดฮองเฮาแล้วพูดขึ้นอย่างโมโหว่า:
“เจ้าก็ไม่ควรพูดแทนลูกปีศาจนั่น ตอนนี้มันปีกกล้าขาแข็ง ถึงขั้นไม่สนใจสารที่ข้าส่งไป! เรื่องที่มันครอบครองอสูรเทพกิเลนก็ไม่เคยเปิดเผยให้ข้ารู้ เป็นเพราะหลิวอิ๋งบอกข้าถึงรู้เรื่องนี้ เจ้าดูซิว่ามันไม่เคยเห็นข้าเป็นเสด็จพ่อของมัน!”
เมื่อพูดถึงตอนนี้ สีหน้าของฝ่าบาทนั้นฉุนเฉียวขึ้นมาอีก ลูกปีศาจนั้นบอกว่าปลีกวิเวก แต่กลับไปเป็นฮ่องเซ่อเจิ้งในแคว้นเล็กๆ หลายปีที่ผ่านมาไม่มีใครรับรู้เรื่องนี้ ขนาดฝ่าบาทยังถูกปิดบังจนถึงทุกวันนี้
ฮองเฮาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน:
“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วไปเลยเพค่ะ จะทำให้ท่านสุขภาพแย่ไปอีก จะทำให้ข้าพลอยเสียใจไปด้วย เจ้ายวนนิสัยก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ไม่เคยสนิทสนมกับผู้ใด ซึ่งเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้”
ฝ่าบาทคิดขึ้นมาได้ โม่เสิ่นยวนตั้งแต่เล็กก็ไร้อารมณ์ ไร้ความผูกพัน ถึงจะดีกับเขาสักเพียงไรก็ไม่เคยมีความรู้สึกซาบซึ้ง เวลาร้ายกับเขา ก็ไม่เคยแสดงอารมณ์โกรธ เหมือนดั่งหุ่นก็ไม่ปาน
ฝ่าบาทไม่ชอบเขาตั้งแต่ยังเล็ก ถ้าไม่เป็นเพราะฝ่าบาทมีบุตรชายยาก มีลูกชายเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น หนำซ้ำวันที่โม่เสิ่นยวนเกิดนั้นก็ถูกมังกรเขียวนั้นครอบครอง เขาก็มิอาจให้ผู้อื่นนั้นมาเป็นเซ่าตี้ของแคว้นเทพมังกรนี้ไปได้
ฝ่าบาทนั้นเกลียดชังเขาจนส่งเขาออกไปแดนไกล ไม่อยากมองเห็นเขาแม้แต่เสี้ยวเดียว
ฮองเฮามองสีหน้าของฝ่าบาท มุมปากนั้นหยักขึ้นเล็กน้อย พูดอย่างอ่อนโยนว่า:
“ถึงอย่างนั้นก็ตาม ข้าได้ยินมาว่าเจ้ายวนมีหญิงที่หมายปองแล้ว แต่อยากจะแต่งงานกับนางด้วย นี่เป็นเรื่องดี แสดงให้เห็นว่าเจ้ายวน
นั้นเริ่มอารมณ์ความผูกพันแล้ว มีอารมณ์รักใคร่เหมือนดั่งของปกติแล้ว”
ฝ่าบาทเมื่อได้ยินเช่นนั้น คิ้วนั้นขมวดขึ้นมา:
“ข้าไม่ยอมให้เขานั้นแต่งงานกับหญิงปุถุชนได้ เขาคิดเพ้อเจ้อไปเอง ยังไม่ได้รับอนุญาตจากข้าก็ประกาศไปในใต้หล้า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา!”
เขาจะมีความรู้สึกผูกพันหรือไม่นั้น ฝ่าบาทไม่รับรู้หรือสนใจ และยิ่งไม่ไปยินดีกับลูกปีศาจนั่น
ฮองเฮาตบหน้าอกตัวเองเบาๆ:
“ฝ่าบาท ใจเย็นๆเพค่ะ ตอนนี้เจ้ายวนได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับจักรพรรดิปีศาจใหม่ในโลกปีศาจมา ได้ช่วยเหลือประชาราษฎ์ ท่านอย่าเพิ่งบีบบังคับเขาให้เข้าเฝ้า ให้เขานั้นแต่งตั้งหญิงนั้นเป็นชายารอง พระชายานั้นยังต้องผ่านการคัดเลือก วิธีนี้เหล่าประชาราษฎร์ จะได้ไม่ครหาท่านว่าไปแยกคู่รักจากกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...