ใจของเย่จายซิงสงบนิ่งลง
นางถึงได้รู้ว่ามือของนางเย็นมากจนน่าตกใจ ฝ่ามือใหญ่ของเสด็จอาที่ส่งความอบอุ่นและพลังมาให้นาง ทำให้นางผ่อนคลายความกังวลที่อยู่ในเบื้องลึกของจิตใตนาง
การที่หลงเฟยฟลีปรากฏตัวในเฉินตู ถ้าเช่นนั้นม่านอาคมในหลุมปีศาจก็คงจะถูกทำลายแล้ว เสด็จอาไม่รู้ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เขาคงเตรียมรับมือเอาไว้บ้างแล้ว
ไม่ว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดีหรือไม่ เขาเป็นคนของเสด็จอาแล้ว
อีกอย่าง หลงเฟยหลีก็รับปากนางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าจะไม่ก่อเรื่องอีก
“น้องซิง อย่าคิดมาก รอให้ข้ามาผ้าคลุมแดงของเจ้าอย่างสบายใจได้เลย”
เสียงอันอ่อนโยนที่เสด็จอาพูดดังออกมา ตามด้วยน้องชายของนางเอานางขึ้นหลังให้เขารับต่อ เขาให้นางก๋องหลังอย่างมันคงจากนั้นนำนางเข้าเกี้ยวเจ้าสาว
เมื่อเกี้ยวเจ้าสาวยกขึ้น เสียงดนตรีมงคลรอบๆ ก็ดังขึ้น ตามด้วยทำนองสนุกสนาน
โม่เสิ่นยวนขึ้นขี่ม้ารูปงาม ยังไม่ทันได้ขยับ ไป๋จู๋วก็วิ่งเข้ามา จากนั้นก็พูดเสียงต่ำที่ข้างๆ เข้าอยู่หลายประโยค สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
เย่ยู่หยางก็ได้ยินสิ่งที่ไป๋จู๋วพูด เขาเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ ถามไป๋จู๋วด้วยเสียงต่ำว่า:
“ทำไมเจ้าไม่บอกให้เร็วกว่านี้?”
“คุณหนูไม่ให้ข้าน้อยพูด คุณหนูกลัวว่าท่านกับท่านชายจะกังวล หากว่าจะพูดก็ให้พูดหลังจากงานแต่งไปแล้ว นางเฝ้ารอวันนี้มาก แต่ว่าตอนเช้าของวันนี้ คุณหนูไม่ค่อยปกติ ณ ตอนนั้น ข้าน้อยเห็นถึงความแปลกหน้าในสายตาของคุณหนู”
ขอบตาของไป๋จู๋วแดงพร้อมพูด
คุณหนูไม่ให้นางพูด แต่นางคิดว่าหากนางไม่พูด อาจจะสายจนเกิน
“ไม่ได้การ ต้องให้ลั่วกูหยุนมาดูพี่สาวข้าหน่อย!”
เย่ยู่หยางพูดด้วยความร้อนใจ
โม่เสิ่นยวนขวางเขาไว้ แล้วพูดว่า:“นางอยากให้งานแต่งงานสมบูรณ์แบบ รอให้เข้าพิธีไหว้ฟ้าดินก่อน จากนั้นค่อยให้ลั่วกูหยุนมาดู ข้าจะต้องเร่งความเร็วหน่อย”
เมื่อพูดจบ เขาก็รีบขี่ม้าตามเกี้ยวเจ้าสาวไป ความเร็วของม้ากับความเร็วของเกี้ยงพอๆ กัน ใบหน้าแสดงความยิ้มแย้ม ตอบรับคำขอบคุณที่ผู้คนมาแสดงความยินดี
เซ่าตี้แต่งงานแล้ว เสียงดังสนั่นมาก
ทั้งเฉินตูต่างก็มาพูดร่วมแสดงความยินดี ในทีมขบวนรับตัวเจ้าสาวก็จะมีแจกลูกอมมงคลโดยเฉพาะ แต่หลังจากผู้คนที่แกะกระดาษลูกอมพบว่าข้างในไม่ใช่ลูกอม หากแต่เป็นยากลั่น
ยากลั่นราคาสูงราคาต่ำมีหมด
นี่ยิ่งทำให้คนยิ่งตื่นเต้นมากเข้าไปอีก ต่างก็กระตือรือร้นที่จะไปแย่งลูกอมมงคล
เย่จายซิงได้ยินเสียงนี้ มุมปากก็ยกขึ้น
ทันใดนั้นม่านที่เกี้ยวเจ้าสาวก็ค่อยๆ เปิดออกมุมหนึ่ง ถุงกระดาษถุงหนึ่งถูกส่งมา นางได้กลิ่นหอม เหมือนกับว่าเป็นรสชาติของซาลาเปาร้านหนึ่งที่นางชอบกิน
“เจ้าคงยังไม่ได้กินอะไรเป็นแน่ กินรองท้องก่อน”
เสียงของเสด็จอาดังก้องอยู่ในใจของนาง
นางรับไปอย่างดีใจ เปิดกระดาษไขออก จากนั้นหยิบซาลาเปามากินทีละนิดทีละนิด
ซาลาเปายังร้อนอยู่ ไม่รู้ด้วยว่าเขาไปซื้อมาตอนไหน
เมื่อคืนเหมือนเขาอยู่จนดึกถึงจะกลับไป ตอนนั้นนางทนไม่ไหวแล้วจึงหลับไป จากนั้นก็รู้สึกสะลึมสะลือรู้สึกเหมือนว่าเขาช่วยนางอาบน้ำ
เขาจะต้องเอาขบวนรับตัวเจ้าสาวมารับ แถมยังต้องเตรียมซาลาเปาเอาไว้ให้นางด้วย นางได้กินรสชาติแห่งความสุข
“เสด็จอา ท่านยังไม่ได้พักผ่อนเลย?เหนื่อยหรือไม่?”
นางกินซาลาเปาเสร็จไปหนึ่งลูก พบว่ากินไม่ลงแล้ว จากนั้นก็นำของที่เหลือไปวางไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็คุยกับเสด็จอาในใจต่อ
“ไม่เหนื่อย ได้พาน้องซิงแต่งงานเข้าบ้าน จะเหนื่อยได้อย่างไร”
นางยิมขึ้นมา ทันใดนั้นก็พูดว่า:
“เสด็จอา ข้าอยากมีลูกให้ท่าน ท่านชอบลูกสาวหรือลูกชาย?”
โม่เสิ่นยวนจับบังเหียนในมือแน่น ขยับลำคอ จากนั้นพูดว่า:
“ได้ทั้งนั้น ข้าชอบหมดแหละ ข้าอยากให้ลูกโตแล้วหน้าตาเหมือนเจ้า”
“ทำไมล่ะ?”
“อยากจะเห็นน้องซิงตอนเด็กหน้าตาเป็นอย่างไร”
เย่จายซิงหลุดหัวเราะออกมา “แต่ว่าข้าอยากรู้ยิ่งกว่าว่าตอนเล็กๆ เสด็จอาหน้าตาเป็นเช่นไร ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็มีสองคนเลยดีกว่า คนหนึ่งผู้หญิงคนหนึ่งผู้ชาย คนหนึ่งเหมือนเจ้าอีกคนหนึ่งเหมือนข้า”
“ได้สิ”
โม่เสิ่นยวนได้ยินสิ่งที่นางตอบ ในใจของเขาก็หนักอึ้ง
“เหตุใดถึงมีอสูรทิพย์เยอะขนาดนี้?”
“หรือว่าพวกมันมาแสดงความยินดีในงานแต่งของเซ่าตี้และเซ่าตี้เฟยเหรอ?”
“น่ามหัศจรรย์นัก ฉากแบบนี้ เคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็น!”
“แม้แต่เหล่าอสูรทิพย์ก็คิดว่าเซ่าตี้และเซ่าตี้เฟยเกิดมาเพื่อคู่กันงั้นสิ”
เท้าของหลงเฟยหลีหยุดเดิน
เกิดมาเพื่อคู่กันงั้นหรือ?
“ตื่นตื่น……ตื่นเร็วเข้า……”
ขณะที่สับสน เย่จายซิงเสมือนได้ยินคนกำลังเรียกนาง
หนังตาของนางหนักมาก เหมือนกับว่าจะลืมยังไงก็ลืมไม่ได้
“นายน้อย รีบตื่นขึ้นเร็ว”
นั่นเจ้าไป๋
เจ้าไป๋กำลังเรียกนาง
นางยังได้ยินเสียงนกทิพย์ร้องเพลงจำนวนมาก เสียงนั้นดังเข้ามาในสมองของนาง
“หืม พวกเจ้าดูบนท้องฟ้าสิ เหมือนสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง!”
มีคนตกใจจากนั้นเอามือชี้อสูรทิพย์ที่อยู่บนท้องฟ้าพวกมันกำลังเรียงตัวตามรูปภาพ ซึ่งเหมือนกับสัญลักษณ์โบราณอะไรสักอย่าง แล้วก็เหมือนค่ายกลอะไรด้วย
“บริวารวิหคหงส์”
โม่เสิ่นยวนมองไปยังท้องฟ้า แต่ว่าจิตใจกลับอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวตลอด
เขาเห็นน้องซิงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
“น้องซิง ลองมองดูสิ ข้างนอก บริวารวิหคหงส์ พวกมันมาแสดงความยินดีที่เจ้าและข้าแต่งงานกัน”
เขาทำเหมือนไม่รู้ว่านางหลับไป ปรับอารมณ์ จากนั้นพูดกับนางด้วยความอ่อนโยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...