บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 306

เย่จายซิงดึงจิตตื่นรู้ เห็นอสูรทิพย์ลอยอยู่บนท้องฟ้า

พบว่าเสียงที่ปรากฏในใจนางไม่ใช่ภาพหลอน แต่เป็นเรื่องจริง อาจเป็นสาเหตุที่อสูรนับไม่ถ้วนเหล่านี้เผชิญหน้ากับบริวารวิหคหงส์ จริง ๆ แล้วนางได้ยินเสียงร้องเพลงของนกทิพย์

“บริวารอสูรทั้งหมดมาส่ง มันช่างวิเศษจริงๆ !”

“เอิกเกริกเหลือเกิน แต่ก็เป็นเรื่องมงคล”

“แม้แต่อสูรทั้งหมดก็มาแสดงความยินดีกับเซ่าตี้และเซ่าตี้เฟยของพระองค์ ขอให้พวกเขารักกันตราบนานเท่านาน”

ผู้คนกรีดร้องด้วยความประหลาดใจ

ทั้งหมดเห็นอสูรทิพย์จำนวนมากเหล่านี้ปรากฏขึ้น พวกเขาติดตามกลุ่มต้อนรับญาติและตั้งขบวนรับตัวเจ้าสาวออกจากค่ายกล เมื่อมองดูแล้วก็มาแสดงความยินดีกับการแต่งงานของพวกเขา

หากว่าเป็นเรื่องมงคลก็ดีน่ะสิ

เย่จายซิงคิดในใจ

นางรู้สึกว่าพวกเขามา นางอาจจะตกอยู่ในอันตราย ทำให้นางฉุกคิด

นางเกิดมาสามารถสื่อสารกับอสูรทิพย์ที่เรียกว่าอาจารย์อัญเชิญในแผ่นดินนี้

อย่างไรก็ตามก็ไม่เหมือนอาจารย์อัญเชิญ คือนางไม่ต้องการสะกดจิตอัญเชิญอสูรทิพย์ บางครั้งนางต้องอัญเชิญอสูรทิพย์ให้เปลี่ยนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ระดับการฝึกฝนของนางสูงขึ้น การอัญเชิญจะง่ายยิ่งขึ้น

นางรู้สึกซาบซึ้งพวกเขา สื่อสารกับพวกเขาในใจ และทันใดนั้นพวกเขาก็ร่าเริงเหมือนเด็กๆ ที่เห็นลูกกวาด

เกี้ยวเจ้าสาวหยุดกระทันหัน

“ถึงแล้ว”

เสียงของเสด็จอาดังขึ้นในหูของนาง

นางรู้สึกโล่งใจอย่างอธิบายไม่ถูก แต่โชคดีที่นางตื่นขึ้นเมื่อครู่นี้ ไม่เช่นนั้นเสด็จอาคงกังวลมากที่เห็นนางหลับไป

นางจะต้องเต็มไปด้วยพลังจิตและจัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์ให้กับตัวเองและเสด็จอา

เสียงที่มีความสุขของแม่เจ้าบ่าวดังขึ้นข้างนอก เย่จายซิงได้ยินเสียงเสด็จอาที่ลงจากหลังม้า จากนั้นแม่เจ้าบ่าวก็ประคองนางเดินข้ามเตาอั้งโล่ และเดินข้ามทางที่ปูด้วยเมล็ดธัญพืช ถั่วลิสง และอินทผาลัม จากนั้นก็ผูกผ้าไหมสีแดงเป็นรูปดอกไม้ใหญ่ที่มือของนาง

อีกฝั่งของผ้าไหมสีแดงถูกเสด็จอาจับไว้ นางมองลงมาใต้ผ้าแดงที่คลุมศีรษะก็เจอกับมือของเสด็จอา

พวกเขาทั้งสองจับผ้าไหมสีแดงไว้ด้วยกัน

“เดินไปกับข้านะน้องซิง”

เขาเดินไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าที่มั่นคงและช้าๆ เพื่อที่นางจะได้เห็นชายเสื้อของเขาในทุกย่างก้าว

เสด็จอาใส่ชุดสีแดงทั้งชุด นางเดินไปข้างหน้าด้วยการมองที่พื้น ไม่ได้มองเห็นชัดมากนัก อยากเห็นว่าใส่ชุดสีแดงนั้นเป็นอย่างไร

แต่ก่อนยังไม่เคยเห็นเขาใส่ชุดสีแดงแบบนี้

จะต้องรูปงามกว่าชายอื่น เป็นเจ้าบ่าวที่รูปงามที่สุดในโลก

เจ้าบ่าวของนาง

เย่จายซิงยิ้มที่มุมปากโดยไม่รู้ตัว และค่อยๆ เดินตามเขาไปยังที่ทำพิธี

“ฮ่องเต้เสด็จแล้ว! ”

“คิดว่าฮ่องเต้จะไม่มาซะแล้ว! ”

นางได้ยินเสียงผู้คนคุยกัน

นางแปลกใจมากเพราะเสด็จอาบอกว่าเขาไม่ได้กราบทูลจักรพรรดิ ไมได้เรียนเชิญเขาและแม้แต่งานแต่งงานก็จัดขึ้นในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เขาซื้อข้างนอก

ผู้คนยังคิดว่าฮ่องเต้และเซ่าตี้ต้องงุนงงเพราะเรื่องงานแต่งงาน เมื่อฮ่องเต้ปรากฏตัวที่นี่ อดที่จะคลายความสงสัยไม่ได้

ในเมื่อมาแล้ว เขาจึงเป็นผู้ใหญ่ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่บิดาผู้ให้กำเนิดของเสด็จอา แต่ก็มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด

โม่เสิ่นยวนไม่พอใจฮ่องเต้ การปรากฏตัวของเขาไม่ได้ทำให้เขามีความสุข และเขาจะไม่สนใจเกี่ยวกับการปรากฏตัวของฮ่องเต้ ในวันสำคัญที่นี่

เขามาได้แต่ต้องไว้หน้าตนและน้องซิง ให้คนนอกเห็นว่าจักรพรรดิเห็นชอบกับการแต่งงานครั้งนี้

ดังนั้นตอนที่ “คำนับพ่อแม่” เขาและเย่จายซิงต้องคำนับฮ่องเต้

ฮ่องเต้พยักหน้า แต่จิตใจว้าวุ่น

“สามีภรรยาคำนับกันและกัน! ”

เย่จายซิงหันตัวกลับมาคำนับเสด็จอาอย่างมีความสุข”

“ส่งตัวเข้าห้องหอ! ”

จากนั้นนางและเสด็จอาเข้าห้องหอ

เท้าของนางหมดแรง และทิ้งตัวไปบนตัวของเสด็จอา

“มีเสด็จอาอยู่กับข้า ข้าไม่กลัว เสด็จอา เจ้าจูบข้าก่อนได้หรือไม่? ”

นางเอามือวางไว้หว่างคิ้วของเขา พยายามทำให้คิ้วที่ขมวดเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลางเรียบ

แต่พลังในมือดูเหมือนจะถูกดูดออกไป แล้วก็ล้มลง ก่อนนางจะหมดสติ นางเห็นดวงตาของเสด็จอาตื่นตกใจ และเขารีบจูบนางเป็นสัมผัสที่คุ้นเคยที่เขาทำให้นาง

“น้องซิง! ”

“ลั่วกูหยุน เข้ามา! ”

ลั่วกูหยุนและเย่ยู่หยางพังประตูเข้ามา รีบขึ้นมาบนเตียง

เย่จายซิงอยู่ในอ้อมกอดของโม่เสิ่นยวน ค่อยๆ หลับตาลง มือไม่มีแรงและล้มลงบนเตียง

“ท่านพี่! ”

เย่ยู่หยางตื่นตระหนก

ลั่วกูหยุนรีบจับชีพจรของเย่จายซิง

“น่าแปลก ร่างกายของนางไม่มีปัญหาอะไร ทำไมเป็นแบบนี้ได้! ”

เขาเคยได้ยินเย่ยู่หยางพูดถึงอาการของเย่จายซิงแล้ว เขาพอเดาได้ว่าเป็นโรคหรือถูกพิษอะไร

แต่ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ร่างกายนางแข็งแรงมาก

แต่สีหน้าของนางซีดจนน่าตกใจ

เขาปล่อยตราสำนึกอีกครั้งเพื่อตรวจสอบอวัยวะภายในของนางอย่างละเอียด แต่ก็ยังไม่เจอปัญหาอะไร

“เจ้าดูสิว่ารากทิพย์มีปัญหาหรือไม่”

โม่เสิ่นยวนจู่ๆ ก็พูดขึ้นมา

“รากทิพย์ของนางไม่มีปัญหา รากทิพย์กลียุคนั้นยังเติบโตกว่าตอนแรกไม่น้อย และเกือบจะใกล้เคียงกับขนาดของรากทิพย์”

ลั่วกูหยุนมองดูแล้วก็ส่ายหัว คิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องรากทิพย์

อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่าเยจายซิงเป็นคนเก่งมาก ในเวลาเพียงครึ่งปี จากที่ไม่มีรากทิพย์ จนตอนนี้รากทิพย์กลียุคกำลังจะเติบโตขึ้น

หากไปอยู่กับคนอื่น ไม่กล้าที่จะคิดเลย 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา