ได้ยินเสียงของซินเสียน เย่จายซิงก็รีบขานรับ เกล้าผมขึ้นด้วยทรงอันเรียบง่ายและเตรียมไปเปิดประตู
เวลานี้ นางกลับสังเกตเห็นแจกันดอกไม้ นางเห็นดอกไม้สีทองที่เดิมทียังเล็กๆ ตอนนี้เติบโตได้ดีมาก
สายตาของนางขยับ ก่อนจะก้มหน้าลงมอง เห็นรากที่เหี่ยวเฉาเหมือนจะได้ดูดซับน้ำจนเต็มอิ่ม
“นี่คือแจกันอันเดิมหรือเปล่าเนี่ย?”
นางครุ่นคิดอยู่ไม่กี่อึดใจ ก็ไปเปิดประตูแล้วเดินออกไป
“ว๊าว พี่เย่ วันนี้พี่งดงามยิ่งนัก!”
ทันทีที่เย่จายซิงออกไป ซินเสียนก็จ้องนางที่เดินออกมาก่อนจะส่งเสียงประหลาดใจ
อาจเป็นเพราะเมื่อก่อนผิวพรรณของนางไม่ดี แต่ตอนนี้ผิวของนางกลายเป็นสีขาวอมชมพู เหมือนกับการเติมดอกไม้ลงไปบนผ้าก็ไม่ปาน งดงามจนคนไม่อาจละสายตาได้
เย่จายซิงเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตนถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ในตอนที่นางกำลังหลับนั้นนางก็แทบไม่รู้สึกตัวอะไรเลย
อีกอย่างซินเสียนก็คิดว่าสีหน้าหน้าตาของนางเปลี่ยนเป็นดีขึ้น แต่จริงๆ ไม่เลย ผิวพรรณของนางขาวขึ้น ขนตาหนางอน ริมฝีปากเองก็เป็นสีชมพูอ่อนเหมือนคริสตัล
ก็เหมือนกับการแต่งหน้า
ซินเสียนที่ได้เห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉาทันที “ข้ามีพี่เย่ที่ผิวพรรณเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ต่อให้เป็นความฝันก็ยังมีความสุข”
สีหน้าของนางเศร้าไป รู้สึกละอายใจกับปานบนใบหน้าของตน
ในสมองของเย่จายซิงมีชื่อสมุนไพรจำนวนหนึ่งผุดขึ้นมา นางจดจำอย่างเงียบๆ แล้วพูดกับซินเสียน
“จริงๆ แล้วแบบนี้เจ้าก็สวยเหมือนกัน และน่ารักมาก”
นางรู้สึกได้รางๆ ว่าสมุนไพรที่ปรากฏขึ้นในหัวของนางเมื่อครู่นี้คือยาที่จะปรับปรุงผิวพรรณของนางให้ดียิ่งขึ้น
ถ้าเกิดว่าซินเสียนเป็นทถกข์ใจเรื่องผิวของนางมาตลอด ครั้งหน้านางก็สามารถไปลองยืมเตาหลอมยากับผู้อาวุโสสามได้
ซินเสียนคิดว่านางปลอบใจตัวเอง จึงเม้มปากพยักหน้า โยนเรื่องนี้ออกไปจากสมอง
เมื่อเย่จายซิงและซินเสียนไปที่แปลงผักหลังเขา เจ้าสำนักของพวกเขาก็มาถึงแล้ว
มองจากไกลๆ จะเห็นสีเหลืองทองเต็มแปลงผัก ดอกไม่สีทองมีหมอกเกราะ เมื่ออยู่ภายใต้แสงอาทิตย์มันจึงดูเปล่งประกาย
เมื่อวานนี้ยังมีดอกไม้เพียงห้าหกดอกเล็กๆ เท่านั้น แต่วันนี้กลับมีมากมาย เหตุการณ์ตรงหน้านี้ทำให้คนประหลาดใจไม่น้อย
เจ้าสำนักชอบอ่านหนังสือทุกประเภท เดิมทีก็เป็นนักพฤกศาสตร์ทิพย์ แต่ดอกไม้สีทองนี้กลับไร้หนทางจะตรวจสอบ
แม้ว่าจะสิ่งที่ชอบอ่านจะเป็นพวกเรื่องแต่ง แต่พืชที่ปลูกนั้นก็เป็นผัก แต่ก็นับว่าได้เรียนรู้อะไรมามากมาย
“น่าแปลกๆ”
เจ้าสำนักลูบเคราและตำส่งเสียงจิ๊ๆ ประหลาดใจ
เย่จายซิงเดินเข้าไป ลูกหมอกบนผิวดอกไม้ เป็นเพียงหมอกที่ธรรมดามาก ไม่มีส่วนไหนพิเศษเลย
หลังจากที่ทุกคนได้เห็นความตื่นเต้น ก็ค่อยๆ แยกย้ายกันออกไป
เมื่อมีนกบินผ่านมาก็ทิ้งเมล็ดดอกไม้เอาไว้
ถึงอย่างไรนอกจากความสวยและสีที่หาได้ยากแล้ว ดอกไม้นี้ก็ดูธรรมดา ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงชี่ทิพย์ใดๆ
“จายซิง ถ้าเจ้าสนใจก็ดูไปเรื่อยๆ เถอะ พวกเราขอตัวก่อน สำนักต้องพยายามต่อไป ตั้งแต่วันนี้ ชั้นเรียนตอนเช้าจะเริ่มแล้ว!”
เจ้าสำนักตบไหล่ของเย่จายซิง หลังจากพูดกับนางจบแล้ว ก็เดินเอามือไพล่หลังจากไป
“พี่เย่ข้าเองก็ต้องไปเรียนเช้าแล้ว ถ้าพี่หิวก็ไปที่โรงอาหารนะ ที่นั่นยังมีของกินอยู่”
ซินเสียนก็โบกมือให้นาง
เย่จายซิงโบกมือด้วยรอยยิ้ม หลังจากรอให้คนจากไปหมดแล้ว นางก็นั่งยองๆ สังเกตดอกไม้สีทองนั้น
พวกมันบานสะพรั่งภายในเวลาข้ามคืน แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นว่าจะมีเสม็ดพันธุ์ บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งลึกลับใต้พื้นดินก็ได้
นึกถึงสิ่งที่เจ้าสำนักบอกกับนางก่อนหน้านี้ ให้นางสำรวจสิ่งได้ตามใจชอบ ดังนั้นนางจึงลงไปที่ห้องใต้ดินอีกครั้ง
หลังจากลงไปที่ห้องใต้ดิน นางก็หยิบดาบสีแดงของตนออกมา ส่งพลังทิพย์เข้าไป และจากนั้นก็เจาะลงไปที่ใต้พื้นดิน
นางอยากจะดูว่าใต้ดินหลังเขานี้คืออะไร
ในไม่ช้านางก็ขุดหลุมลึกหลายชั้น แต่ก็มีกองดินเลย เพราะมันถูกนางบรรจุลงในถุงเก็บของ
แต่ในไม่ช้านางก็พบว่ายิ่งนางลงลึกไปมากเท่าไหร่ ดินก็ยิ่งแข็งขึ้นเท่านั้น จนในที่สุดมันก็กลายเป็นก้อนหินแข็ง
เฮ้ย! มาร์มอตมาจากไหนกัน!
เย่จายซิงกระแอมไอสองครั้ง ใต้ฝ่าเท้าของนางลื่นจนกลิ้งไถลลงไป
นางลื่นไถลไปที่นอกห้องกลั่นยาของผู้อาวุโสสามลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่กำลังจะเคาะประตู ประตูก็เปิดออกจากด้านในพอดี
“แม่นางเย่? มีเรื่องอะไรงั้นหรือ?”
ผู้อาวุโสสามมองเย่จายซิงที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยดินด้วยความประหลาดใจ คิ้วขมวดมุ่น เมื่อใช้เคล็ดวิชาทำความสะอาด ดินที่ติดอยู่ซอกรองเท้าก็หายไปแล้ว
ไม่เพียงแค่นั้น แต่ดินบนพื้นดินก็ถูกเขาใช้แขนเสื้อพัดพาไปไกล
เมื่อมองไปที่ผู้อาวุโสสามซึ่งทำทรงผมอย่างพิถีพิถัน ก็เงยหน้าขึ้นมองเตาหลอมที่จัดเรียงอย่างเรียบร้อยและสมุนไพรในห้องกลั่นยารวมถึงพื้นที่ไม่มีแม้แต่ฝุ่นไร
นางส่งเสียง “อ่อ” ในใจ ที่แท้ก็เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ
เดียวนะ พวกย้ำคิดย้ำทำหมายถึงอะไร?
แต่ช่างเถอะ นางก็ไม่ได้แปลกใจกับคำพูดที่ผุดขึ้นมาในหัวของนางเท่าไหร่
“เอ่อ ผู้อาวุโสสาม ที่ข้ามาก็เพราะอยากจะยืมใช้เตาหลอมของท่าน”
นางพูดกับผู้อาวุโสสาม
“ได้สิ เจ้าอยากจะหลอมยาอะไรล่ะ?”
สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือผู้อาวุโสสามไม่แม้แต่จะปฏิเสธ ถึงขั้นให้นางหลอมยาด้วยความยินดีอีก
จากนั้นก็ได้ยินผู้อาวุโสสามพูดว่า “เจ้าอยู่เพลิงพิลึกขั้นแปด เมื่อก่อนต้องเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นสูงเป็นแน่”
จริงสิ ทุกคนต่างก็รู้ว่านางมีเพลิงพิลึกขั้นแปด
“จริงๆ แล้ว ข้าจำอะไรไม่ได้เลย แต่เมื่อวานและวันนี้ มีสมุนไพรมากมายผุดขึ้นมาในใจข้า ข้าก็เลยอยากลองดู อยากดูว่าจะนึกอะไรได้บ้างหรือไม่”
นางกล่าว
ผู้อาวุโสสามพยักหน้า “สมุนไพรอะไร เจ้าเขียนออกมาก่อนได้นะ ข้าจะช่วยเจ้าดูว่าเป็นสูตรยาอะไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...