บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 341

เย่จายซิงรู้สึกเสมอว่าพลังปราณของตนเองนั้น. ถึงเพียงแค่แดนราชาทิพย์เท่านั้น

บางทีการที่นางสามารถฆ่าผู้อาวุโสจูแห่งสำนักจงไปได้นั่นเป็นเพราะนางมีประสบการณ์ในการฆ่าคนมาก่อน?

แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่นางคาดเดาไปเอง หรือบางทีก่อนหน้านั้นนางอาจจะฝึกตนก้าวข้ามไปถึงแดนมหาจักรพรรดิทิพย์แล้วก็เป็นได้

นั่นอาจจะสรุปได้ว่า นางฝึกตนจนได้ไปถึงแดนราชาทิพย์

ในยามนี้ เพียงแค่นางตื่นขึ้นมา เย่จายซิงพลันสัมผัสได้ถึงปราณฝึกตนขั้นแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ในทันที นั่นทำให้นางรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจไปมากกว่านั้นก็คือ เหตุใดนางถึงไม่พบเจอความทุกข์ยากอะไรเลยล่ะ?

เหตุใดจู่ ๆ นางก็ถึงเลื่อนขั้นอย่างไร้วี่แววเช่นนี้ได้?

ผู้อื่นเลื่อนขั้นทั้งที ล้วนแต่เต็มไปด้วยความครึกครื้นอึกทึกครึกโครม หากแต่ตนเองกลับทะลวงพลังปราณผ่านไปได้อย่างเงียบ ๆ นับว่าน่าแปลกใจยิ่งนัก

ในเมื่อนางไม่อาจหาสาเหตุมันได้ นางก็คร้านที่จะไปเก็บไปคิดวิเคราะห์ถึงเหตุและผลของมันเช่นกันเพียงแต่เย่จายซิงคาดเดาไปเองว่า อาจจะเป็นเพราะไข่มุกมังกรยัที่งคงมอบชี่ทิพย์มาให้นางไม่ยอมหยุดก็เป็นได้

“วันนี้ นับว่าเป็นการเริ่มต้นของวันที่มีความสุข เช่นนั้นข้าจะออกไปเดินเล่นนอกสำนัก”

เย่จายซิงจึงได้นำแจกันดอกไม้เก็บเข้าไปในแหวนมิติ ด้านในยังมีดอกไม้สีทองมากมายที่นางเก็บมาจากแปลงผัก

มิรู้ว่าเป็นเพราะไข่มุกมังกรหรือไม่ หลังจากที่นางกลืนไข่มุกมังกรเข้าไปแล้วนั้น ในคืนวันนั้น ดอกไม้สีทองในแปลงผักของเย่จายซิงพลันเกิดการแห้งเหี่ยว และไม่งอกต้นใหม่ออกมาอีกเลย

ทว่าสวนผักที่อยู่ภายในแปลงกลับเจริญเติบโตได้อย่างน่าชื่นใจยิ่งนัก ทุกที่ล้วนแต่เต็มไปด้วยสีเขียว

เมื่อท่านเจ้าสำนักรู้ว่าเย่จายซิงจะออกไปนอกสำนักนั้นจึงได้สั่งให้คนคุ้มครองสามคนตามไปคอยอารักขานาง เย่จายซิงเพียงโบกไม้โบกมือไปมา กล่าวเป็นนัยว่าไม่เอา

“ข้าสามารถฝึกตนทะลวงลมปราณผ่านได้แล้ว ตอนที่ข้ายังไม่อาจทะลวงผ่านไปได้นั้น ข้าก็สามารถล้มผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งขั้นแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ลงได้ ในยามนี้ฝ่ายตรงข้ามมีเพียงสามคนเท่านั้น มิมีอันใดให้น่ากังวล เป็นสำนักเองเสียมากกว่า ที่ไม่อาจขาดคนปกป้องไปได้ ”

แท้จริงแล้วท่านเจ้าสำนักเพิ่งจะรู้ว่า เย่จายซิงทะลวงลมปราณผ่านแล้วนั่นเอง

เนื่องจากว่าพลังปราณการฝึกตนของนางนั้น มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมองออก คล้ายกับว่าในกายของนางมีสิ่งใดบางอย่างบดบังเอาไว้ไม่ให้เห็นปราณที่แท้จริงของนางได้

“เช่นนั้นเจ้าก็พกออกไปสักคนเถิดข้าจักได้วางใจลงหน่อย”

ท่านเจ้าสำนักพยายามระงับอาการตื่นตระหนกของตนเองเอา พร้อมพูดกับนาง

เย่จายซิงจึงไม่อาจขัดคำสั่งท่านเจ้าสำนักไปได้ ผลสุดท้ายยามที่นางออกมาจากสำนักนั้น จึงได้มีผู้คุ้มครองตามลงเขามาด้วยคนหนึ่งแทน

“สำนักเฉียนคุนมีลงจากเขาแล้ว! เป็นสตรีที่งดงามเสียด้วย!”

เพียงแค่เย่จายซิงลงมาจากเขานั้น ก็ถูกผู้อื่นจับจ้องเสียมากมายแล้ว

พลันมีคนส่งข่าวไปให้ฉียวี่เจียและกัวเจียงในทันที

ทั้งสองคนที่อยู่ไม่ไกลจากตีนเขานั้น เพียงแค่ได้ข่าวก็รีบตามมาในทันที เมื่อเห็นเย่จายซิงนั้น ทั้งสองคนหาได้ตกตะลึงไม่ พร้อมทั้งเรียกหน่วยเสริมอีกสามคนออกมาอย่างลับๆ

ยามที่ได้ยินว่ามีสาวงามจากสำนักเฉียนคุนลงมานั้น สิ่งที่พวกเขานึกได้ก็คือเย่จายซิง

อีกทั้ง สองวันที่ผ่านมาพวกเขาที่ได้เห็นนางจากภาพวาดเสมือนนั้น พลันรู้มาว่านางคือผู้ช่วยเจ้าสำนักเฉียนคุนอายุน้อยที่มีปราณขั้นแดนราชาทิพย์

แต่เดิม พวกเขาตั้งใจว่าจะบุกเข้าไปสังหารในสำนักเฉียนคุนผู้ใดจะไปคาดคิดว่าท่านเจ้าเมืองเซียวเหยาจะส่งคุ้มครองทั้งหกตนมาที่สำนักเฉียนคุนจนป่านนี้ยังไม่กลับ กลับกันพวกเขายังมาอยู่กินที่นี่ แถมยังกลายมาเป็นคนคุ้มกันอยู่ในสำนักในเฉียนคุนอีกด้วย ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งขั้นแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ทั้งหกนาย จึงได้คอยอยู่ดูแลความปลอดภัยภายในสำนักเฉียนคุน

ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นพวกเขาเลยต้องคอยเฝ้าอยู่ตีนเขาแทน เพื่อรอให้คนของสำนักเฉียนคุนออกมา

เพียงแค่มีคนออกมาจากเขา พวกเขาก็จักใช้การค้นหาวิญญาณ เพื่อค้นหาดูว่าสำนักเฉียนคุนมีปรมาจารย์กลั่นยาพำนักอยู่ที่นั่นจริงหรือไม่

ไม่คิดเลยว่า ยามที่พวกเขาเฝ้าจับตามองอยู่นั้น กลับไม่มีผู้ใดลงจากเขามาเลยแม้แต่คนเดียว

วันนี้นับว่าเป็นฤกษ์งามยามดี ทั้งฉียวี่เจียและกัวเจียงย่อมไม่ปล่อยโอกาสเช่นนี้พลาดไปแน่

“ตามนางไปก่อน ข้างกายของนางมีผู้ติดตามเพียงคนเดียวเท่านั้น ค่อยหาโอกาสลักพาตัวนางมา!”

ยามที่กัวเจียงพูดจบนั้น นัยน์ตาของเขาพลันทอประกายระยิบระยับออกมา

เพียงแค่เห็นแผ่นหลังของเย่จายซิง ก็สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกหลงใหลได้ไม่ยาก

ฉียวี่เจียได้แต่กำหมัดของตนเองเอาไว้มิได้เอ่ยอะไรออกมาภายในใจกลับครุ่นคิดว่ารอจนกว่านางจะหาเบาะแสจากร่างกายของเย่จายซิงได้เสียก่อนเถอะ นางจักเป็นคนแรกในทุกๆคน ที่ชักดาบออกมาปลิดชีพเย่จายซิงให้ตายลงเพียงด้ามเดียว !

“รุ่นพี่ มีอะไรให้หวาดกลัวกัน ท่านอาจารย์ของพวกเราก็มีความสัมพันธ์อันดีกับราชาโอสถป๋ายหลี่ หากพวกเราปลิดชีพปรมาจารย์กลั่นยาท่านนั้นได้แล้วไซร้นั่นนับว่าเราได้กำจัดศัตรูของท่านราชาป๋ายหลี่ออกไปได้อีกคนหนึ่ง ราชาโอสถป๋ายหลี่มีแต่จะต้องขอบคุณพวกเรา ท่านอาจารย์เองก็คงจะตกรางวัลให้พวกเราอย่างงามเช่นกัน”

ฉียวี่เจียเอ่ยออกมา

กัวเจียงเองก็ได้พยักหน้าออกมา พร้อมทั้งรู้สึกว่าสิ่งที่นางพูดก็หาได้ไร้เหตุผลไม่

ในยามนี้ ใต้หล้าต่างล่วงรู้เพียงว่า มีเพียงราชาโอสถป๋ายหลี่เพียงแค่คนเดียวที่สามารถกลั่นยาโอสถไขกระดูกเยือกได้ แต่ก็ด้วยเพราะโอสถนี้ ถึงทำให้ราชาโอสถป๋ายหลี่มีชื่อเสียงเรียงนามมากว่าอาจารย์กลั่นยาขั้นแปดเสียอีก ทั้ งยังสามารถทำให้ตระกูลป๋ายหลี่กลายเป็นตระกูลที่มั่งคั่งขึ้นมาได้

ราชาโอสถป๋ายหลี่ย่อมไม่อยากให้ผู้ใดมาแย่งผลประโยชน์ของเขาไปอย่างแน่นอน

เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว การบุกเข้าไปทำลายสำนักเฉียนคุน ทั้งยังเข้าไปสังหารปรมาจารย์กลั่นยาผู้ยานั้น นับว่ามีแต่หนทางที่จะพาไปพบกับความมั่งคั่งทั้งยังสามารถสานสัมพันธ์กับราชาโอสถป๋ายหลี่ได้อีกด้วยผลประโยชน์มากมายถึงเพียงนี้ ทำไมพวกเขาถึงจะไม่ทำกันล่ะ?

“รุ่นพี่นางเข้าไปในตรอกซอยแคบ ๆ ตรงนั้นแล้ว พวกเรารีบตามไปเถอะ!”

ฉียวี่เจียรีบลากกัวเจียงให้รีบตามไปด้วยกันในทันที

เพียงแค่พวกเขาเดินเลี้ยวตามตรอกซอกซอยไปได้ไม่นาน ก็พลันเห็นเย่จายซิงยืนรออย่างไม่รีบไม่ร้อนอยู่ตรงหน้าไปในทันที ดวงตาคู่สวยทั้งสองข้างกำลังจับจ้องมองมาที่พวกเขาอยู่

“ตามข้ามาตั้งนานแล้ว คงจะเริ่มเหนื่อยกันแล้วกระมังเช่นนั้นมานั่งพักเพื่อพูดคุยกันหน่อยดีหรือไม่”

สถานที่นี้ มีที่ใดให้สามารถนั่งลงได้กัน ความหมายของสตรีผู้นี้ก็คือ ต้องการจะล้มพวกเขาลงเพื่อที่นางจะได้พักผ่อนอย่างสบายใจ

“เจ้าปากกล้ายิ่งนัก! ข้างกายเจ้ามีผู้ติดตามเพียงคนเดียวเท่านั้นฝั่งของข้ามีผู้แข็งแกร่งขั้นแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ถึงสามคน! ข้าขอเตือนเจ้า รีบคุกเข่าร้องขอความเมตตาเสียตอนนี้ บางทีข้าอาจจะยอมเก็บร่างของเจ้าเอาไว้ครบสมบูรณ์ก็ได้”

ฉียวี่เจียมองไปยังเย่จายซิงด้วยความเย็นชา พลางพูดออกมาด้วยท่าทีหยิ่งยโส

“งั้นหรือ? เจ้าคิดว่าด้วยความสามารถของพวกเจ้าทั้งสามคนแล้วนั้น จะสามารถฆ่าข้าได้หรือ?”

ในมือของเย่จายซิงพลันปรากฏกระบี่เพลิงออกมาด้ามหนึ่งในทันที

กระบี่ด้ามเรียวยาว ที่แผ่กลิ่นอายสังหารออกมาด้วยความเย็นยะเยือก มุมปากของเย่จายซิงพลันกระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย พลางชี้ไปที่พวกเขาเหล่านั้นว่า

“เช่นนั้น พวกเจ้าก็เข้ามาลองดูซิ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา