อุตสาหกรรมประเภทต่างๆของตระกูลหนานกงแผ่ขยายไปทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ เป็นตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียง ทรัพย์สินเงินทองของครอบครัวมีมากมายมหาศาล
หนานกงจิ่นนายน้อยหนานกงยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที่มีชื่อเสียง ตอนที่ถือกำเนิดออกมาฟ้าดินก็มีปรากฏการณ์ประหลาด กล่าวกันว่าเป็นเทพบรรพกาลกลับชาติมาเกิด
มารดาของเขายังเป็นพระองค์หญิงองค์โตของราชวงศ์จิงหงอาณาจักรทางเหนือ ฐานะก็คือสูงส่งจนไม่สามารถบรรยายได้
ไม่รู้ว่ามีหญิงสาวมากมายเท่าใดที่อยากจะแต่งงานเป็นภรรยาของนายน้อยหนานกง เพียงแต่น่าเสียดายที่เขาเป็นเทพมังกรเห็นหางไม่เห็นหัวผู้นี้(ผู้ที่ทำตัวลึกลับไม่ชอบเปิดเผย) ปรากฏตัวให้เห็นน้อยมาก ค่อนข้างเก็บตัว
ฉียวี่เจียคิดไม่ถึงว่าสถานที่เล็กๆเช่นเมืองเสวียนหยวนประเภทนี้ คาดไม่ถึงว่าจะได้พบเจอหนานกงจิ่น ทำให้นางทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ
นางลูบปอยผมสองสามเส้น ทำท่าทางสะดีดสะดิ้งมุ่งไปยังหนานกงจิ่น แต่ทว่าสายตาของหนานกงจิ่นไม่แม้แต่มองไปบนร่างกายของนาง ก็เดินมุ่งหน้าไปยังเย่จายซิง
“ข้ามองดูเจ้ารู้สึกคุ้นตาเล็กน้อย พวกเราเคยเจอกันที่ใดใช่หรือไม่?”
ประโยคแรกของหนานกงจิ่นก็คือรู้สึกเหมือนกับว่าเคยรู้จักกับเย่จายซิงมาก่อน
ฟังดูเหมือนเป็นภาษาชวนคุยที่ดูจะไม่ค่อยมีคุณภาพสักเท่าใด
ฉียวี่เจียกัดฟัน ในใจไม่มีความสุข
หรือว่าชายหนุ่มทุกคน ทั้งหมดล้วนถูกความงดงามของเย่จายซิงทำให้สับสนงั้นหรือ?
แม้กระทั่งนายน้อยหนานกงเองก็หนีไม่พ้น?
เย่จายซิงมองไม่เห็นเจตนาร้ายจากบริเวณหว่างคิ้วของหนานกงจิ่น และก็ไม่ได้มองเห็นสีสันอื่นๆเช่นกัน หมายความว่าเขารู้สึกว่านางคุ้นตาจริงๆ
ทันทีที่นางครุ่นคิด กล่าว: “ข้าไม่รู้ว่าพวกเราเคยเจอกันหรือไม่ ไม่ทราบว่านายน้อยหนานกงสามารถนึกออกได้หรือไม่?”
ถ้าหากเขาทราบตัวตนของตนเอง เช่นนั้นก็จะยอดเยี่ยมไปเลย
หนานกงจิ่นขมวดหว่างคิ้วแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ส่ายหน้าแล้วกล่าว:
“น่าแปลก ก็คือรู้สึกว่าคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ถ้าหากเคยพบเจอเจ้า ข้าไม่มีทางไม่มีความทรงจำเลยแม้แต่น้อย”
เย่จายซิงมีความผิดหวังเล็กน้อย ยังนึกว่าจะได้เบาะแสเพิ่มอีกนิด
“เมื่อครู่ผู้อาวุโสซุนเหมือนกับว่าประหลาดใจยิ่งนัก ข้าเองก็จะมาดูค่ายกลเหาะเหินที่เจ้าวาด”
พูดไป หนานกงจิ่นเดินเข้าไปด้านในเรือทิพย์ที่ยับเยิน
หญิงสาวที่เสียงดังเอะอะโวยวายนางนั้นถูกไล่ออกไปแล้ว ฉียวี่เจียและกัวเจียงก่อนเข้าเมืองก็ถูกป้อนยาเข้าไปแล้วไม่มีทางพูดได้ ผู้ดูแลคนงานที่อยู่หน้างานก็ดูเคร่งขรึมขึ้นไม่น้อยเนื่องจากการมาถึงของนายน้อย ไม่แอบพูดคุยกันเสียงเบาอีก กลับเป็นค่อนข้างเงียบสงบ
เนื่องจากค่อนข้างเงียบสงบ ด้านในมีเสียงแปลกประหลาดใจเสียงหนึ่งดังลอยมา ทำให้ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นได้ยินอย่างชัดเจน
“ค่ายกลเหาะเหินนี้วาดได้ไม่เลวเลยจริงๆ! คาดไม่ถึงว่าจะเลื่อนขั้นเรือทิพย์ทั้งลำได้ เมื่อเปรียบเทียบกับอาจารย์ค่ายกลบางส่วนแล้ว ไม่ได้ด้อยกว่าที่เคยมีมา”
หนานกงจิ่นเอ่ยกล่าวสรรเสริญ
ผู้อาวุโสซุนพยักหน้า: “ไม่ผิด ข้าเคยเจออาจารย์ค่ายกลที่ความสามารถแข็งแกร่งยิ่งใหญ่มาไม่น้อย แต่น้อยมากที่จะได้เห็นค่ายกลเหาะเหินที่ทำให้คนประหลาดใจเช่นนี้ ไม่ทราบว่า แม่นางน้อยผู้นี้ยินดีจะเข้าร่วมกับสหการค้าของพวกเราหรือไม่ กลายเป็นอาจารย์ค่ายกลที่มีเกียรติยศและชื่อเสียงท่านหนึ่ง”
หนานกงจิ่นเดินออกมา มองดูเย่จายซิงด้วยความชื่นชมแล้วกล่าว:
“ผู้อาวุโสซุนยากที่จะชื่นชมใครสักคนเป็นอย่างมาก ไม่ทราบว่าเจ้ายินดีเข้าร่วมกับสหการค้าหนานกงหรือไม่?”
ตระกูลหนานกงลงมืออย่างกล้าได้กล้าเสีย กลายเป็นอาจารย์ค่ายกลมีเกียรติยศและชื่อเสียงของสหการค้าหนานกง สามารถนำพาผลประโยชน์มาให้มากมาย
แต่ทว่าเย่จายซิงก็ปฏิเสธโดยที่ไม่ได้ครุ่นคิดเลยสักนิด
“ขออภัย ข้าไม่มีเวลา พรุ่งนี้ข้าต้องเข้าร่วมการแข่งขันกลั่นยา หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะเดินทางออกจากเมืองเสวียนหยวนไปเซียนเหอ คงไม่อยู่ที่นี่นานนัก”
“การแข่งขันกลั่นยา?” หนานกงจิ่นกล่าวอย่างประหลาดใจ: “เจ้าไม่ใช่เพียงแค่อาจารย์ค่ายกล ยังเป็นอาจารย์กลั่นยาด้วย?”
นางพยักหน้า
เขายิ่งประหลาดใจมากขึ้น:
“แต่เท่าที่ข้าทราบมา การแข่งขันกลั่นยาวันพรุ่งนี้เป็นการแข่งขันของอาจารย์กลั่นยาขั้นสูง อีกทั้งยังเป็นการเลือกอาจารย์กลั่นยาที่แข็งแกร่งออกมาจากชั้นต่างๆ เจ้าอายุยังน้อย อย่าบอกข้าว่าเจ้าก็เป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นสูงเช่นกัน?”
“ข้าเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ด”
หนานกงจิ่นเอ่ยกล่าวด้วยความสนใจยิ่งนัก
กล่าวจบ เขาก็โบกมือให้ผู้ดูแลที่เป็นห่วงอย่างไร้ประโยชน์ไปยุ่งกับเรื่องของตนเอง เขากำลังโบกพัดมองไปยังทิศทางที่เย่จายซิงจากไป ในใจคิด:
ความรู้สึกคุ้นเคยบนร่างกายของนาง ที่แท้แล้วมาจากสถานที่ใดกันแน่นะ?
จะต้องให้คนไปสืบหาดูสักหน่อยถึงจะถูกต้อง
วันต่อมา การแข่งขันกลั่นยาเริ่มขึ้นแล้ว
ทันทีที่เย่จายซิงขึ้นบนเวที สายตาทั้งหมดก็รวมตัวกันเข้ามา ที่อยู่บนเวทีการแข่งขันกลั่นยาทั้งหมดล้วนเป็นบรรดาผู้อาวุโสที่มีผมหงอก นางสะดุดตามากเกินไปจริงๆ ถึงแม้นางจะสวมใส่เพียงแค่กระโปรงโปร่งบางสีเทาทั้งตัวอย่างไม่โดดเด่น ก็ทำให้ผู้คนยากที่จะมองข้าม
“หญิงสาวผู้นั้นขึ้นไปผิดสถานที่แล้วหรือเปล่า? นางเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นสูง? ต้องเข้าใจว่า บนเวทีต่ำสุดก็คืออาจารย์กลั่นยาขั้นหก นางขึ้นไปทำอะไร!”
“ข้าเห็นว่านางหยิบป้ายคำสั่งเข้าร่วมการแข่งขันออกมา เหมือนกับว่านางเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นสูงจริงๆ!”
“อะไรนะ! อาจารย์กลั่นยาขั้นสูงอายุน้อยขนาดนี้?”
“เป็นไปไม่ได้กระมัง! มีตรงไหนที่เข้าใจผิดไปหรือไม่?”
“นางขึ้นไปมิใช่ว่าเป็นการหาความกดดันหรือ? ด้านบนนี้อาจารย์กลั่นยาจำนวนมาก ล้วนเป็นอาจารย์กลั่นยาที่แข็งแกร่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาช้านาน!”
ทุกคนที่กำลังมองดูเย่จายซิงต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ใบหน้าของนางนั้นดูดีจริงๆ มองดูแล้วมีความสุขมากจริงๆ
แต่การแข่งขันกลั่นยาเป็นสถานการณ์ที่เคร่งขรึมจริงจังแบบหนึ่ง ไม่ใช่ให้คนมาล้อเล่น
มุมปากของเย่จายซิงวาดขึ้นเล็กน้อย ภายในใจกล่าว:
อีกประเดี๋ยวพวกเจ้าก็จะไม่คิดแบบนี้แล้ว เมืองเสวียนหยวน จะเป็นสถานีแรกที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังให้ข้า
นางมีความมั่นใจ ในตนเองเป็นอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...