บนเวทีกลั่นยา ทันทีที่เย่จายซิงจุดเพลิงพิลึกขั้นแปด เสียงเหน็บแนมทั้งหมดเงียบกริบลงในทันที
รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่ซวงอิงหยุดชะงักไป จ้องมองเพลิงพิลึกในมือของเย่จายซิงอย่างยากที่จะเชื่อ
คนของตระกูลใหญ่อย่างเช่นพวกเขาแบบนี้ เข้าใจถึงความยากที่จะได้มาของเพลิงพิลึกและยากที่จะหลอมรวมเป็นอย่างดี ต่อให้เป็นราชาโอสถป๋ายหลี่ การหลอมรวมเพลิงพิลึกของตนเองก็เพิ่งจะเป็นเพลิงพิลึกขั้นเจ็ด
เพลิงพิลึกขั้นแปดขึ้นไป หลายปีนี้ไม่เคยปรากฏที่แผ่นดินใหญ่มาก่อน
ถึงแม้ว่าเพลิงพิลึกสองสามประเภทจะสามารถหลอมรวมและกลืนกินได้ แต่ก็ไปไม่ถึงระดับนี้
พวกเขาไม่รู้ เพลิงพิลึกของเย่จายซิงก็คือหลังจากกลืนกินเพลิงพิลึกอื่นๆถึงเลื่อนระดับมาจนถึงระดับในตอนนี้ ถ้าหากยังมีเพลิงพิลึกขั้นเจ็ดให้มันกลืนกิน ระดับยังสามารถเพิ่มสูงขึ้นได้อีก
สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือเพลิงพิลึกของนางเป็นเพลิงเทวจิ่วโย เพลิงพิลึกขั้นเซียนในตำนาน ถึงแม้จะลดลงมาถึงระดับที่แย่ที่สุด ก็สามารถเพิ่มขึ้นไปทีละขั้นได้
“นางได้เพลิงพิลึกขั้นแปดมาจากที่ใด?”
ป๋ายหลี่ฮ่าวเองก็ประหลาดใจอย่างสุดขีดเช่นกัน
ท่านปู่รองของเขาราชาโอสถป๋ายหลี่เพื่อตามหาเพลิงพิลึกขั้นแปด ไม่รู้ว่าวิ่งไปทั่วทั้งหมดกี่สถานที่ แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย
ถ้าหากราชาโอสถป๋ายหลี่สามารถมีเพลิงพิลึกขั้นแปด ไม่แน่ว่าก็อาจมีโอกาสเลื่อนขึ้นอีกขั้น กลายเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นเก้าที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่แล้ว!
นั่นถึงจะสมควรได้รับอาจารย์กลั่นยาอันดับหนึ่งของแผ่นดินใหญ่!
“คงจะทำบุญมาดีกระมัง!”
ลู่ซวงอิงเอ่ยกล่าวด้วยความริษยา
เพลิงพิลึกขั้นแปด ใช้สำหรับเป็นอาวุธ สามารถสังหารคนได้อย่างไร้รูป
นางจะไม่อิจฉาได้อย่างไร
นี่คือเพลิงพิลึกขั้นแปดที่แม้แต่ราชาโอสถป๋ายหลี่ล้วนไม่มี
“ข้าก็รู้ว่าข้าไม่ได้มองคนผิด”
ในโรงน้ำชา หนานกงจิ่นที่กำลังโบกพัด ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
และต่อมาการแสดงออกของเย่จายซิงก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังอย่างแท้จริง หลังจากที่นางเริ่มกลั่นแล้ว ก็ได้ทุ่มเทกายใจทั้งหมดเข้าไปด้วย สีหน้าท่าทางตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง กลับแฝงไปด้วยความเงียบสงบและนิ่งเฉย ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในการควบคุมของนาง
ความไม่ชำนาญของนางเป็นแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ท่าทางหลังจากนั้นลื่นไหลราวกับสายน้ำ ร่างบางอรชรอ้อนแอ้น ทำให้คนที่มองนั้นตาพร่ามัว
ทั่วทั้งสนามนางคือผู้ที่กลั่นโอสถออกมาได้สำเร็จเป็นคนแรก
อีกทั้งโอสถที่นางกลั่นออกมาเป็นอันแรกก็คือโอสถขั้นเจ็ด อาจารย์กลั่นยาคนอื่นๆเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทั้งหมดที่กลั่นคือโอสถขั้นหก
เมื่อการรับรู้ของทุกคนกวาดมองไปยังโอสถสีม่วงที่อยู่ในเตากลั่นโอสถ สีหน้าท่าทางที่ประหลาดใจบนใบหน้าของพวกเขาแทบจะเหมือนออกมาจากพิมพ์เดียวกัน
ลู่ซวงอิงรู้สึกว่าใบหน้าของตนเองบวมขึ้นมาจากการตบที่ไร้รูป
ทุกประโยคที่นางกล่าวก่อนหน้านี้ ทั้งหมดล้วนได้รับการพิสูจน์ยืนยันแบบตรงกันข้าม
เย่จายซิงไม่เพียงเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ด ยังกลั่นโอสถได้รวดเร็วที่สุดคนหนึ่ง อาจารย์กลั่นยาที่มีพรสวรรค์ที่คุณภาพโอสถดีที่สุด
ทั้งสนามฮือฮาขึ้นมา
“นี่คืออาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดอายุสิบเจ็ดปี! ทำข้าตะลึงงันไปเลย!”
“ถ้าหากว่าไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ก็ยากที่จะเชื่อโดยสิ้นเชิง!”
“นางเก่งกาจเกินไปแล้ว! คนอื่นเพิ่งจะกลั่นได้ครึ่งเดียว นางก็ทำได้สำเร็จแล้ว!”
“เย่จายซิงแท้ที่จริงแล้วเป็นผู้ใดกันแน่? เพราะเหตุใดถึงได้เป็นอาจารย์กลั่นยาที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน?”
“ถูกต้อง ไม่เคยได้ยินตระกูลสกุลเย่ที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่อะไร!”
“อาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา เมืองเสวียนหยวนของพวกเราก็จะมีชื่อเสียงโด่งดังตามไปด้วยแล้ว!”
การแข่งขันสนามนี้ของเมืองเสวียนหยวน ไม่เหมือนกันกับการแข่งขันของเมืองไป๋เยว่ ขนาดและเนื้อหาล้วนไม่เหมือนกัน ผู้คนที่มาเข้าชมก็มาจากทั่วทุกสารทิศ
เชื่อว่าทันทีที่ผ่านวันนี้ ชื่อของเย่จายซิงจะถูกประกาศให้ทุกคนในพื้นที่เหลยโจวนี้ได้รู้จัก
อีกทั้งนางยังสามารถไปเซียนเหอเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันที่มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเดิม อาจารย์กลั่นยาของที่นั่น ทั้งหมดเป็นอาจารย์กลั่นยาที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานานหลายปี
ลู่ซวงอิงเผยให้เห็นสีหน้าที่ปีติยินดีออกมาทันที
พี่ชายของนางกล่าวไม่ผิด ที่นางต้องแต่งงานด้วยไม่ใช่ตระกูลเล็ก แต่เป็นตระกูลป๋ายหลี่ที่แข็งแกร่งกว่าตระกูลลู่ ถ้าหากว่าสามารถมอบเพลิงพิลึกขั้นแปดให้แก่ราชาโอสถป๋ายหลี่ได้ เช่นนั้นนางก็จะได้รับความสำคัญตอนที่อยู่ในตระกูล
มีราชาโอสถป๋ายหลี่หนุนหลัง นางก็ไม่ต้องกลัวท่านพี่ฮ้าวไปเด็ดดอกไม้ริมทางด้านนอกมั่วซั่วแล้ว
อีกทั้งทันทีที่นำเพลิงพิลึกออกมา เย่จายซิงก็จะต้องบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้สำหรับนางแล้ว ไม่ต่างกับการลงโทษที่โหดร้ายทารุณ
ไม่มีเพลิงพิลึก เย่จายซิงก็จะไม่ใช่อาจารย์กลั่นยาที่มีพรสวรรค์อะไรอีก นี่จะต้องทำให้นางทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีก
ทันทีที่นึกถึงสองข้อนี้ ภายในใจของนางก็ตื่นเต้นดีใจและฮึกเหิมเป็นอย่างยิ่ง
“ย่อมจะต้องเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน เจ้าเป็นน้องสาวแท้ๆของข้า ข้าจะหลอกเจ้าได้อย่างไรกัน?”
ลู่ซวงเจ๋อส่งเสียงกล่าว
แต่คำพูดนี้ จริงครึ่งปลอมครึ่ง เหตุผลที่เขาต้องการนำเพลิงพิลึกของเย่จายซิงออกมา เพราะเป็นกังวลว่าเมื่อถึงเวลานางจะใช้เพลิงพิลึกทำร้ายคน ถ้าหากถูกเพลิงพิลึกทำร้ายเข้า เช่นนั้นบาดแผลยากที่จะหายสนิท
ก็เหมือนกับอสูรโหดที่ทำร้ายผู้คน ดึงกรงเล็บและฟันที่แหลมคนของมันทิ้ง ก็ไม่มีความสามารถในการทำร้ายผู้คนได้อีกต่อไป
“ข้าต้องเชื่อท่านแน่นอนอยู่แล้ว! ท่านล้วนแต่หวังดีกับข้าอยู่แล้ว!”
ลู่ซวงอิงเอ่ยกล่าวอย่างมีความสุข
“เช่นนั้นข้าจะไม่ขัดขวางท่านกับท่านพี่ฮ้าวที่เข้าใกล้นางแล้ว ทางที่ดีหลังจากการแข่งขันสิ้นสุด ก็นำเพลิงพิลึกของนางออกมา”
ลู่ซวงเจ๋อพยักหน้า “วางใจ ในใจของข้ามีแผนการอยู่แล้ว”
พูดจบ เขาก็ส่งเสียงบอกแผนการแก่ป๋ายหลี่ฮ่าว
การแข่งขันในสนามยังคงดำเนินต่อไป เย่จายซิงไม่เคยเบนความสนใจไปมองด้านนอกสนาม ย่อมไม่รู้ว่ามีคนกำลังคิดร้ายแบบนี้กับนาง
แต่บนหลังคาบริเวณไม่ไกลนัก นกน้อยสีแดงเพลิงตัวหนึ่งกำลังจ้องมองป๋ายหลี่ฮ่าวลู่ซวงเจ๋อและคนอื่นๆด้วยความเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ มันสามารถสังเกตเห็นได้ถึงอายสังหารไม่ว่าจะเป็นของมนุษย์และสิ่งของที่มีต่อนายหญิง
ลู่ซวงเจ๋อเกิดความโหดเหี้ยมที่จะนำเพลิงพิลึกของเยาจายซิงออกมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกหงส์น้อยได้รับรู้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...