บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 356

บนเวทีกลั่นยา ทันทีที่เย่จายซิงจุดเพลิงพิลึกขั้นแปด เสียงเหน็บแนมทั้งหมดเงียบกริบลงในทันที

รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่ซวงอิงหยุดชะงักไป จ้องมองเพลิงพิลึกในมือของเย่จายซิงอย่างยากที่จะเชื่อ

คนของตระกูลใหญ่อย่างเช่นพวกเขาแบบนี้ เข้าใจถึงความยากที่จะได้มาของเพลิงพิลึกและยากที่จะหลอมรวมเป็นอย่างดี ต่อให้เป็นราชาโอสถป๋ายหลี่ การหลอมรวมเพลิงพิลึกของตนเองก็เพิ่งจะเป็นเพลิงพิลึกขั้นเจ็ด

เพลิงพิลึกขั้นแปดขึ้นไป หลายปีนี้ไม่เคยปรากฏที่แผ่นดินใหญ่มาก่อน

ถึงแม้ว่าเพลิงพิลึกสองสามประเภทจะสามารถหลอมรวมและกลืนกินได้ แต่ก็ไปไม่ถึงระดับนี้

พวกเขาไม่รู้ เพลิงพิลึกของเย่จายซิงก็คือหลังจากกลืนกินเพลิงพิลึกอื่นๆถึงเลื่อนระดับมาจนถึงระดับในตอนนี้ ถ้าหากยังมีเพลิงพิลึกขั้นเจ็ดให้มันกลืนกิน ระดับยังสามารถเพิ่มสูงขึ้นได้อีก

สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือเพลิงพิลึกของนางเป็นเพลิงเทวจิ่วโย เพลิงพิลึกขั้นเซียนในตำนาน ถึงแม้จะลดลงมาถึงระดับที่แย่ที่สุด ก็สามารถเพิ่มขึ้นไปทีละขั้นได้

“นางได้เพลิงพิลึกขั้นแปดมาจากที่ใด?”

ป๋ายหลี่ฮ่าวเองก็ประหลาดใจอย่างสุดขีดเช่นกัน

ท่านปู่รองของเขาราชาโอสถป๋ายหลี่เพื่อตามหาเพลิงพิลึกขั้นแปด ไม่รู้ว่าวิ่งไปทั่วทั้งหมดกี่สถานที่ แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย

ถ้าหากราชาโอสถป๋ายหลี่สามารถมีเพลิงพิลึกขั้นแปด ไม่แน่ว่าก็อาจมีโอกาสเลื่อนขึ้นอีกขั้น กลายเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นเก้าที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่แล้ว!

นั่นถึงจะสมควรได้รับอาจารย์กลั่นยาอันดับหนึ่งของแผ่นดินใหญ่!

“คงจะทำบุญมาดีกระมัง!”

ลู่ซวงอิงเอ่ยกล่าวด้วยความริษยา

เพลิงพิลึกขั้นแปด ใช้สำหรับเป็นอาวุธ สามารถสังหารคนได้อย่างไร้รูป

นางจะไม่อิจฉาได้อย่างไร

นี่คือเพลิงพิลึกขั้นแปดที่แม้แต่ราชาโอสถป๋ายหลี่ล้วนไม่มี

“ข้าก็รู้ว่าข้าไม่ได้มองคนผิด”

ในโรงน้ำชา หนานกงจิ่นที่กำลังโบกพัด ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

และต่อมาการแสดงออกของเย่จายซิงก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังอย่างแท้จริง หลังจากที่นางเริ่มกลั่นแล้ว ก็ได้ทุ่มเทกายใจทั้งหมดเข้าไปด้วย สีหน้าท่าทางตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง กลับแฝงไปด้วยความเงียบสงบและนิ่งเฉย ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในการควบคุมของนาง

ความไม่ชำนาญของนางเป็นแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ท่าทางหลังจากนั้นลื่นไหลราวกับสายน้ำ ร่างบางอรชรอ้อนแอ้น ทำให้คนที่มองนั้นตาพร่ามัว

ทั่วทั้งสนามนางคือผู้ที่กลั่นโอสถออกมาได้สำเร็จเป็นคนแรก

อีกทั้งโอสถที่นางกลั่นออกมาเป็นอันแรกก็คือโอสถขั้นเจ็ด อาจารย์กลั่นยาคนอื่นๆเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทั้งหมดที่กลั่นคือโอสถขั้นหก

เมื่อการรับรู้ของทุกคนกวาดมองไปยังโอสถสีม่วงที่อยู่ในเตากลั่นโอสถ สีหน้าท่าทางที่ประหลาดใจบนใบหน้าของพวกเขาแทบจะเหมือนออกมาจากพิมพ์เดียวกัน

ลู่ซวงอิงรู้สึกว่าใบหน้าของตนเองบวมขึ้นมาจากการตบที่ไร้รูป

ทุกประโยคที่นางกล่าวก่อนหน้านี้ ทั้งหมดล้วนได้รับการพิสูจน์ยืนยันแบบตรงกันข้าม

เย่จายซิงไม่เพียงเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ด ยังกลั่นโอสถได้รวดเร็วที่สุดคนหนึ่ง อาจารย์กลั่นยาที่มีพรสวรรค์ที่คุณภาพโอสถดีที่สุด

ทั้งสนามฮือฮาขึ้นมา

“นี่คืออาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดอายุสิบเจ็ดปี! ทำข้าตะลึงงันไปเลย!”

“ถ้าหากว่าไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ก็ยากที่จะเชื่อโดยสิ้นเชิง!”

“นางเก่งกาจเกินไปแล้ว! คนอื่นเพิ่งจะกลั่นได้ครึ่งเดียว นางก็ทำได้สำเร็จแล้ว!”

“เย่จายซิงแท้ที่จริงแล้วเป็นผู้ใดกันแน่? เพราะเหตุใดถึงได้เป็นอาจารย์กลั่นยาที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน?”

“ถูกต้อง ไม่เคยได้ยินตระกูลสกุลเย่ที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่อะไร!”

“อาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา เมืองเสวียนหยวนของพวกเราก็จะมีชื่อเสียงโด่งดังตามไปด้วยแล้ว!”

การแข่งขันสนามนี้ของเมืองเสวียนหยวน ไม่เหมือนกันกับการแข่งขันของเมืองไป๋เยว่ ขนาดและเนื้อหาล้วนไม่เหมือนกัน ผู้คนที่มาเข้าชมก็มาจากทั่วทุกสารทิศ

เชื่อว่าทันทีที่ผ่านวันนี้ ชื่อของเย่จายซิงจะถูกประกาศให้ทุกคนในพื้นที่เหลยโจวนี้ได้รู้จัก

อีกทั้งนางยังสามารถไปเซียนเหอเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันที่มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเดิม อาจารย์กลั่นยาของที่นั่น ทั้งหมดเป็นอาจารย์กลั่นยาที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานานหลายปี

ลู่ซวงอิงเผยให้เห็นสีหน้าที่ปีติยินดีออกมาทันที

พี่ชายของนางกล่าวไม่ผิด ที่นางต้องแต่งงานด้วยไม่ใช่ตระกูลเล็ก แต่เป็นตระกูลป๋ายหลี่ที่แข็งแกร่งกว่าตระกูลลู่ ถ้าหากว่าสามารถมอบเพลิงพิลึกขั้นแปดให้แก่ราชาโอสถป๋ายหลี่ได้ เช่นนั้นนางก็จะได้รับความสำคัญตอนที่อยู่ในตระกูล

มีราชาโอสถป๋ายหลี่หนุนหลัง นางก็ไม่ต้องกลัวท่านพี่ฮ้าวไปเด็ดดอกไม้ริมทางด้านนอกมั่วซั่วแล้ว

อีกทั้งทันทีที่นำเพลิงพิลึกออกมา เย่จายซิงก็จะต้องบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้สำหรับนางแล้ว ไม่ต่างกับการลงโทษที่โหดร้ายทารุณ

ไม่มีเพลิงพิลึก เย่จายซิงก็จะไม่ใช่อาจารย์กลั่นยาที่มีพรสวรรค์อะไรอีก นี่จะต้องทำให้นางทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายเสียอีก

ทันทีที่นึกถึงสองข้อนี้ ภายในใจของนางก็ตื่นเต้นดีใจและฮึกเหิมเป็นอย่างยิ่ง

“ย่อมจะต้องเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน เจ้าเป็นน้องสาวแท้ๆของข้า ข้าจะหลอกเจ้าได้อย่างไรกัน?”

ลู่ซวงเจ๋อส่งเสียงกล่าว

แต่คำพูดนี้ จริงครึ่งปลอมครึ่ง เหตุผลที่เขาต้องการนำเพลิงพิลึกของเย่จายซิงออกมา เพราะเป็นกังวลว่าเมื่อถึงเวลานางจะใช้เพลิงพิลึกทำร้ายคน ถ้าหากถูกเพลิงพิลึกทำร้ายเข้า เช่นนั้นบาดแผลยากที่จะหายสนิท

ก็เหมือนกับอสูรโหดที่ทำร้ายผู้คน ดึงกรงเล็บและฟันที่แหลมคนของมันทิ้ง ก็ไม่มีความสามารถในการทำร้ายผู้คนได้อีกต่อไป

“ข้าต้องเชื่อท่านแน่นอนอยู่แล้ว! ท่านล้วนแต่หวังดีกับข้าอยู่แล้ว!”

ลู่ซวงอิงเอ่ยกล่าวอย่างมีความสุข

“เช่นนั้นข้าจะไม่ขัดขวางท่านกับท่านพี่ฮ้าวที่เข้าใกล้นางแล้ว ทางที่ดีหลังจากการแข่งขันสิ้นสุด ก็นำเพลิงพิลึกของนางออกมา”

ลู่ซวงเจ๋อพยักหน้า “วางใจ ในใจของข้ามีแผนการอยู่แล้ว”

พูดจบ เขาก็ส่งเสียงบอกแผนการแก่ป๋ายหลี่ฮ่าว

การแข่งขันในสนามยังคงดำเนินต่อไป เย่จายซิงไม่เคยเบนความสนใจไปมองด้านนอกสนาม ย่อมไม่รู้ว่ามีคนกำลังคิดร้ายแบบนี้กับนาง

แต่บนหลังคาบริเวณไม่ไกลนัก นกน้อยสีแดงเพลิงตัวหนึ่งกำลังจ้องมองป๋ายหลี่ฮ่าวลู่ซวงเจ๋อและคนอื่นๆด้วยความเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ มันสามารถสังเกตเห็นได้ถึงอายสังหารไม่ว่าจะเป็นของมนุษย์และสิ่งของที่มีต่อนายหญิง

ลู่ซวงเจ๋อเกิดความโหดเหี้ยมที่จะนำเพลิงพิลึกของเยาจายซิงออกมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกหงส์น้อยได้รับรู้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา