เมื่อได้ยินคำพูดของเย่จายซิง ฉียวี่เจียและกัวเจียงภายในใจของทั้งสองคนมีความสุขเป็นอย่างยิ่งทันที
พวกเขารีบกลืนยาถอนพิษลงไป ก็รู้สึกได้ว่ากำลังร่างกายฟื้นฟูไปในทางที่ดีขึ้น ความเจ็บปวดที่ทรมานพวกเขาอยู่ตลอดเวลาก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ยาถอนพิษเป็นของจริง!
ใจของทั้งสองคนคิด ดูเหมือนว่าเย่จายซิงก็ไม่มีความกล้าที่จะให้ยาถอนพิษปลอมแก่พวกเขา ตอนนี้นางยังเอาตัวเองไม่รอด จะกล้าล่วงเกินพวกเขาที่ไหนกัน!
“วันนี้ไม่ใช่ว่าเจ้าเข้าร่วมการแข่งขันกลั่นโอสถหรอกหรือ? เหตุใดถึงไปล่วงเกินตระกูลลู่กับตระกูลป๋ายหลี่ได้อีกล่ะ?”
ฉียวี่เจียกำลังยืดเส้นยืดสาย เอ่ยถามอย่างเสแสร้ง
นางจะต้องแน่ใจว่าสิ่งที่เย่จายซิงพูดเป็นความจริง
“ไม่ผิด ข้าได้รับอันดับหนึ่งของการแข่งขัน พวกเขาอยากจะเชื้อเชิญข้าไปเข้าร่วมกับตระกูลป๋ายหลี่ในฐานะอาจารย์กลั่นยา ถูกข้าปฏิเสธ ลู่ซวงอิงลงมือกับข้า แต่กลับถูกข้าทำลายของขลังที่รักสุดหัวจิตหัวใจ ความขัดแย้งนี้คงยากที่จะแก้ไขแล้ว ฉะนั้นข้าคิดที่จะหลบเลี่ยงการเป็นจุดสนใจเสียหน่อย พวกเจ้ากลับไปที่เซียนเหอกันก่อนเถอะ บอกท่านอาจารย์ของพวกเจ้า วันหลังข้าจะไปที่สำนักเสวียนปิงเพื่อขอรับโทษด้วยตัวเอง”
เย่จายซิงเอ่ยกล่าวจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง
ทันทีที่ฉียวี่เจียได้ฟัง ก็ตื่นตระหนกทันที
นึกไม่ถึงว่านางจะกล้าเป็นปฏิปักษ์กับลู่ซวงอิง ยังทำลายของขลังของอีกฝ่าย! เรียกง่ายๆว่าช่างกล้าหาญบุ่มบ่ามยิ่งนัก!
นางทั้งอิจฉาริษยาเย่จายซิงที่แย่งชิงอันดับหนึ่งในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้
แต่ทันทีที่คิดถึงวิธีการของตระกูลลู่ ฉียวี่เจียก็รู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่นขึ้นมา
ล่วงเกินตระกูลลู่ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีผลลัพธ์ที่ดี ต่อให้เย่จายซิงจะมีพรสวรรค์อีกสักแค่ไหน ก็คงจะต้องหยุดอยู่เพียงแค่นี้แล้ว
จะให้ดีที่สุดลู่ซวงอิงต้องนำนางทรมานอย่างโหดเหี้ยมทารุณสักสองวัน แล้วค่อยเอาชีวิตของนาง แบบนี้ถึงจะทำให้ตนเองรู้สึกถึงอกถึงใจ
ยังจะวันหลังจะไปที่สำนักเสวียนปิงเพื่อขอรับโทษด้วยตัวเองกับท่านอาจารย์ของตนเองอีก เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสนี้แล้ว
ฉียวี่เจียกำลังคิดถึงจุดจบที่เย่จายซิงกำลังจะต้องเผชิญอย่างโหดเหี้ยมอยู่ในใจ ในใจก็ผ่อนคลายและสดชื่นขึ้นมาทันที นางหวังว่าจะสามารถเห็นลู่ซวงอิงจัดการสังหารเย่จายซิงด้วยตาตนเองจริงๆ
แต่เสียดายนางเองก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับลู่ซวงอิงคนประเภทนี้เช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับคนตระกูลลู่ นางที่เป็นลูกศิษย์ในสำนักคนหนึ่งคงยังไม่เพียงพอ
“ยาถอนพิษที่เจ้าให้พวกข้าเป็นของจริงใช่หรือไม่? อย่าได้ใส่กลอุบายอะไรในยาถอนพิษล่ะ!”
กัวเจียงเอ่ยกล่าวเสียงเคร่งขรึม
ตอนแรกเขายังมีความคิดเกินเลยต่อเย่จายซิง แต่ตอนนี้เขากับฉียวี่เจียเหมือนกัน แทบอยากจะให้นางถูกลู่ซวงอิงสังหารให้ตายโดยเร็ว
ถูกยาพิษควบคุมเอาไว้เป็นเวลานานถึงเพียงนี้ ถูกเชือกที่ร้ายกาจเส้นนั้นมัดเอาไว้ บางครั้งยังถูกมัดเอาไว้เป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน ภายใต้การทรมานที่ยาวนาน จิตใจกามตัณหาแบบนั้นถูกทรมานจนหมดไปตั้งนานแล้ว
ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากจะกลับไปเซียนเหอโดยเร็ว หลุดพ้นจากกรงเล็บของปีศาจร้ายของเย่จายซิง
“ถ้าหากพวกเจ้าไม่วางใจ สามารถหาหมอทิพย์ช่วยตรวจดูพวกเจ้า ตอนนี้ข้าสามารถพาพวกเจ้าไปได้”
เย่จายซิงเอ่ยกล่าว
“ไม่ละไม่ละ พวกข้าเชื่อใจเจ้า!”
ฉียวี่เจียรีบเอ่ยกล่าว
นางกลัวว่าจะถูกลู่ซวงอิงและคนอื่นๆเห็นว่าตนเองอยู่ด้วยกันกับเย่จายซิง คิดว่าตนเองเป็นพวกเดียวกันกับนาง เช่นนั้นก็จะยุ่งยากแล้ว
“เช่นนั้นพวกเราเดินทางล่วงหน้าไปก่อน”
เสียงของเย่จายซิงร้อนรน ทิ้งของขลังของพวกเขาแล้วก็ก้าวเท้ายาวเดินไปทางด้านนอก
ดูท่าทางก็กลัวว่าจะถูกลู่ซวงอิงตามมาเช่นเดียวกัน
“ฮึ่! ดูนางจะสามารถหนีไปได้ถึงที่ใด ล่วงเกินตระกูลลู่และตระกูลป๋ายหลี่ นางจะต้องเผชิญหน้ากับแหฟ้าตาข่ายดิน(ล้อมศัตรูหรือผู้หลบหนีไว้อย่างหนาแน่น)!”
ฉียวี่เจียหัวเราะเยาะหยัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“ไม่ต้องไปสนใจมากมายถึงขนาดนั้นแล้ว พวกเรารีบกลับไปที่สำนักแจ้งข่าวให้ท่านอาจารย์ทราบ!”
กัวเจียงเก็บของขลังขึ้นมาแล้วเอ่ยกล่าว
ถ้าหากไม่ใช่ว่าตอนแรกเย่จายซิงบีบแผ่นหยกส่งเสียงของพวกเขาจนแตกละเอียด ตอนนี้พวกเขาก็สามารถส่งเสียงให้ท่านอาจารย์ได้แล้ว
บัดนี้ทำได้แค่เพียงรีบกลับไปที่เซียนแล้วค่อยว่ากัน
ทั้งสองคนก็เดินออกด้านนอกโรงเตี๊ยมทันที ทันทีที่เดินมาถึงถนนใหญ่ ชนเข้ากับบชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง
แจกันดอกไม้ในมือของชายหนุ่มเสียงดังเพล้ง หล่นลงบนพื้น
“อ๊ะ! นายน้อย แจกันเครื่องเคลือบลายครามโบราณที่ท่านเพิ่งประมูลมาได้!”
หนานกงจิ่นเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเย็นชา
กัวเจียงรีบวิงวอน:
“นายน้อยหนานกง ตอนนี้พวกข้าไม่มีเงิน ให้เวลาพวกข้าไปเซียนเหอรวบรวมหินทิพย์ได้หรือไม่? ท่านอาจารย์ของพวกข้าเป็นผู้อาวุโสจูในสำนักเสวียนปิง พวกข้าจะรวบรวมมาให้ท่านจนครบอย่างแน่นอน”
“งั้นหรือ? บังเอิญแล้ว ข้าจำได้ว่าหนึ่งปีก่อนผู้อาวุโสจูซื้อเรือทิพย์ที่พวกเราสหการค้าหนานกงลำหนึ่ง ยังมีเงินงวดสุดท้ายที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ชำระ พวกเจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดนี้ของพวกเจ้าหรือไม่?”
หนานกงจิ่นยิ้มเยาะ
สีหน้าของคนทั้งสองถอดสี ในเวลานี้ถึงตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องราว
หนานกงจิ่นไม่ได้กำลังล้อพวกเขาเล่น หากพวกเขาไม่มีปัญญาชดใช้ พวกเขาก็จะถูกพาไปขุดเหมืองแร่หนึ่งร้อยปี!
หนึ่งร้อยปีต่อมา พวกเขาต่างก็ต้องไร้ประโยชน์แล้ว!
“ไม่! ข้าไม่อยากไปขุดเหมือง! ข้า ข้าสามารถเป็นหญิงสาวเพื่อชำระหนี้ให้ท่าน! นายน้อยหนานกง ข้ายังเป็นสาวน้อย ข้าสะอาดหมดจดมาก ท่านก็รับข้าเอาไว้เถอะ!”
ฉียวี่เจียตื่นตระหนกจนไม่มีทางเลือกอื่นดึงมือของหนานกงจิ่นเอาไว้
หนานกงจิ่นขมวดหว่างคิ้วทันที ทันทีที่แสงของดาบปรากฏขึ้น เลือดสดก็สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาดังขึ้นอย่างรุนแรง แขนข้างหนึ่งก็ลอยกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็ตกลงมาบนพื้น
“โอ๊ย! แขนของข้า!”
ฉียวี่เจียตะโกนด้วยความเจ็บปวดทรมาน
“ข้ารังเกียจสตรีแตะต้องข้าที่สุด โดยเฉพาะสตรีที่ถวายตัวถึงที่เช่นเจ้า!”
หนานกงจิ่นเอ่ยกล่าวด้วยความรังเกียจ
“องครักษ์ นำพวกเขาคุมตัวไป ส่งไปยังถ้ำเหมืองแร่”
ฉียวี่เจียตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด พยายามดิ้นรนอย่างรุนแรง
ในระหว่างที่กัวเจียงกำลังพยายามดิ้นรนก็บีบของขลังดวงชะตาอันหนึ่งจนแตกละเอียด ทันใดนั้น ผู้อาวุโสจูที่กำลังเก็บตัวฝึกอยู่ไกลออกไปที่เซียนเหอก็ลืมตาทั้งสองข้างขึ้น ภาพมายาปรากฏขึ้นอยู่เหนือศีรษะของกัวเจียงและคนอื่นๆ
หนานกงจิ่นวาดมุมปากขึ้นเล็กน้อย เป็นอย่างที่คิดไว้ เย่จายซิงกล่าวไว้ไม่ผิด บนตัวของกัวเจียงมีของขลังชิ้นหนึ่งที่สามารถเรียกภาพมายาของผู้อาวุโสจูได้
“บังอาจ! ผู้ใดกันที่ทำร้ายลูกศิษย์ของข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...