บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 365

“ทะเลทรายยู่ซีเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นั่น?”

เสวียนหยวนป๋ายเห็นสีหน้าของหนานกงจิ่นเคร่งขรึมเล็กน้อย กล่าวอย่างสงสัย

เย่จายซิงก็มองหนานกงจิ่นเช่นกัน

หนานกงจิ่นกล่าว:

“ทะเลทรายยู่ซีปรากฏสุสานบรรพกาลที่มีพลังยิ่งใหญ่ขึ้นแห่งหนึ่ง แต่ผิดธรรมดายิ่งนัก ผู้แข็งแกร่งที่แต่ละตระกูลใหญ่ส่งตัวออกไปล้วนตกลงไปด้านใน มีผู้อาวุโสของพวกเราตระกูลหนานกงก็ติดอยู่ภายในสุสานใหญ่เช่นกัน ข้าจำเป็นต้องไปดูเสียหน่อย”

“อีกอย่าง” เขามองไปทางเย่จายซิง เปลี่ยนเป็นส่งเสียง:

“เมื่อครู่ข้าได้รับการส่งเสียงของท่านน้าเล็ก นางกล่าวว่าท่านอาเย่เก็บตัวฝึกก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน ไม่รู้ว่าได้ยินข่าวอะไรหรือไม่ ตอนนั้นคนรับใช้เห็นว่าหน้าตาท่าทางของเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จากนั้นก็ไม่มีใครหาเขาเจออีกเลย”

เมื่อเย่จายซิงได้ยินประโยคนี้ หว่างคิ้วก็ขมวดแน่น

เป็นข่าวอะไร ทำให้เขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง?

จิตใจของนางตอนนี้ก็วุ่นวายทันที เกิดความลนลานที่ไม่สามารถอธิบายได้

“เจ้ามีแผนการอะไร? มิสู้ไปลองดูที่ทะเลทรายยู่ซีกับข้าก่อน?”

หนานกงจิ่นเอ่ยกล่าว

ทิวทัศน์ของทะเลทรายยู่ซียังค่อนข้างโอ่อ่าสง่างาม

เย่จายซิงส่ายหน้า: “ไม่ละ ข้าจะรออยู่ที่นี่ล่ะ”

นางไม่อยากไปทะเลทรายยู่ซี ตอนนี้ตัวตนของตนเองยังไม่ชัด เรื่องราวอื่นๆ นางไม่มีความสนใจ

“เจ้าเป็นหญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่ง อย่างไรเสียไปด้วยกันกับพวกเราจะดีกว่า”

เสวียนหยวนป๋ายเอ่ยกล่าว

เฮ่อจี้และหนานกงหยวนก็พยักหน้าคล้อยตามเช่นกัน

เย่จายซิงกล่าว: “ขอบคุณเจตนาดีของพวกท่าน แต่ว่าข้าไม่ใช่หญิงสาวที่อ่อนแออะไร พวกท่านวางใจได้ มีวาสนาครั้งหน้าพบกันใหม่เถอะ”

ด้วยเหตุนี้ เย่จายซิงจึงแยกกับทุกคน

ตำแหน่งที่นางอยู่เป็นกำแพงคูเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง เมื่อกางแผนที่ออก พบว่าที่นี่ใกล้กับเซียนเหอมาก ระยะทางเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น

“เช่นนั้นก็ไปเซียนเหอเถอะ”

นางเอ่ยกล่าวกับตนเองด้วยความไม่รู้อะไรเลย

เดิมทีเป้าหมายของนางก็คือเซียนเหอ เพียงแต่เหตุผลที่นางไปเซียนเหอก็เพื่อนำตัวฉียวี่เจียและกัวเจียงกลับไป เพื่อกระตุ้นความแค้นของผู้อาวุโสจู ทำให้ความสนใจของผู้อาวุโสจูมาอยู่บนตัวนางทั้งหมด เพื่อจะได้ไม่ไปหาเรื่องวุ่นวายที่สำนักเฉียนคุน

แต่ตอนนี้เรื่องนี้ถูกหนานกงจิ่นแก้ไขไปเรียบร้อยสมบูรณ์

คาดว่าผู้อาวุโสจูรู้สึกว่าการที่ลูกศิษย์ทั้งสองคนปรากฏตัวที่เมืองเสวียนหยวน หมายความว่าเรื่องของลูกผู้น้องของเขาที่เมืองยวี่หลัวได้แก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว

อีกทั้งหนานกงจิ่นได้ยื่นคำขาดสุดท้ายแก่ผู้อาวุโสแล้ว ถ้าหากยังไม่คืนเงินงวดสุดท้าย ก็จะไปทวงหนี้ถึงที่

ฉะนั้นเดิมทีนางไม่จำเป็นต้องไปเซียนเหออีก แต่ในเวลานี้ได้สูญเสียจุดมุ่งหมายไปอย่างกะทันหัน เหมือนกับว่านางได้กลายเป็นแมลงวันหัวขาดอีกครั้ง(ไร้จุดมุ่งหมาย)

ในเมื่อตรงนี้อยู่ไม่ไกลกับเมืองเซียนเหอ เช่นนั้นก็ไปดูสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในแดนใต้เสียหน่อย

ทันใดนั้น นางก็รู้สึกว่าแจกันดอกไม้ในแหวนมิติขยับเขยื้อน นางหยิบแจกันดอกไม้ออกมา ทันทีที่ปากแจกันดอกไม้หมุน ก็ชี้ไปทางเซียนเหอ

“หรือว่า ที่เซียนเหอมีคนสำคัญบางคนกำลังรอข้าอยู่งั้นหรือ?”

นางคลุมผ้าคลุมหน้า เช่าเรือทิพย์ลำหนึ่งที่ในเมือง มุ่งหน้าเหาะไปเซียนเหอ

เมื่อตอนที่กำลังใกล้ถึงเซียนเหอ นางยืนอยู่ด้านบนดาดฟ้าเรือ มองเห็นภาพที่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรืองจากที่ไกลไกล

ที่อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำสายใหญ่สายหนึ่ง ต่างก็เป็นสิ่งก่อสร้างแบบโบราณรูปแบบต่างๆ ความสูงเตี้ยต่างกัน มีเสน่ห์และแฝงไปด้วยความงดงามเป็นของตัวเอง

ถนนหนทางคดเคี้ยวยาวเหยียด กำแพงเมืองสูงตระหง่าน ชี่ทิพย์เข้มข้น เสียงชนอื้ออึง

นี่ก็คือเซียนเหอ

กำแพงคูเมืองนี้ มีขนาดใหญ่กว่าเมืองยวี่หลัวหลายร้อยเท่า

“มีผู้นำทางเข้าเมืองหรือไม่?”

ลงจากเรือทิพย์ นอกเมืองเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่อแถวเข้าเมือง เย่จายซิงเก็บเรือทิพย์เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เข้าเมืองแล้วคิดที่จะคืนเรือทิพย์ ก็ได้ยินองครักษ์อารักขาเมืองซักถามเช่นนี้

เย่จายซิงเอ่ยถามบุรุษวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างอย่างสงสัย:

“เข้าเมืองยังต้องการผู้นำทางด้วยหรือ?”

“ถูกต้อง จำเป็นต้องมีคู่มือนำทาง อีกไม่กี่วันองค์หญิงหงส์กับเจ้าบ้านป๋ายหลี่จะแต่งงานกันแล้ว ตอนนี้ในเมืองจึงกลายเป็นเข้มงวดขึ้น”

บุรุษวัยกลางคนนำยาที่เขาจะขายออกมาวางไว้บนพื้น บางส่วนล้วนเป็นโอสถทิพย์ขั้นต่ำ ที่ดีที่สุดคือโอสถทิพย์ขั้นสามต้นหนึ่ง ก็คือต้นนี้ที่จะได้หินทิพย์มากสักหน่อย

ผ่านไปสักพักใหญ่ก็ไม่มีคน เย่จายซิงจึงเดินเที่ยวเล่นไปทั่ว ดูว่าคนอื่นๆกำลังขายอะไร

เมื่อมองดูไปรอบๆ นางมาหยุดอยู่ตรงที่ด้านหน้าผู้อาวุโสที่ใส่เสื้อสีดำสวมหมวกคลุมสีดำ

ผู้อาวุโสนั่งอยู่ที่บริเวณมุมสุดของตลาด ถูกเงามืดปกคลุม เมื่อเหลือบมองไป หากมองไม่ละเอียดก็จะมองไม่ออกว่าตรงนี้มีคน

ด้านหน้าผู้อาวุโสวางเรียงด้วยหนังสือที่มีสีเหลืองสองสามเล่ม ลายมือบนหน้าปกยากที่จะมองออกแล้ว

และผู้อาวุโสกำลังหลับตาอยู่ เหมือนกับว่ากำลังหลับอยู่

“ท่านผู้เฒ่า......”

ทันทีที่นางส่งเสียง ท่านอาวัยกลางคนก็รีบวิ่งเข้ามานำนางลากออกไปด้านข้าง

“อย่ายุ่งกับเขา ผู้เฒ่าคนนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก คราวก่อนมีคนต้องการจะซื้อหนังสือของเขา เขากลับตีคนจนตายทันที!”

ท่านอาเอ่ยกล่าวเสียงเบา บอกนาง นี่คือคนที่นางจะหาเรื่องด้วยไม่ได้

เย่จายซิงเข้าใจดีว่าท่านอากำลังเตือนนางด้วยเจตนาดี แต่นางไม่ได้รู้สึกถึงความอันตรายบนร่างกายของผู้เฒ่า หงส์น้อยที่บินอยู่ไม่ไกลก็ไม่ได้ส่งเสียงบอกว่ามีอายสังหาร

เพียงแต่นางไม่ใช่เป็นคนที่มีจิตใจขี้สงสัยเป็นพิเศษ ในเมื่อท่านอาพูดแบบนี้แล้ว นางก็ไม่ได้อยากรู้อยากเห็นว่าผู้อาวุโสขายอะไรอีกต่อไป

ทันทีที่นางขยับก้าวหนึ่ง ผู้อาวุโสก็ลืมตาขึ้นมาทันที “ช้าก่อน เจ้ามานี่”

เย่จายซิงหันหน้ากลับไป มองดูใบหน้าของผู้อาวุโสที่ยังคงแอบซ่อนอยู่ภายในหมวกคลุม แต่มือของเขากลับชี้ไปทางหนึ่งในหนังสือเล่มหนึ่งบนพื้น

“เจ้าพลิกเปิดหนังสือเล่มนี้”

แต่นางกลับไม่ได้ขยับ

การกระทำนี้ของผู้อาวุโส มีความแปลกประหลาดเล็กน้อย

หนังสือกลับลอยไปยังตรงหน้าของเย่จายซิง ผู้อาวุโสกล่าวซ้ำ:

“เร็ว รีบเปิดมันออกเร็วเข้า!”

ในน้ำเสียงที่แก่หง่อมของเขาแฝงไปด้วยความรีบร้อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา