บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 382

สาเหตุที่พวกหนานกงจิ่นมายังแคว้นกู่โหมว เพราะมีสุสานขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในทะเลทรายหยกปัจฉิม มีคนสิ้นชีพไปไม่น้อย ตระกูลจึงส่งเขามาดู

เสวียนหยวนป๋าย เฮ่อจี้และอีกสองสามคนติดตามเขามาด้วย

สุสานใหญ่แห่งนี้เฮี้ยนยิ่งนัก ต่อมายังมีคนที่ต้องการไปแย่งชิงสมบัติเข้าไปเกี่ยวข้องอีกมากมาย บาดเจ็บล้มตายไปนับร้อยราย ใต้ผืนดินมีกลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งขึ้นมาอีกด้วย

เนื่องจากสถานการณ์ไม่สู้ดี ครอบครัวไม่ให้หนานกงจิ่นลงไปด้วยตัวเอง จึงให้เขาไปยืมกำลังพลของราชสำนักแคว้นกู่โหมว เพื่อช่วยเหลือผู้อาวุโสของตระกูลหนานกงที่ติดอยู่ในสุสานใหญ่ออกมา

หนานกงจิ่น เสวียนหยวนป๋ายและคนอื่นๆ เพิ่งมาถึงเมืองหลวงของแคว้นกู่โหมว ก็บังเอิญพบกับเทพธิดากู่หลิง เนื่องจากรู้จัก จึงแสดงมารยาท พูดคุยไปคำสองคำ

หลังจากนั้น ก็คือวันนี้ หลังหนานกงจิ่นขอยืมพลทหารมาแล้ว เมื่อออกจากวังก็บังเอิญพบกับเทพธิดากู่หลิ จึงชวนนางมากินข้าวด้วยกัน

แต่คาดไม่ถึงว่า กินข้าวไปได้ไม่กี่คำ โต๊ะก็ถูกเทพธิดากู่หลิทุบจนพังยับเยิน

อารมณ์เกรี้ยวกราดของเทพธิดากู่หลิ ทำให้หนานกงจิ่นตกใจจนตาแตก

คิดไม่ถึงเลยว่าคนเราเวลาอยู่ต่อหน้ากับลับหลังจะเหมือนเป็นคนละคนไปเลย

"พวกท่านฟังข้าอธิบายก่อน เมื่อครู่ข้าแค่ควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้นเอง ไม่ได้โมโหพวกท่านเลย"

เทพธิดากู่หลิเอ่ยหน้าซีดเผือด

ท่านพ่อส่งกระแสจิตมาเป็นการเฉพาะ ว่าให้นางสานสัมพันธ์กับหนานกงจิ่นให้ดีๆ เพราะเขาได้ยินมาว่าประมุขตระกูลหนานกงกำลังดูเรื่องแต่งงานให้หนานกงจิ่นอยู่ และในรายชื่อก็มีนางอยู่ด้วย

เห็นได้ว่าตระกูลหนานกงมีความรู้สึกอันดีต่อนาง

แม้ว่าตระกูลหนานกงจะไม่ต้องการการแต่งงานเพื่อผูกสัมพันธ์ แต่ตระกูลใหญ่เช่นนั้น ก็ให้ความสำคัญกับยศถาและชาติตระกูลเช่นกัน นางเป็นพระธิดาแห่งแคว้นกู่โหมว เป็นเทพธิดาของราษฎรกู่โหมว ตระกูลหนานกงจะนึกถึงนาง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด

ท่านพ่อคาดหวังให้นางคว้าโอกาสนี้เอาไว้ แล้วพยายามแต่งเข้าตระกูลหนานกงให้ได้

นอกจากนี้ท่านพ่อยังพูดอีกว่า รอให้เขาสู่ขอองค์หญิงหงสาให้ได้ก่อน เมื่อได้เผ่าวิหคเพลิงทั้งหมดมาแล้ว ก็จะประกาศให้ทั่วหล้าได้รู้ ว่าตนคือลูกสาวแท้ๆ ของเขา

เทพธิดากู่หลิรอคอยวันนี้มาโดยตลอด นางจึงเชื่อฟังคำของท่านพ่อป้ายหลี่ฮุ่ยมาก

ตอนนี้เมื่อเห็นว่านางทำพังไปแล้ว ในใจก็ลนลานตื่นตระหนก สิ่งแรกที่คิดก็คือท่านพ่อจะต้องดุด่าว่ากล่าวนางแน่ๆ

หนานกงจิ่นส่ายมือไปมา เอ่ยว่า:

"เทพธิดากู่หลิไม่จำเป็นต้องอธิบายกับข้าหรอก ความจริงท่านจะระบายอารมณ์กรุ่นโกรธออกมาก็เป็นเรื่องของท่าน แต่อภัยให้พวกเราด้วยที่ไม่อาจอยู่กับท่านต่อได้แล้ว"

พูดจบ เขากับเสวียนหยวนป๋ายและคนอื่นๆ ก็หมุนตัวเดินจากไป

เทพธิดากู่หลิงกัดริมฝีปากล่างแน่น มือกดทาบที่ทรวงอก ไอสังหารยังคงหลั่งไหลออกมา นางไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน

"ข้าไม่เป็นไรแล้วล่ะ"

ในโรงน้ำชา เย่จายซิงดื่มชาผลไม้ที่หอมหวานสดชื่นสองสามอึก ก็ผ่อนคลายลง จิตสังหารที่พลันผุดขึ้นมาในใจอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

"เมื่อครู่เจ้ารู้สึกอย่างไร?"

โม่เสิ่นยวนถามเสียงทุ้ม ร่างกายของนางมีตรงไหนไม่สบาย ควรตรวจดูให้ถี่ถ้วนจะดีกว่า

"ข้าเองก็บอกไม่ถูก เหมือนกับต่อต้านอะไรบางอย่างมากๆ แล้วก็เกิดจิตสังหารขึ้นมา"

นางย่นคิ้วพลางเอ่ย

"หรืออาจจะเป็นเพราะรากทิพย์?"

เขาส่งกระแสจิตให้นางทันใด สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณ กลับเห็นหนานกงจิ่นและคนอื่นๆ เดินออกมาจากโรงเหล้าแล้ว

หนานกงจิ่นก็เห็นเขาเช่นกัน ก่อนจะเดินมุ่งหน้ามาทางนี้

เขาขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว แต่ยังคงส่งกระแสจิตพูดข้อสันนิษฐานของเขาต่อไป

แต่เมื่อมองพวกเขาทั้งคู่ แค่หน้าตาอย่างเดียว ก็เหมาะสมกันอย่างยิ่งแล้ว

ความรู้สึกท้อใจฉายวูบผ่านดวงตาของหนานกงจิ่น จากนั้นก็ยิ้มเอ่ยว่า:

"พวกเราดีใจมากเช่นกันที่ได้พบท่านพี่โม่ แม่นางเย่ ยินดีกับเจ้าด้วยนะ"

ที่เขาพูดหมายถึงเรื่องที่นางได้พบกับสามีของตนเอง เพราะก่อนหน้านี้นางบอกว่านางความจำเสื่อม มีหลายเรื่องที่จำไม่ได้

แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าโม่เสิ่นยวนเป็นคนเลวร้าย ล่อลวงเย่จายซิงแต่อย่างใด เพราะเพียงแวบเดียวเขาก็เห็นแหวนที่อยู่บนนิ้วก้อยของโม่เสิ่นยวน ว่าเหมือนกับวงที่เย่จายซิงสวมอยู่บนมือทุกประการ มันคือแหวนคู่รัก

แล้วเมื่อมองสายตาที่เย่จายซิงมองโม่เสิ่นยวน เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากเวลามองคนอื่นมากมาย

"ขอบคุณเจ้าค่ะ อ้อจริงสิ เย่เจ๋อหยวนคือบิดาของข้า ข้าได้เจอกับเขาแล้ว รบกวนท่านบอกท่านน้าของท่านที ว่าตอนนี้บิดาข้าเขาสบายดี ขอบคุณสำหรับความกังวลและความเป็นห่วงของนางด้วย"

เย่จายซิงพูดกับเขา ก่อนหน้านี้หนานกงจิ่นบอกว่าน้าของเขาโปรดปรานท่านพ่อของนางมาก หลังจากที่ท่านพ่อหายตัวไป น้าของเขาก็ส่งคนออกไปตามหาถึงข้างนอก

นางคิดว่านางจำเป็นต้องบอกเขาสักหน่อย เพื่อไม่ให้น้าของเขาเป็นห่วงอีก

หนานกงจิ่นอึ้งไป ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบังเอิญได้ถึงเพียงนี้ ท่านอาเย่เป็นพ่อของเย่จายซิงหรือนี่

"ได้เลย ข้าจะไปบอกท่านน้าให้ พ่อของเจ้าเขา...ช่างเถิด ไม่มีอะไร"

เดิมเขาคิดจะถามนางว่าแม่ของนางยังอยู่หรือไม่ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้ายิ้มๆ ไม่ได้เอ่ยอะไรต่ออีก เขาคงไม่อยากบอกนางว่า หากแม่ของนางไม่อยู่แล้ว น้าของตนคิดอยากจะมาเป็นแม่เลี้ยงของนางหรอกใช่ไหมเล่า?

ช่างเถอะ จากที่เขาเห็น ท่านอาเย่ไม่ได้มีเจตนาต่อท่านน้าในลักษณะเช่นนั้นเลย

โม่เสิ่นยวนมุ่นคิ้วฟังพวกเขาพูด ขณะนี้ เขาละสายตา ไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูโรงเหล้าฝั่งตรงข้ามแล้ว

ประจวบกับเทพธิดากู่หลิงกำลังมองหาหนานกงจิ่นและคนอื่นอยู่ จึงหันมาเห็นเข้าพอดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา