เย่จายซิงสัมผัสได้เพียงแค่ความเหน็บหนาวในความมืดทึบ ราวกับถูกงูพิษตัวหนึ่งจับตาอย่างหยอกล้อ พ่นพิษที่เป็นอันตรายมายังนาง นางค่อย ๆ หันหลังกลับมา เห็นชายหนุ่มสูงใหญ่คนหนึ่งอยู่ในสายตา เหนือกว่าที่นางคาดหมายคือ เขาไม่ใช่อสุรกายน่าเกลียดอย่างที่นางคิด แต่กลับมีหน้าตาที่หล่อเหลา ใบหน้าไร้ที่ติ คมคายชัดเจน ผิวพรรณขาวจนขาวซีด
ทั้งที่สีหน้ามีอาการป่วย แต่ร่างกายไม่แสดงถึงความอ่อนแอแม้แต่น้อย แค่รู้สึกประหลาดเยือกเย็น
ดวงตาดอกท้อยาวเรียวเชิดขึ้น แสงแดงก่ำภายในท่วมท้นออกมา มีกลิ่นอายมืดมนและอันตรายอยู่ทั่วตัว
นางคิดว่าเขาเหมือนจอมวายร้าย ความคิดมืดมน เป็นพวกประเภทดับฟ้าทำลายแผ่นดินแบบนั้น
นางถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ
“แมวป่าน้อย รู้จักกลัวแล้วเหรอ?”
มุมปากของเขาฉีกขึ้น ยิ้มด้วยความเสน่ห์เจ้าเล่ห์ แต่กลับไม่เห็นความอบอุ่น
ท่าทางของเขาในเวลานี้เหมือนแมวป่าที่กำลังเล่นกับหนูตัวน้อย ส่วนตัวนาง ก็คือหนูน้อยที่น่าสงสารตัวนั้นนั่นเอง
“เจ้าถูกพิษ ข้าช่วยถอนพิษเจ้าได้ !”
เมื่อเห็นเขาค่อย ๆ เข้ามาใกล้ เย่จายซิงจึงพูดขึ้นมาในทันใด
เสียงฝีเท้าของหลงเฟยหลีหยุดลง ใบหน้าหล่อเหลาก็ปรากฏรอยยิ้มเยือกเย็นตามมา
เดิมทีโลหิตหงส์แท้ในตัวเจ้าก็ถอนพิษในตัวข้าได้ ทำไมข้าต้องต่อรองกับเจ้าด้วย?”
เย่จายซิงตกใจ เขาพูดว่าอะไร? นึกไม่ถึงว่าจะมีโลหิตหงส์แท้อยู่ในตัวนาง?
เดี๋ยวก่อน โลหิตหงส์แท้คืออะไร?
หรือมารดาของนางคือหงส์โบราณ?
หลงเฟยหลีเห็นความฉงนในสายตานาง เย้ยหยันใส่ “ที่แท้แมวป่าน้อยไม่รู้แม้แต่ชาติกำเนิดของตัวเอง ท่าทางเจ้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าถูกใครดูดรากทิพย์ไป จึ๊จึ๊ เป็นหนอนที่น่าสงสารจริง ๆ ”
“เจ้าหมายความว่าอะไร? เจ้ารู้จักข้า?”
เย่จายซิงขมวดคิ้วเป็นปม นางกล้ารับรองว่านางกับชายผู้นี้ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ แต่พอฟังความหมายจากคำพูดของเขา เหมือนจะรู้ว่านางถูกใครเอารากทิพย์ไป !
เช่นนั้นเขาจะรู้ไหมว่ามารดาของนางเป็นใครกันแน่? ถ้าเป็นเช่นนี้ บางทีอาจจะตามเบาะแสจนพบบิดาได้ !
มุมปากของหลงเฟยหลีเมินเฉย ดวงตาแดงก่ำมองนางสักพัก แล้วก็เปลี่ยนความคิดในทันที :
“ข้ากำลังขาดสาวใช้พอดี เจ้าก็อยู่คอยยกน้ำชาให้ข้า แล้วก็ให้ข้าดูดเลือดทุกวัน ข้าจะไตร่ตรองเรื่องบอกความจริงกับเจ้า”
เย่จายซิงหรี่ตาพูดว่า :
“ในเมื่อดูดเลือดข้าเพื่อถอนพิษเจ้า ข้าสามารถกลั่นโอสถให้เจ้าได้ ให้เจ้าถอนพิษครั้งเดียวได้ตลอดไปไม่ยิ่งดีกว่าเหรอ? หรือว่า โลหิตหงส์แท้ของข้ามีประโยชน์อย่างอื่นต่อเจ้า?”
“เจ้านี่ช่างฉลาดจริง ๆ ”
หลิงเฟยหลีไม่ปฏิเสธ แถมยังเย้ยหยันว่า :
“ถูกต้อง โลหิตหงส์แท้ของเจ้ายังสกัดชีพจรที่ว้าวุ่นภายในของข้าได้ ทำให้ข้าไม่กลายเป็นครึ่งคนครึ่งผีครึ่งอสูร ดังนั้น แมวป่าน้อย เจ้าก็อย่าคิดหนีอีกเลย ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าจากไปแน่”
นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่ปิดบังตัวตนของเขา !
จิตใจของเย่จายซิงหนักอึ้ง รู้ว่าชายผู้นี้รับมือไม่ง่าย
เมื่อเทียบกันแล้ว จวินหยวนดีกว่าเขามาก อย่างน้อยจวินหยวนก็ยังว่าด้วยเหตุผล รับฟังสิ่งที่นางพูด
ชายผู้นี้เอาตัวเองเป็นหลักเกินไป นิสัยแปลกประหลาด ไม่มีสามัญสำนึก
พอนึกถึงจวินหยวน จิตใจของนางก็ว้าวุ่น เกรงว่าเขาจะเกิดเรื่องเพราะมาช่วยนาง ถ้าเป็นเช่นนี้ นางคงอยู่ไม่สุข
“เจ้าปฏิเสธข้าก็ไม่เป็นไร ข้าจะขังเจ้าไว้ เลี้ยงเจ้าไว้ให้เลือดข้า ใช้ไม่มีวันหมด……”
“ข้าตกลง ! เป็นสาวใช้ให้เจ้า แล้วก็ถอนพิษให้เจ้า ขอแค่เจ้าสกัดชีพจรไม่อยู่ ข้าก็จะให้เลือดเจ้า !”
นางลองต่อรองดู
เย่จายซิงไม่ค่อยเข้าใจ
“อาณาจักรก็คือพื้นที่ของคนผู้หนึ่ง ในอาณาจักรของเขา ไม่ว่าการกระทำของผู้ใดล้วนอยู่ในสายตาของเขา หากเขาคิดจะฆ่าท่าน ท่านก็ไม่สามารถขัดขืนได้ ดังนั้น นายหญิง ท่านอย่าทำให้เขาโกรธเป็นอันขาด เขาฆ่าท่านได้ง่ายดายกว่าบี้มดหนึ่งตัวเสียอีก”
นางคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์ตอนนี้แย่กว่าที่คิดเอาไว้มาก มิน่าพอนางเปิดประตูห้องมืดออกมาเขาก็ปรากฏตัวแล้ว ที่แท้ความเคลื่อนไหวของนางอยู่ในสายตาของเขาตลอด
“แล้วต้องทำยังไงจึงจะไปจากอาณาจักรของเขาได้?”
นางถาม
“เว้นแต่การฝึกฌานของท่านจะสูงกว่าเขา หรือไม่ก็เขาให้ท่านไปเอง”
เย่จายซิง:……
นางถอนใจในใจ “หวังว่าจวินหยวนจะไม่เกิดเรื่อง และอย่าเข้ามาในอาณาจักรของเขา”
“แมวป่าน้อย ในสถานการณ์อย่างนี้เจ้ายังใจลอย เจ้าจะให้ข้าว่าเจ้าอย่างไรดี?”
อยู่ ๆ หลงเฟยหลีก็หยุดลง เหมือนผีที่แว่บมาข้างกายนาง นิ้วมืออันเย็นเฉียบเสยคางนางขึ้น รสสัมผัสเย็นเยือกราวกับงูพิษ
“ต่อหน้าข้าจงเก็บแผนการของเจ้าไว้ แล้วสู้มาคิดว่าทำอย่างไรให้ข้าชอบใจจะดีกว่า ไม่แน่พอข้าอารมณ์ดี ก็จะบอกเกี่ยวกับชาติกำเนิดของเจ้า”
เย่จายซิงอยู่ ๆ ก็พลิกมือมากุมนิ้วมือของเขาไว้ มืออีกข้างวางบนข้อมือของเขาอย่างรวดเร็ว
จิตสังหารของหลงเฟยหลีแว่บเข้ามา เห็นนางที่แท้จะจับชีพจรให้เขา จิตสังหารจึงจางหาย มองดูหน้าด้านข้างที่ไร้ปานของนางอย่างเหนื่อยหน่าย
“เป็นยังไงบ้าง? เจ้าถอนพิษได้ไหม?”
เขาพูดติดตลก เขาไม่คิดว่าสาวน้อยที่อ่อนแอเกินกว่าจะมัดไก่จะสามารถถอนพิษให้เขาได้
เย่จายซิงแหงนหน้ามองดูเขา พูดด้วยดวงตาแน่วแน่ว่า :
“ข้าทำได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...