หลงเฟยหลีเห็นสีหน้านางแปลก ๆ จึงพูดเสียงดังว่า :
“เจ้าอย่าคิดเหลวไหล ข้าคิดว่าเจ้าเหมือนแค่แมวเล่นกับหนู ก็คิดว่าเจ้าน่าสนใจเท่านั้นเอง อีกไม่นาน ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป”
เย่จายซิงหมดคำพูด อย่างนี้เขาเรียกว่าปกปิดหรือเปล่านะ?
นางค้นพบว่า อนาคตเทพปีศาจผู้นี้เป็นคนปากอย่างใจอย่าง
ปากบอกว่าจะให้นางหิวจนตาย แต่ที่เอามาให้นางกินกลับเป็นสัตว์ปีกแสนอร่อยที่เขาย่างกับมือ
ที่เขาบอกว่าภายหน้าจะปล่อยนางไปนางไม่เชื่อหรอก
เพียงแต่นางไม่เข้าใจว่า หลงเฟยหลีรู้สึกว่านางน่าสนใจตรงไหน นางเปลี่ยนก็ได้นี่ นางไม่อยากข้องเกี่ยวกับราชาปีศาจในอนาคตเลย
นางพยักหน้าอื้ม ๆ จากนั้นมองเขาแล้วก็พูดว่า :
“นี่ ข้าไม่คิดเหลวไหลหรอก ในเมื่อเจ้าไม่ปล่อยข้าไป ก็ขอให้เห็นแก่ยาสะเดาะเคราะห์สองเม็ด บอกชาติกำเนิดของข้าด้วย”
“เจ้าไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าแม่ของเจ้าเป็นใคร?”
คิ้วกระบี่ของเขาเลิกขึ้น เหมือนหงุดหงิด
เห็นนางผงกหัว จึงบอกนางเรื่องที่นางอยากจะรู้
“ในกายของเจ้ามีโลหิตหงส์บริสุทธิ์ มีเพียงอย่างเดียวคือ แม่ของเจ้าเป็นองค์หญิงจงหนิงฝูหนึ่งเดียวแห่งเผ่าหงส์ในอาณาจักรเวหาทิพย์
“อาณาจักรเวหาทิพย์? ที่นั่นเป็นสถานที่อะไร?”
เย่จายซิงไม่เคยได้ยินอาณาจักรเวหาทิพย์มาก่อน แต่พอได้ยินชื่อนี้ ก็รู้ว่าสถานที่นี้ไม่ธรรมดา
“นั่นเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงแห่งแผ่นดินเทียนเหย้า จำเป็นต้องใช้ค่ายวาร์ปโบราณถ่ายทอดจึงจะส่งถึง สายเลือดมารดาของเจ้าสูงศักดิ์ แต่กลับให้กำเนิดเจ้ากับผู้บำเพ็ญชั้นสามัญในดินแดนชั้นต่ำ ช่างเหนือความคาดหมายจริง ๆ แต่เท่าที่ข้ารู้มา เหมือนว่าองค์หญิงหงส์จะสูญเสียความจำจากอุบัติเหตุ ข้างกายนางมีคู่หมั้นที่รักมั่นและเหมาะสม น่าจะไม่มีใครรู้เรื่องการมีตัวตนของเจ้าเลย”
เขาพูดด้วยเสียงราบเรียบ มุมปากกระตุกยิ้มอย่างชั่วร้าย เย้ยหยันที่มารดาของนางอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีบุตรสาวอย่างนางอยู่ ช่างน่าสงสารจริง ๆ
เย่จายซิงเข้าใจความหมายสิ่งที่เขาพูด นั่นก็คือ คู่หมั้นของมารดานางในตอนนี้ ไม่ใช่บิดาของนาง แต่เป็นชายอื่นที่เหมาะสม
จะน้ำเน่าเกินไปแล้ว
เช่นนั้น รากทิพย์ในกายของนาง คงถูกคนในอาณาจักรเวหาทิพย์เอาไปสินะ?
หากนางจะแก้แค้น ต้องไปอาณาจักรเวหาทิพย์ใช่หรือไม่?
และบิดาของนาง ก็ไปที่นั่นด้วยหรือไม่?
หากเขารู้ว่ามารดาของนางสูญเสียความทรงจำไปแล้ว ยังมีคู่หมั้นอื่นด้วย เขาต้องรับไม่ได้แน่
แต่นางก็ไม่ได้คิดมาก สำหรับนางในตอนนี้ จะอาณาจักรเวหาทิพย์เผ่าพันธุ์หงส์อะไรก็ตาม ล้วนไกลเกินเอื้อมเหลือเกิน
เดิมทีหลงเฟยหลีอยากเห็นความเศร้าโศกบนใบหน้านาง นึกไม่ถึงว่านางกะพริบตาปริบ ๆ แล้วก็แหงนหน้าขึ้นมองเขาถามด้วยคำถามชวนสงสัยว่า:
“เจ้าต้องอยู่ภพมารหรือไม่ก็ภพปีศาจไม่ใช่เหรอ ทำยังไงถึงไปอาณาจักรเวหาทิพย์ได้?”
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาทะมึนตึงสะบัดแขนเสื้อแล้วก็เดินไปทิ้งไว้เพียงคำพูดว่า : “สิ่งที่ไม่ควรถามเจ้าก็จงอย่าถามเป็นดีที่สุด”
ดูท่าทางคงทำให้เขาคิดถึงเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นมา อยู่ ๆ จึงเปลี่ยนสีหน้า
นางมองเนื้อนกที่เย็นชืด จืดไม่มีรสชาติ แต่พอนึกถึงว่าหลงเฟยหลีอาจจะแอบจับตามองนางอยู่ ยังไงก็ละเมียดกินเนื้อให้เกลี้ยงดีกว่า อย่างไรเสีย เขาก็ลงมือทำกับมือ ถ้ากินไม่หมด เขาต้องไม่ชอบใจแน่
นางเช็ดมืออยู่ก็พบว่าตอนนี้ม่านอาคมไม่ได้ปิดผนึก แอบดีใจจึงเดินออกไป สีหน้าเผยให้เห็นว่ามองนั่นมองนี่ด้วยความสงสัย
เดินวนหนึ่งรอบ ก็ยังไม่พบทางออก
“หลงเฟยหลี ท่านอยู่ไหน?”
นางเรียกเสียงเบา ๆ
เรียกหาข้าทำไม?”
หลงเฟยหลีทำหน้าขรึมปรากฏตัวอยู่ข้างหลังนาง ราวกับเดินออกมาจากหมอกดำ
“ข้าไม่ถามไปเรื่อยแล้ว ขอบคุณท่านอย่างมากที่บอกข้าเกี่ยวกับชาติกำเนิดมารดาข้า ข้าแค่อยากถามท่านว่า คนอื่นมองข้าเพียงพริบตาเดียวก็สามารถดูออกว่ากายข้ามีโลหิตหงส์บริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ?”
“ข้าเป็นผู้มีพรสวรรค์ต่างจากคนทั่วไป ยากที่หาผู้ใดเทียบได้”
อย่างนั้นก็หมายความว่าคนอื่นดูไม่ออกนั่นเอง
ร่างกายสูงใหญ่ของเขาแน่นิ่ง มองนางด้วยความสงสัย :
“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าพิษที่เหลืออยู่ให้ข้าไปหาวิธีเอง? เจ้าช่วยข้าถอนพิษได้ทำไมไม่บอก แล้วทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนความคิดแล้ว?”
“เพราะเจ้าบอกฐานะของมารดาข้า จึงรู้สึกซาบซึ้งใจเจ้า และอยากเห็นเจ้าเป็นเพื่อน จึงยินดีที่จะช่วยถอนพิษเจ้า”
นางอยากเดิมพันดูอีกครั้ง ดูว่าเทพปีศาจในอนาคตยังเหลือความเมตตาอยู่หรือไม่ ขืนดึงดันอย่างนี้ต่อไป นางเกรงว่าจวินหยวนจะเกิดเรื่อง
ที่นี่ไม่ได้ดีไปกว่าโลกภายนอก บวกกับจวินหยวนรบอย่างดุเดือดกับอสูรปีศาจมาทั้งคืน สูญเสียพละกำลังไปมาก ยิ่งเจอกับอันตรายอีก ต้องยุ่งยากแน่นอน
“เพื่อน? ฮ่า ๆ น่าขำที่สุด ! ข้าไม่ต้องการเพื่อน !”
หลงเฟยหลีหัวเราะอย่างเย็นชา “ในเมื่อเจ้าถอนพิษให้ข้าได้ ก็จงถอนซะตอนนี้ ! ทำหน้าที่เจ้าซะ จงอย่าเพ้อฝัน !”
นางนิ่งเงียบไม่ส่งเสียง เอาเตากลั่นยาและตัวยามากมายออกมา เริ่มกลั่นโอสถทิพย์
พิษที่เหลือในตัวเขาต้องถอนทีละตัวทีละตัว จึงต้องลงตัวยาให้ถูก โอสถทิพย์หนึ่งขนานต่อสารพิษหนึ่งตัว
ไม่นานนางก็กลั่นโอสถทิพย์ออกมาได้สี่ขนาน
หลงเฟยหลีเฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ พอโอสถทิพย์ออกจากเตาก็กลืนลงทันที
ถอนสารพิษทำลายกระดูกไปสี่ขนาน เขารู้สึกว่าตัวเบาลงไม่น้อย
“เจ้าถอนพิษเก่งเช่นนี้ ทำไมจึงไม่กำจัดปานบนใบหน้าเจ้าทิ้ง?”
อยู่ ๆ เขาก็ถามขึ้น
เย่จายซิงไม่แปลกใจที่เขาดูออกว่าปานของนางเป็นพิษ พูดอย่างสงบว่า :
“ข้ายังขาดตัวยาทิพย์ที่หายากอยู่ไม่กี่อย่าง”
“ยาทิพย์อะไร?”
อีกด้านหนึ่ง อยู่ ๆ สีหน้าของโส่วเหล่าซานก็เปลี่ยนไป ผลีผลามยืนขึ้นมา
“คนล่ะ ! คนเมื่อกี๊ยังอยู่ในค่ายกลอยู่เลย ทำไมอยู่ ๆ หายไปได้ ? ผีหลอกแล้ว !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...