พอออกจากไอพิษ เย่จายซิงก็รู้สึกกลิ่นอายของอสูรปีศาจขั้นแปดที่แข็งแกร่งอยู่สองสามตัว พวกมันร้องคำรามไล่ตามนางกับจวินหยวน
การรับรู้อาณาเขตของอสูรปีศาจแกร่งกล้ามาก เจียวปีศาจตัวก่อนนั้นเป็นผู้สั่งการที่แกร่งที่สุด อสูรปีศาจตัวอื่นไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ พอมันตาย อสูรปีศาจตัวอื่นที่สัมผัสถึงกลิ่นอายมนุษย์ก็บุกเข้ามาฆ่าฟัน
จวินหยวนเหมือนจะคาดการณ์ไว้นานแล้ว คมกระบี่ที่พานางเหินลมอยู่มุ่งหน้าตรงไปสถานที่เป้าหมาย
อสูรปีศาจไล่มาตามหลังอย่างไม่ลดละ การโจมตีทุกครั้งได้แค่เกือบโดนตัวของพวกเขา ราวกับด้านหลังจวินหยวนมีดวงตาอย่างนั้น จึงหลบหลีกได้ทันการณ์
ข้างหลังเป็นเสียงคำรามกึกก้องจนแผ่นดินสะเทือน อสูรปีศาจขั้นต่ำจำนวนนับไม่ถ้วนกระจายกันหลบตัว ต้นไม้สูงเทียมผ้าโค่นล้มราวกับเกิดแผ่นไหว การโจมตีที่รุนแรงไล่ตามมาอยู่เบื้องหลังไม่ขาด
เป็นครั้งแรกที่เย่จายซิงรู้สึกว่าการหนีตายครั้งนี้น่ากลัวและคับขันมาก แต่นางกลับไม่ตระหนกเลยแม้แต่น้อย อาจเพราะจวินหยวนได้ให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยอย่างล้นพ้นกับนาง
หากไม่เพราะมาช่วยชีวตินาง นางเชื่อว่าจากพละกำลังของเขาต้องไม่บาดเจ็บแน่นอน เขาแข็งแกร่งกว่าที่คิดเอาไว้มาก
อยู่ ๆ นางก็แปลกใจว่าเขามีฐานะเป็นอะไร ทำไมอายุเพียงแค่นี้ก็มีฌานเป็นร้อยปี
เป็นมังกรนกหงส์ในหมู่มนุษย์ ทำไมต้องยอมลดตัวต่อแคว้นเล็กที่ไม่อยู่ในสายตา?
หรือเป็นจริงอย่างที่เขาบอกว่า เขามาแคว้นหงส์แดงก็เพื่อนาง?
ขณะที่คิดเหลวไหล จวินหยวนก็หยุดกะทันหัน นางเห็นทางเข้าแดนลึกลับตรงหน้าขึ้นมาทางหนึ่ง เบื้องหลังอสูรปีศาจก็คำรามเข้ามา เขาดึงนางเข้าไปในแดนลึกลับอย่างสุขุม
ปากถ้ำลึกลับมีม่านอาคมโปร่งใส ไม่รู้ว่าเขาใช้มนต์อะไรทั้งสองคนก็เดินผ่านม่านอาคมเข้าไปได้ อสูรปีศาจที่อยู่เบื้องหลังไม่กล้าเข้าใกล้ ราวกับหวาดกลัวอะไร
“เสด็จอา ที่นี่คือ?”
นางถามด้วยความฉงน
“ที่นี่ก็คือสถานที่พบเบาะแสว่าท่านพ่อของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ จงตามข้ามา วางใจได้ อสูรปีศาจไม่กล้าเข้ามาหรอก”
จวินหยวนไม่ปล่อยมือนาง อีกทั้งยังอธิบายกับนางอย่างอดทน:
“ที่นี่เคยเป็นถ้ำเทพของมนุษย์ผู้มีพลังมหาศาลผู้หนึ่งเมื่อหลายหมื่นปีก่อน ภายนอกถ้ำเทพตั้งเขตต้องห้ามเอาไว้ อสูรปีศาจที่เข้ามาใกล้จะถูกพลังแข็งแกร่งดีดกระเด็นออกไป อีกทั้ง ภายในถ้ำเทพราวกับยังมีของวิเศษอย่างหนึ่งที่ทำให้อสูรปีศาจหวาดกลัว”
“อ้อ? เป็นของวิเศษอะไรที่ทำให้อสูรปีศาจหวาดกลัว?”
นางประหลาดใจ มองไปรอบ ๆ ทางเข้าเป็นปากถ้ำที่คับแคบ มีมอสขึ้นเต็มไปหมด มองแบบผิวเผิน ยังนึกว่าเป็นแค่ถ้ำทั่วไป
เดินไปไม่นานเท่าไหร่ กระจ่างแจ้ง ประตูสัมฤทธิ์สนิมเกราะสองบานก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ทว่าประตูได้ถูกเปิดเอาไว้แล้ว เวลานี้เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นธรรมดาของถ้ำเทพเมื่อหมื่นกว่าปีมาแล้ว นักล่าสมบัติต่างมากันไม่รู้กี่ครั้ง แค่นึกไม่ถึงว่าม่านอาคมภายนอกจะยังทนทานอย่างนั้น
“เพียงแต่มีคำร่ำลือว่าในแดนลึกลับแห่งนี้ยังมีของวิเศษที่ไม่เคยถูกพบ เป็นการคาดเดาของผู้คน ข้าเคยมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน ไม่พบอะไร บางทีอาจจะมีของวิเศษจริง ๆ ที่รอคอยผู้มีวาสนาของมัน”
จวินหยวนพูดกับนาง
“น้องซิง ตามข้ามา”
เขาคุ้นเคยกับพื้นที่ดี พอเข้าสู่ประตูก็พบทาง 6 สายที่ต่างกัน เขาพานางเดินตรงไปทางซ้ายสุด เส้นทางคดเคี้ยว เดินประมาณธูปหนึ่งดอกหมดก็หยุด
“ที่นี่มีของที่ท่านพ่อของเจ้าทิ้งเอาไว้ แผ่นหยกส่งเสียง เสื้อเกราะและรัดเกล้าที่แตกร้าว”
เย่จายซิงเห็นแล้ว ที่นี่เหมือนแท่นบูชา บนแท่นจัดวางสิ่งของไม่กี่อย่าง ปกคลุมไปด้วยฝุ่นละออง แต่เสื้อเกราะตัวนั้น นางมองพริบตาเดียวก็รู้
ในความทรงจำของเจ้าของเดิม ตอนที่ท่านพ่อกลับมาอย่างผู้ชนะ ได้สวมใส่เสื้อเกราะสีเงินตัวนี้ เขาขี่สัตว์ประหลาดคอยาว สง่าผ่าเผย เป็นเทพเจ้าสงครามผู้ไร้เทียมทานในใจของชาวแคว้นหงส์แดง
“เมื่อหมื่นกว่าปีก่อนโลกาบำเพ็ญเซียนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ สถานที่หลายแห่งไม่หลงเหลือแล้ว แล้วยังมีอาณาเขตเกิดเพิ่มขึ้น ยากที่จะแยกแยะได้ว่าถูกส่งไปที่ไหน อีกทั้ง แผ่นดินเกิดรอยเลื่อน น้องซิง ซึ่งก็หมายความว่าไม่แน่ว่าท่านพ่อของเจ้ายังอยู่ในแผ่นดินเทียนเหย้า”
นางใจเต้น อยู่ ๆ ก็นึกถึงอาณาจักรเวหาทิพย์ หรือว่า ท่านพ่อจะไปหาท่านแม่ที่นั่น เพราะท่านแม่ปรากฏตัวในเทือกเขาอัสดง เป็นไปได้ว่าถูกส่งจากอาณาจักรเวหาทิพย์มายังที่นี่จึงพบกับท่านพ่อ
ท่านพ่อก็บังเอิญ ก็ผ่านค่ายวาร์ปไปยังอาณาจักรเวหาทิพย์
แน่นอน นี่เป็นแค่การคาดเดาของนาง ไม่แน่ว่าจะแม่นยำ
นางหวังว่านางจะคาดเดาถูกต้อง หากท่านพ่อถูกส่งไปยังที่อื่น ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะหาท่านแม่ไม่เจอ ต่อไปจะหาเขาก็คงจะหาไม่พบ
เย่จายซิงเงยหน้ามองจวินหยวน ขมวดคิ้งแล้วพูดว่า: “เสด็จอา ไม่มีทางที่จะเปิดค่ายวาร์ปอีกแล้วหรือ?”
จวินหยวนอยากพยักหน้าตอบว่า “ใช่” แต่พอเห็นแววตาสีดำที่ฉายความคาดหวังของนาง ก็เปลี่ยนคำเป็น:
“ข้าจะคิดหาทาง น้องซิงไม่ต้องกังวล”
แน่นอนเย่จายซิงรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย นางบอกว่า: “ไม่รบกวนเสด็จอาดีกว่า ไว้รอข้ามีรากทิพย์แล้ว ข้าจะไปเฉินตูสอบถามอาจารย์ค่ายกลที่แกร่งกล้าเอง”
ถ้าจนหนทางจริง ๆ เช่นนั้นก็ช่างเถอะ ไว้ต่อไปนางมีพละกำลังที่แข็งแกร่งแล้วค่อยคิดหาทางอื่น
ในเมื่อหลงเฟยหลีเคยไปอาณาจักรเวหาทิพย์ เช่นนั้นก็ต้องมีหนทางอื่นข้ามไปอย่างแน่นอน
ถูกปฏิเสธอีกแล้ว จวินหยวนควบคุมความปรารถนารุนแรงจากก้นบึ้งหัวใจที่ปะทุออกมาก นัยน์ตาส่องประกาย กำหมัดแน่น
จะทำให้น้องซิงตกใจไม่ได้
นางไม่ชอบจอมบงการเบ่งอำนาจของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...