พรวด! พรวด!
พวกเขาทั้งสองกระโดดขึ้น และมองไปที่กัวฉางด้วยความหวาดกลัว
ระหว่างกินไปครึ่งชั่วโมง พร้อมฟังบทสนทนาของคนข้าง ๆ พวกเขาก็รู้แล้ว
นี่คือบ้านของบัณฑิตผู้ร่ำรวยคนนั้น และยังเป็นเป้าหมายของพวกเขาด้วย
ตอนนี้กัวฉางพูดอย่างจริงจังว่า นี่คือนายน้อยของเขา เขาทำให้ทั้งสองระเบิดทันที!
เฮยลวี๋แสดงท่าทีหลบหนี “พี่ฉาง มิตรภาพชะตาชีวิตของพวกเรา พี่ทำกับเราแบบนี้ไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมที่จะจับเรา หลังจากที่เรากินอิ่มจนไม่สามารถหนีไปได้!”
โซ่วโหวหยิบกริชออกมาจากเอวของเขา “พี่ฉาง ปล่อยพวกเราไปเถอะ พี่ลืมคำสัญญาเดิมที่ว่าเราจะแบ่งปันความสุข และแบ่งปันความยากลำบากแล้วเหรอ พี่ไม่ใช่คนไม่ยุติธรรมนี่นา!”
“ถ้าข้าอยากจะจับกุมพวกเจ้า ข้าก็ทำไปนานแล้ว พวกเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ของข้ารึไง ข้าปฏิบัติต่อพวกเจ้าเหมือนพี่น้อง และข้าอยากจะบอกความจริงกับพวกเจ้า”
กัวฉางพูดอย่างเย็นชา “ถ้าพวกเจ้าเชื่อฟังก็นั่งลง ถ้าพวกเจ้าไม่ฟังก็หันหลังกลับ แล้วออกไปตอนนี้ ข้าจะไม่เรียกคนมาจับพวกเจ้า ถือว่ามิตรภาพของพวกเราจบลง แต่หลังจากวันนี้ เราก็จะไม่ใช่พี่น้องอีกต่อไปแล้ว!”
โซ่วโหวกริชของเขาแล้วนั่งลง “พี่ฉาง พี่มีอะไรก็พูดเถอะ แม้ว่าพี่จะเรียกคนมา ข้าก็ยอมรับมัน ถือว่าข้าตาบอดแล้วกัน และตอบแทนสิ่งที่ท่านทำเมื่อสามปีก่อน!”
เฮยลวี๋ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “พี่ฉาง ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น ข้าก็ยอมรับ!”
ทั้งสองพูดอย่างซื่อตรง แต่ความจริงแล้วคือขืนสู้ไปก็แพ้อยู่ดี แถมกินอิ่มแล้วไม่มีแรงวิ่ง
“อันที่จริงครึ่งเดือนที่แล้ว ข้าก็ยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน ยังคงเป็นขโมย…”
กัวฉางเริ่มเล่าเรื่องราวของเขา
เฮยลวี๋และโซ่วโหวอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาขณะที่ฟัง!
ชาวบ้านในชนบทคนไหนไม่หวังว่าเจ้าของบ้านและผู้ติดตามจะเป็นคนดีกัน!
แต่ในความเป็นจริงแล้ว แต่ละคนแย่กว่าคนก่อน พวกเขาสนใจแค่ทุ่งนาและบ้านของตนเท่านั้น
เอาสิ่งเหล่านี้ออกไปยังไม่พอ ซ้ำยังต้องการให้พวกเขาขายเป็นทาส และทำงานโดยไม่มีค่าจ้างด้วย
ถ้ากัวฉางเล่าเรื่องของเขาก่อนรับประทานอาหาร ทั้งสองคนไม่มีวันเชื่อเป็นอันขาด
แต่ระหว่างมื้ออาหารก็มีกลุ่มตกปลา กลุ่มขายปลา กลุ่มสบู่ และกลุ่มจัดซื้ออยู่ใกล้ ๆ เสียงหัวเราะของพวกเขายังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้าหาเงินได้เท่าไหร่ ข้าหาเงินได้เท่าไหร่ เจ้าอ้วนขึ้นจากการกินเนื้อสัตว์เท่าไหร่ในช่วงสิบวันนี้?
ภรรยาอาบน้ำด้วยสบู่แล้วตัวนางมีกลิ่นหอมขึ้นมาก!
น้ำตาของโซ่วโหวไหลออกมา “พี่ฉาง พี่ทำงานหนัก เขาก็ตอบแทนพี่เป็นเงินยี่สิบตำลึง ทุกครั้งที่เรามีความยากลำบาก เราเสี่ยงชีวิตไป และมีเพียงเจ้านายเท่านั้นที่จะได้รับเงิน นายน้อยหวังช่างเป็นพระโพธิสัตว์ พี่ฉางได้ติดตามเขาถือว่าชาติที่แล้วได้รับพรแล้ว!”
“ข้าก็คิดว่าอย่างนั้น!”
ดวงตาของกัวฉางมืดลง “ดังนั้นตอนนี้ถ้าใครก็ตามแตะต้องนายน้อยของข้า ข้า กัวฉางจะเสี่ยงชีวิตเพื่อลากเขาลงนรก!”
โซ่วโหวถูกมองจนเสียวคอ “พี่ฉาง ที่เรามาสำรวจนั้นเป็นเพียงลูกน้องในค่ายซานหู่ คนที่จะทำร้ายนายน้อยหวังไม่ใช่พวกเรา!”
โซ่วโหวพูดว่า “พี่ฉาง เราไม่มีวันทำร้ายนายน้อยหวังแน่นอน ถ้าเราทำร้ายคนดีที่กลับชาติมาเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ เราจะได้บุตรชายที่ไม่มีรูตูดอย่างแน่นอน แถมยังลงนรกชั้นสิบแปดหลังจากตาย!”
เฮยลวี๋เกิดความคิดขึ้นมาและพูดว่า “พี่ฉางเพื่อความปลอดภัยของนายน้อยหวัง ให้เขาไปอาศัยอยู่ในเมืองพรุ่งนี้เถอะ ไม่ว่าหัวหน้าทั้งสามจะกล้าหาญแค่ไหน พวกเขาก็ไม่กล้าไปเทศบาล!”
“...ถูกของเจ้า!”
กัวฉางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ไปกันเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าไปพบนายน้อย!”
เฮยลวี๋และโซ่วโหวกลัวเล็กน้อย แต่ก็ติดตามกัวฉางอยู่ข้างหลังอย่างตื่นเต้น
คงจะน่าเสียดายหากไม่เห็นนายน้อยหวังผู้เปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์
เมื่อทั้งสองเข้าไปในลานบ้าน พวกเขาเห็นชายหนุ่มรูปหล่อที่มีแรงผลักดันพิเศษ ยืนอยู่ในท่าที่ถือปืน เมื่อเขาเห็นทั้งสามคนเข้ามา เขาก็ยิ้มราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิแล้วก้าวไปข้างหน้า “พี่ฉาง สหายสองคนนี้เป็นใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่
อัพปตอนต่อหน่อยอ่านถึง373 แล้ววสนุก...
สนุกมมากครับ ปกติเห็นแนวนี้ตัวเอกชอบเป็นผู้หญิง...
รบกวน อัพเดท ด้วยครับ /...
รออยู่ครับ เรื่องนี้ สนุกมาก อย่าเพิ่งเท กันน่ะครับ/ขอบคุณ แอดฯ...
รอตอนต่อไปอยู่ครับ...
รอ update อยู่น๊าา กำลังสนุกเลย...
เรื่องนี้ ดีมากครับ รบกวน อัพเดท ไวๆ ใจจะขาดแล้ว ขาดตอนไปเดือนนึงแล้วครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ แอดมิน...
ฮ่องเต้ในนิยายนี้ จับสลากได้ตำแหน่งมาแน่นอน...
ขอบคุณ admin ครับ เรื่องนี้สนุกจริงๆ...