บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1593

บทที่ 1593 มหาเทวาวิญญาณ

…………….

บทที่ 1593 มหาเทวาวิญญาณ

ลำแสงสีดำและสีขาวพุ่งทะยานไปบนฟ้าราวกับเทพเจ้าสององค์ได้จุติลงมา พวกมันช่างงดงามและไร้ขอบเขต มิหนำซ้ำลำแสงทั้งเจ็ดลำที่ถูกแหวนทองแดงมหาสุราลัยสยบไว้พลันส่งเสียงดังกังวาน ก่อนที่พวกมันจะเปล่งประกายเจิดจ้า

ทันใดนั้น ลำแสงทั้งเก้าก็มาบรรจบกัน และสถิตอยู่ในตำแหน่งของทั้งเก้าตำหนัก สร้างสนามพลังที่สมบูรณ์ แรงกดดันของพวกมันก็ทวีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหากเทียบกับเมื่อก่อน

ถึงขั้นที่ท่วงทำนองเต๋าอันยิ่งใหญ่และคลุมเครือดังก้องไปทั่วทั้งจักรวาล ประหนึ่งเสียงคำรามของมังกรหรือเสียงร่ำร้องของวิหคอมตะ และแม้แต่เสียงของธรรมชาติ

สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนดวงดาวและผู้บ่มเพาะที่อาศัยอยู่ทั่วแถบนี้ล้วนได้ยินมัน ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของพวกเขาสั่นไหวอย่างไร้เหตุผล

ดูเหมือนมีเรื่องอัศจรรย์เกิดขึ้น!

ณ ดาวทุคตินีลโลหิต

ที่ภูเขาด้านหลังของนิกายศักดิ์สิทธิ์ทุคตินีลโลหิต บังเกิดเสียงที่ตกใจดังก้องออกมาทันที “หรือว่าร่างที่ไม่มีใครเทียบได้อีกคนที่มีศักยภาพที่จะกลายเป็นที่ยกย่องในหมู่เทพวิญญาณกำลังจะเกิดในดาราจักรผาขจีนี้”

ในขณะนี้ เหล่าผู้บ่มเพาะทั้งหมดในดาราจักรผาขจีต่างหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว และดวงจิตแห่งเต๋าก็สั่นสะเทือนด้วยพลังที่ไม่อาจหยั่งถึงได้

“ลำแสงทั้งเก้ามาบรรจบกัน! มหาเทวาวิญญาณ!” เสียงร้องอันแหลมหูของเยี่ยเหยียนดังก้องมาจากระยะไกล และเสียงของนางก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่หาได้ยาก

โครม!

ก่อนที่จะสิ้นเสียง แหวนทองแดงมหาสุราลัยที่กระแทกเข้ากับลำแสงทั้งเก้าก็ส่งเสียงคร่ำครวญ และระเบิดอย่างรุนแรงจนกระเด็น

พรวด!

เยี่ยเหยียนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เลือดไหลซึมออกมาจากริมฝีปาก ใบหน้างดงามและมากเสน่ห์พลันกลับกลายเป็นซีดเซียวอย่างน่าสยดสยอง รูปร่างที่สง่างามและละเอียดอ่อนอดสั่นสะท้านไม่ได้

พลังโต้กลับดังกล่าวทำให้บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลเช่นนางได้รับบาดเจ็บสาหัส! หากผู้บ่มเพาะคนอื่นได้เห็นเหตุการณ์นี้เข้า พวกเขาจะต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจอย่างแน่นอน

แต่ถึงกระนั้น นัยน์ตาของนางหดตัว พลางจ้องไปที่เฉินซีที่ยืนอยู่ในระยะไกลอย่างแน่วแน่ แล้วจึงจ้องมองลำแสงทั้งเก้าที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา และหัวใจของนางก็สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

แล้วมันปรากฏบนสารเลวจ้อยร่อยที่มาจากภพเบื้องล่างได้อย่างไร?

ความสยดสยองเสี้ยวเล็ก ๆ พลันพุ่งเข้าสู่หัวใจของเยี่ยเหยียนอย่างห้ามไม่ได้

นางตระหนักดีว่า การบรรจบกันของลำแสงทั้งเก้าลำนั้นหมายถึงอะไร

ผู้บ่มเพาะสามารถสร้างแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ภายในเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์แห่งวิญญาณของพวกเขาได้ เมื่อบรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างระหว่างแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ จะสะท้อนให้เห็นโดยลำแสงที่ปรากฏ เมื่อแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้น

ประทีปวิญญาณแห่งแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์มีทั้งหมดเก้าดวง หากลำแสงปรากฏขึ้นเพียงสามลำ นั่นหมายความว่าพรสวรรค์ตามธรรมชาติของผู้บ่มเพาะนั้นถือได้ว่าเป็นธรรมดาสามัญเท่านั้น หากปรากฏขึ้นมากกว่าสามและน้อยกว่าหกลำ ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าพรสวรรค์โดยธรรมชาติของผู้บ่มเพาะนั้นโดดเด่นอย่างมาก

หากมีลำแสงปรากฏขึ้นมากกว่าหกลำ ย่อมหมายความว่าไม่ได้พิเศษเพียงอย่างเดียว แต่บุคคลดังกล่าวนั่นถือได้ว่าอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งเกิดมาพร้อมกับวาสนาอันยิ่งใหญ่!

ในทางกลับกัน หากประทีปวิญญาณทั้งเก้าปรากฏขึ้น แสดงว่าผู้บ่มเพาะนั้นดำรงอยู่สูงสุดในหมู่อัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ และเป็นที่หาได้ยากในโลกหล้า ซึ่งอาจเป็นไปไม่ได้เลยที่พบการดำรงอยู่เช่นนั้น ท่ามกลางผู้ซึ่งเป็นเทวารู้แจ้งวิญญาณที่มีอยู่มากมาย

การดำรงอยู่เช่นนี้ถูกเรียกว่ามหาเทวาวิญญาณ!

เทวารู้แจ้งโลกาได้รับความกระจ่างจากการตรัสรู้ และพวกมันจึงถูกเรียกว่าเทวาสัจจะ

เทวารู้แจ้งวิญญาณนั่นครอบครองสิ่งที่เรียกว่าประทีปวิญญาณ และด้วยเหตุนี้พวกมันจึงถูกเรียกว่าเทวาวิญญาณ!

กล่าวง่าย ๆ ก็คือ เทวาสัจจะคือคำเรียกสำหรับผู้ที่บรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกา ส่วนเทวาวิญญาณคือคำเรียกสำหรับผู้ที่บรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ

ดังนั้นมหาเทวาวิญญาณย่อมเป็นที่ยกย่องในหมู่ผู้บรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ

นี่ไม่แสดงถึงความแข็งแกร่ง แต่แสดงถึงศักยภาพรูปแบบหนึ่ง พวกเขาเป็นอัจฉริยะจำพวกที่ได้รับการส่งเสริมจากสวรรค์และเหนือกว่าผู้บ่มเพาะทั่วไป และตราบใดที่ไม่ดับสูญก่อนเวลาอันควร พวกเขาก็จะกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในแดนเทพโบราณอย่างแน่นอน!

แต่ถึงอย่างไร ในแดนเทพโบราณทั้งหมด ผู้บ่มเพาะที่สามารถมีศักยภาพพอที่จะเป็นมหาเทวาวิญญาณได้นั้น ล้วนเป็นการดำรงอยู่ที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ซึ่งแทบจะหายากพอ ๆ กับขนวิหคอมตะและเขากิเลน

ทว่าบัดนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวดันปรากฏกับเฉินซี และใคร ๆ ก็สามารถจินตนการได้ว่าความตกใจที่เยี่ยเหยียนรู้สึกนั้นรุนแรงเพียงใด

ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อนางบรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณเมื่อหลายปีก่อน มีลำแสงปรากฏเพียงเจ็ดลำเท่านั้น แต่ในนิกายอำนาจเทวะนางก็ขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะชั้นยอดที่หาได้ยาก และยังได้รับการยกย่องจากผู้ยิ่งใหญ่มากมาย

อย่างไรก็ตาม ตามความรู้ของเยี่ยเหยียน ในบรรดาเอกภพทั้งหนึ่งพันแห่งซึ่งเป็นที่รู้จักในแดนเทพโบราณ ในทางปฏิบัติแล้ว มหาเทวาวิญญาณทั้งหมดล้วนมาจากเอกภพจักรวรรดิ

เอกภพจักรวรรดิถูกเรียกว่าเป็นหัวใจของแดนเทพโบราณ และมันลึกลับอย่างยิ่ง เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นคนที่มีวาสนามาก มิฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงการเข้าสู่เอกภพจักรวรรดิ แม้แต่การค้นพบตำแหน่งก็เป็นไปไม่ได้

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเยี่ยเหยียนตระหนักดีว่าในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา มีมหาเทวาวิญญาณเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ถือกำเนิดในเอกภพทั้งหนึ่งพันแห่ง นอกเหนือจากเอกภพจักรวรรดิ ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่มหาเทวาวิญญาณเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้น พวกเขาจะถูกนำเข้าสู่เอกภพจักรวรรดิเพื่อบ่มเพาะ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นการดำรงอยู่เช่นนั้นในโลกภายนอก

เพียงเอกภพเดียวก็มีดาราจักรอย่างน้อยสองสามร้อยหรือไม่กี่พันแห่ง ในขณะที่ทุก ๆ ดาราจักรก็มีดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วน ทว่าในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา มีมหาเทวาวิญญาณเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ถือกำเนิดขึ้น ดังนั้นตราบใดที่เราไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา ก็ย่อมเข้าใจว่าทั้งหมดนี้หมายถึงอะไร

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเยี่ยเหยียนถึงตกตะลึงและหวาดกลัวในใจขณะนี้ และด้วยการบ่มเพาะของนางที่ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล ก็ยังพบว่ายากที่จะสงบสติอารมณ์

ลำแสงทั้งเก้าลำส่องผ่านท้องฟ้าและส่องสว่างจักรวาล ความงามและความอุดมสมบูรณ์ของมันเปี่ยมไปด้วยรัศมีอันบริสุทธิ์ของเต๋า

“นั่น… นั่นคือสมบัติวิญญาณธรรมชาติ! เป็นไปได้อย่างไรที่มันไม่อาจต้านทานประทีปวิญญาณแห่งแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าที่สาดส่องออกมาจากไอ้สารเลวนั่นได้?”

ขณะที่นางจ้องมองไปที่เฉินซีซึ่งดูไร้เทียมทาน แล้วจ้องมองไปที่แหวนทองแดงมหาสุราลัยในมือที่แสงกำลังริบหรี่ลง สีหน้าพลันเปลี่ยนไปทันที ริมฝีปากที่เคยมีสีเลือดฝาดกลับกลายเป็นซีดเผือด ทั้งยังรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง

นางแน่ใจว่ามีพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นอยู่ในร่างเฉินซีอย่างแน่นอน มิฉะนั้นเฉินซีจะไม่สามารถทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน!

โอม!

ในขณะนี้ แท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นผลึกโปร่งแสงกำลังลอยหมุนวนอยู่ในจิตวิญญาณของเฉินซี และเปล่งแสงเก้าสีออกมา พวกมันเปล่งประกาย รุ่งโรจน์ บริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ และอบอวลไปด้วยรัศมีอันบริสุทธิ์ของเต๋าศักดิ์สิทธิ์

โดยเฉพาะจักรวาลภายในร่าง พลังศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้น ดวงดาวมากมายภายในนั้นเปล่งประกายเจิดจ้า และโคจรไปตามเส้นทางของยันต์เทวะอนันต์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และวิเศษยิ่ง

ฟิ่ว! ฟิ่ว!

ในขณะนี้ ประทีปวิญญาณของแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าดวงที่พุ่งออกไป พลันพุ่งกลับคืนเข้าสู่ร่างกายราวกับกระแสน้ำ

หลังจากนั้น ไม่ว่าจะเส้นเอ็นและกระดูกที่แตกหัก เนื้อหนังที่ฉีกขาด หรือจุดชีพจรที่ได้รับบาดเจ็บ… ทุกสิ่งเริ่มฟื้นฟูรักษา คืนสภาพเดิมด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ

ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ เฉินซีนั่นดูคล้ายเกิดใหม่จากเปลวไฟเหมือนวิหคอมตะ และร่างของเขาก็ปรากฏในระยะสายตาของเยี่ยเหยียนอีกครั้ง

แต่กลับไม่เหมือนเมื่อก่อน ร่างกายของเฉินซีพรั่งพรูด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ในขณะนี้ เปล่งประกายด้วยประทีปวิญญาณของแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ กลิ่นอายที่บริสุทธิ์และเป็นผลึกของเต๋าก็ม้วนวนอยู่ทั่วร่างกาย ทำให้ท่าทางไม่แยแสและนิ่งสงบ แฝงไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเหนือกว่าที่ไม่อาจมองข้ามได้

มันเป็นกลิ่นอายของมหาเทวาวิญญาณ เป็นเอกลักษณ์ ผิดปกติ ลึกซึ้ง และหาได้ยากยิ่ง

ฟิ่ว!

เฉินซีลืมตาขึ้น แววตาทอประกายลึกล้ำ สุกใส สงบ และไม่แยแส

ในขณะนี้ ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากที่ส่งเสียงพึมพำอย่างไม่หยุดยั้งภายในห้วงจิตสำนึกได้ตกสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ!

ในขณะนี้ เฉินซีได้บรรลุขอบเขตอย่างสมบูรณ์ในขณะที่ถูกไล่ต้อนจากความตาย และก้าวเข้าสู่ขอบเขตการบ่มเพาะที่สูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

เขาทำทั้งหมดนี้สำเร็จภายในเวลาไม่ถึงสองปี….

“ไอ้สารเลว ถึงเจ้าจะบรรลุขอบเขตได้สำเร็จ แต่เจ้าได้สูญเสียการปกป้องจากลำแสงทั้งเก้านั้นแล้ว ข้าไม่มีทางเชื่อว่าข้าจะไม่สามารถฆ่าเจ้าได้!” ทันทีที่ลำแสงทั้งเก้าหายกลับไปในร่างเฉินซี ดวงตาของเยี่ยเหยียนก็พวยพุ่งด้วยจิตสังหาร นางลากสังขารที่บาดเจ็บสาหัส แล้วพุ่งเข้าใส่อย่างดุเดือดอีกครั้ง

…………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]