เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของฉินเทียน ชุยหมิงกำลังจะตอบ แต่จู่ๆ ร่างของเขาก็เกิดอาการเซขึ้นมา
โชคดีที่เขาถือดาบด้ามยาวไว้ในมือ เลยยันตัวเองไม่ให้ล้มลงกับพื้นได้ทันเวลา
ฉินเทียนขมวดคิ้ว แม้ชุยหมิงจะดูผอมโซไปบ้าง แต่ด้วยความที่มีวิทยายุทธอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะอ่อนแอได้มากขนาดนี้
เขารีบเข้าไปประคองชุยหมิงทันที “นี่เป็นเพราะพิษกู่ใช่ไหม? แกประคองจนถึงที่สุดแล้วใช่หรือเปล่า?”
มิเช่นนั้นจากศักยภาพความแข็งแกร่งของชุยหมิงแล้ว ไม่น่าที่จะจนตรอกได้ถึงเพียงนี้!
ชุยหมิงถอนใจเบาเบาอย่างทำอะไรไม่ได้ “พี่เทียน การเดินทางไปครั้งนี้ ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจที่แกมอบให้จนสำเร็จได้”
“แม้จะตัดหัวของไอ้โล้นคนนั้นได้สำเร็จ แต่กลับปล่อยให้อาหนูคนนั้นหนีไปได้”
“ส่วนฉันเป็นเพราะประมาทจนเกินไป จนได้รับพิษของพิษกู่”
“ตอนนั้นฉันเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก คิดว่าแค่โดนแมลงทั่วๆ ไปกัด เลยรีบกลับไปที่อุทยานมังกร แต่ทราบมาว่าแกเดินทางไปเหิงหลิ่งแล้ว”
“ก่อนที่ฉันจะตามไล่ฆ่าอาหนูนั้น เขาทิ้งคำพูดโอหังอวดดีไว้ว่า ให้ฉันมารนหาที่ตายที่เหิงหลิ่งฉันเลยรู้สึกว่าสถานการณ์มันแปลกๆ เลยรีบเดินทางมาที่นี่”
“อาหนู? คงไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่โดนพี่เทียนเตะจนตายเมื่อครู่นี้หรอกใช่ไหม?”
หม่าหงเทารีบถามต่อว่า “อาหนูที่แกหมายถึง ใช่คนที่ผมสีแดงทั้งหัวหรือเปล่า?”
“อ่อ จริงด้วย ซูเหวินเฉิงเคยบอกว่า ตอนที่เขาอยู่ที่เมืองไพ่ เขาถูกอาหนูทำร้าย และถูกแมลงพิษด้วยเหมือนกัน”
“เมื่อครู่ที่อาหนูผู้นั้นจู่ๆ ก็สามารถควบคุมซูเหวินเฉิงไว้ได้ ไอ้นั้นทำตัวราวกับคนบ้า แถมยังลงมือกับพี่เทียนของพวกเราอีก!”
พูดพลาง หม่าหงเทาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ลานบ้าน ถึงได้พบกับซูเหวินเฉิงที่สลบเหมือดอยู่บนพื้น
เขามีก้อนเนื้อขนาดเท่ากำปั้นอยู่ที่แผ่นหลัง และเห็นได้ชัดว่ามีสิ่งของบางอย่างขยุกขยิกอยู่ในนั้นด้วย
หม่าหงเทานึกถึงหนอนสีขาวยั้วเยี้ยเมื่อครู่นี้ เลยรู้สึกสยดสยองอย่างบอกไม่ถูก
เขาถอยหลังไปครึ่งก้าว และกระแอมอยู่ในลำคอ “ไอ้หมอนี้ คงไม่ใช่ว่าถูกแมลงประหลาดเมื่อครู่นี้กัดเข้าให้แล้วนะ?”
ตอนที่นกเค้าแมวตัวนั้นถูกโจมตี มีแมลงพิษระเบิดออกมาฝูงหนึ่ง
ตอนนั้นฉินเทียนและพวกของเขาต่างสาละวนกับการขับไล่แมลงพิษพวกนั้น จนลืมไปว่าซูเหวินเฉิงเองก็ถูกหนอนกู่ควบคุมอยู่เหมือนกัน
ชุยหมิงแค่หันไปมองดูแผ่นหลังของซูเหวินเฉิงเพียงแวบเดียว เขาก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ถูกต้อง เขาก็ถูกแมลงประหลาดนั้นกัดเข้าให้แล้วเหมือนกัน ไม่สิ ควรพูดว่า ถูกแมลงประหลาดนั้นกัดเจาะเข้าไปที่แผ่นหลังของเขาต่างหาก”
“เพราะที่หลังของฉันก็มีก้อนเนื้อแบบนี้เหมือนกัน แถมยังมีขนาดใหญ่กว่าของเขาอีกด้วย”
สายตาอันตกตะลึงของฉินเทียน ส่งสัญญาณให้ชุยหมิงหันกลับมา “ฉันขอดูหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ชุยหมิงหันกลับมาด้วยท่าทีอ่อนแรงเล็กน้อย ที่ไหล่ขวาด้านหลังของเขา มีก้อนเนื้อก้อนหนึ่งจริงๆ
ขนาดของก้อนนั้นเมื่อเทียบกับของซูเหวินเฉิงแล้ว มีขนาดใหญ่กว่าเป็นสองเท่า เหมือนกับศีรษะของเด็กเล็กๆ อย่างไรอย่างนั้นเลย
ก้อนเนื้อก้อนนั้นโผล่ออกมาจากเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งของชุยหมิง และกำลังเคลื่อนไหวไปมา เห็นได้ชัดว่ามีสิ่งของบางอย่างขยุกขยิกอยู่ในนั้นด้วย
“นี่มันตัวอะไรกันแน่? ฉันจะเฉือนมันออกมาเอง!เหล่าชุย แกอดทนหน่อยนะ!”
หม่าหงเทาไม่สามารถทนดูของสิ่งนี้ต่อไปได้ เขาเงื้อมีดม้งในมือขึ้น คิดจะเฉือนเอาก้อนที่ขวางหูขวางตานั้นออกมา
สำหรับเขาแล้ว ของสิ่งนี้มันก็เหมือนกับเนื้องอก
เจ็บระยะสั้นดีกว่าเจ็บระยะยาว แค่เฉือนมันทิ้งซะ บางทีอาจจะปลอดภัยก็ได้
“ช้าก่อน”ฉินเทียนขวางหม่าหงเทาเอาไว้ “มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก การกระทำอันผลีผลาม อาจจะทำให้สัมผัสกับพิษกู่ก็เป็นได้”
“ตอนนี้พวกมันอยู่ในร่างของชุยหมิง พวกมันแค่ถูกกระตุ้นแต่ไม่ได้ถูกปล่อยออกมา แม้ว่ามันจะดูน่าขยะแขยงไปบ้าง อย่างน้อยก็ยังปลอดภัยเป็นการชั่วคราว”
“หากมันถูกสะกิดแล้วหล่ะก็ คงเหมือนเป็นการจุดชนวน และไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า จากนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น!”
เมื่อฉินเทียนพูดจบ เขาก็ประคองชุยหมิงให้นั่งลง “ฉันช่วยสกัดการกระจายตัวของพิษกู่เป็นการชั่วคราวให้แกนะ แต่ถ้าอยากกำจัดมันออกไปให้หมด คงต้องหาคนที่เป็นคนทำแมลงพิษนี้ขึ้นมาให้ได้”
“ยังต้องบอกอีกหรือ? คนที่วางยาพิษกู่ให้ชุยหมิง เป็นอาหนูคนนั้นแน่นอน!”
“แต่เขาตายไปแล้ว คนตายจะถอนพิษกู่ได้ยังไงกัน!”
“ใช่ ฆ่าพวกมันให้ราบเป็นหน้ากลอง!”
หม่าหงเทาและชุยหมิงพยักหน้าอย่างจริงจัง ในใจของพวกเขาอัดอั้นความโกรธเอาไว้ จนอึดอัดไปทั้งตัวแล้ว
มีเพียงเลือดล้าง ตระกูลฉีเท่านั้น ถึงจะสามารถดับความโกรธในใจนั้นไปได้!
“เหล่าชุย ฉันประคองแกเอง คืนนี้พวกเราพักห้องเดียวกัน พูดคุยกันดีกว่า”
หม่าหงเทาพูดจบก็เข้าไปประคองชุยหมิง
ทันทีที่เขายื่นมือเข้ามา ก็ถูกชุยหมิงใช้ด้ามมีดกันไว้ “ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย ทำไมต้องประคองด้วยเล่า!”
“ไม่ต้องลำบากหรอก ต่อให้ทำร้ายฉันชุยหมิงจนซี่โครงหักไปหลายท่อน ก็อย่าคิดว่าฉันจะก้มหัวให้!”
“ตกลงตกลงตกลง ตามใจแกแล้วกัน” หม่าหงเทาหัวเราะและเดินตามไป “ไปเถอะ พวกเราไปดื่มกันดีกว่า คืนนี้ฉันเห็นแมลงพวกนี้จนจะอ้วกอยู่แล้ว”
ทั้งสองเดินโซเซกันออกไปฉินเทียนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำครึ้ม ทำท่าเหมือนคิดอะไรในใจ
เขาเดินไปอยู่ข้างๆ ซูเหวินเฉิงโดยไม่รู้ตัว และใช้วิธีเดียวกันกับเมื่อครู่นี้ เอากุ่ยเหมินสิบสามเข็มฝังลงบนตัวของซูเหวินเฉิง
รอจนแน่ใจว่าก้อนที่อยู่บนตัวของซูเหวินเฉิงไม่ขยับแล้วฉินเทียนจึงได้นำเขาเข้าไปในห้องของซูเป่ยซาน และใช้เชือกมัดซูเหวินเฉิงไว้กับเสา
ที่ต้องทำเช่นนี้เป็นเพราะว่า แม้ซูเหวินเฉิงจะได้รับการสกัด พิษกู่เอาไว้เป็นการชั่วคราวแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ได้ว่า หลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาอีก
มัดเอาไว้แบบนี้แม้จะดูน่าอายอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เขาใช้ความโง่เขลาทำร้ายตัวเอง
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉินเทียนเหลือบไปมองห้องของหม่าหงเทา
ภายในห้องยังเปิดไฟอยู่ เงาของหม่าหงเทาและชุยหมิงอยู่บริเวณหน้าต่าง น่าจะกำลังคุยอะไรกันอยู่
บางครั้งยังได้ยินเสียงหัวเราะของหม่าหงเทาออกมา
ฉินเทียนหัวเราะตามไปด้วย เขาลอยตัวกระโดดขึ้นไปบนกำแพง และข้ามกำแพงนั้นออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...