เธอค่อย ๆ ฉีกยิ้มออกมาจากริมฝีปาก “ต้องขออภัยที่เป็นเหตุให้ในการช้อปปิ้งของวันนี้ต้องมัวหมอง และเพื่อเป็นการชดเชย ฉันขอมอบส่วนลด 20% สำหรับเครื่องประดับทั้งหมดในร้าน”
ลูกค้าที่ยังยืนอยู่ในร้านต่างพากันดีใจ อันที่จริงแล้ว ลูกค้าที่มาที่ร้านนี้มีความชื่นชมในตัวนักออกแบบอย่างมาเดลีนอยู่แ้ลว
มาเดลีนยิ้มกว้างและจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้กับลูกค้าของตัวเอง หลังจากเสร็จเรียบร้อย เธอเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปยังรถที่ลานจอดรถ
เธอขับรถไปยังที่ที่เธอคุ้นเคยมากที่สุด
เธอรออยู่สิบนาทีก่อนที่จะเห็นโรสและจอห์นเดินผ่านไป ในขณะที่ก่อนหน้านั้นได้พูดคำหยาบสาปแช่งในทุกลมหายใจเข้าออกของพวกเขา
มาเดลีนยิ้มเยาะและรีบเหยียบคันเร่งตรงไปทางพวกเขา
ขณะที่จอห์นและโรสได้ยินเสียงรถเร่งเข้ามาใกล้พวกเขา พวกเขาได้เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็เห็นว่ารถคันสีขาวกำลังวิ่งมาทางพวกเขา
ความเร็วของรถแล่นเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ลดความเร็วลง
ทังจอห์นและโรสรู้สึกว่าวิญญาณของพวกเขาต่างพากันออกจากร่าง พวกเขาไม่สนใจสิ่งอื่นใดและต้องการออกจากที่นั่น
เพราะว่าทุกอย่างมันสายเกินไป รถอยู่ห่างจากพวกเขาประมาณอีกแค่เพียงครึ่งเมตร และจะชนพวกเขาในวินาทีถัดมา
"อ๊าก!" โรสกรี๊ดร้องด้วยความกลัวและล้มลงบนพื้น
วินาทีถัดมา พร้อมกับเสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นรถสีขาวก็ได้หยุดนิ่งลงตรงหน้าพวกเขา
โรสและจอห์นใจหายและสูดเอาอากาศเข้าปอด ทั้งสองยังอยู่ในสภาพที่ตื่นตระหนก ในนาทีที่พวกเขาเห็นประตูรถเปิดออก โรสตัดสินใจที่จะรีดไถเงินจากคนขับเป็นเงินจำนวนหนึ่ง เธอเริ่มตะโกนใส่บุคคลที่เปิดประตูลงมา
“แน่ใจนะว่าขับรถเป็น? อย่าขับเลยถ้ารู้ว่าขับไม่เป็น! คุณจ่ายเงินรับผิดชอบเรื่องนี้ไหวเหรอที่พุ่งรถมาทางฉัน? คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? คุณรู้ไหมว่าใครเป็นลูกเขยของฉัน?”
“ก็ที่ฉันกล้าทำแบบนี้ก็เพราะรู้ว่าเธอเป็นใคร” น้ำเสียงเรียบง่ายที่มาเดลีนเอ่ยพูดเข้ามาในหูของทั้งโรสและจอห์น
ทั้งสองมองเธอด้วยความตกใจ
“วี-วีล่า?”
มาเดลีนปิดประตูรถแบบไม่ใส่ใจก่อนจะก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าจอห์นและโรสอย่างไม่สนใครหน้าไหน
มาเดลีนเปิดแอปส่งข้อความไว้ก่อนที่จะเดินตามพวกเขาไป
บ้านหลังนี้ยังคงเหมือนเดิม แต่การแต่งเสริมเติมแต่งนั้นแตกต่างออกไป
สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเมเรดิธได้สูบเงินรับผลประโยชน์มากมายจากตระกูลมอนต์โกเมอรีมันช่างมากมาย
มาเดลีนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ขณะที่จอห์นกับโรสเข้าไปในครัว พวกเขาบอกว่ากำลังจะชงชามาให้เธอ
ทันทีที่พวกเขาพากันเข้าไปในครัว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของโรสได้หายวับไป ดวงตาของเธอทอประกายประกายวาววับในขณะที่เธอหยดยาฆ่าแมลงลงในชา
“หืม ใครใช้ให้เธอหยิ่งกันนักล่ะ? ฉันจะทำให้เธอไม่มีโอกาสที่จะพูดอะไรออกมาอีก!”
เธอเอาช้อนคนให้ข้ากันในขณะที่ยิ้มกรุ่มกริ่ม ก่อนที่จะยื่นชาแก้วนั้นให้มาเดลีนอย่างนอบน้อม “คุณควินน์ ใบชานี้เราสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ รสชาติของมันมีความเป็นเอกลักษณ์และหอมมาก ถ้าไม่รังเกียจ ลองชิมสักนิด”
มาเดลีนหยิบถ้วยชาขึ้นมาในขณะที่รอยยิ้มยังคงมีอยู่ เธอดมชานั้นแล้วพูดออกมาว่า “มันมีกลิ่นที่พิเศษมาก ถูกต้องแล้ว ฉันจะต้องชิมชาถ้วยนี้แน่นอน”
เธอพูดพร้อมยกถ้วยชาขึ้น จากนั้นก็ยกมันเข้าไปใกล้ริมฝีปากของเธอมากขึ้นกว่าเดิมเรื่อย ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...