ฌอนมองมาเดลีนด้วยความสงสัยทั้งหมดที่มี
“ทำไมเธอถึงพาภรรยาของฉันมาส่งที่โรงพยาบาลได้ วีล่า?”
“นั่นก็เพราะว่า…”
มาเดลีนกำลังคิดหาคำอธิบายตัวเองแต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงสะอื้นออกมาจากข้างในห้องพักฟื้นผู้ป่วย
สีหน้าของฌอนเปลี่ยนไปเป็นความวิตกทันทีและเขารีบหันหลังเข้าไปในห้องอย่างไม่รอคำตอบ
มาเดลีนสูดเอาลมหายใจเข้าลึกที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ก่อนจะพาตัวเองเดินเข้ามาในห้องและทำเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติไป
เอโลอิสรู้สึกตัวในตอนนี้และวินาทีแรกที่เธอลืมตาขึ้นมาเธอร้องไห้ออกมาทันที
ฌอนเดินเข้าไปถามเธอด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรไปเอลลี่? มีอะไรที่ทำให้คุณเศร้าขนาดนี้?”
ในตอนนั้นเองดูเหมือนว่าเอโลอิสจะรับรู้ถึงการปรากฏตัวของฌอนในตอนนี้ เธอมีดวงตาที่แดงก่ำจากการร้องไห้เงยหน้าขึ้นมองเขา ภายในสายตาของเธอในตอนนี้มีความความเจ็บปวดที่ไม่สามารถเยียวยาและรักษาได้อยู่ในนั้น
“ทำไมสวรรค์ต้องลงโทษเราแบบนี้ ฌอน? ทำไม…”
น้ำเสียงของเธอกำลังสั่นเครือในขณะที่น้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาจากดวงตาราวกับไข่มุก
ในสถานการณ์ตอนนี้ ฌอนรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรง
“คุณกำลังพูดอะไร เอลลี่? อย่าร้องไห้ ทำใจให้สบาย แล้วบอกผมมา”
เอโลอิสหัวเราะคิกคักกับตัวเองท่ามกลางน้ำตาของเธอและมองไปเพื่อสบตาเข้ากับสายตาฌอนที่กำลังจ้องเธอแบบมีความหมายกับหน้าไร้สีบนใบหน้าเธอ จากนั้น เธอหยิบจี้ในกระเป๋าออกมา
“ฉันเจอลูกสาวของเราแล้ว ฌอน”
“อะไรกัน? ดีไปเลย! คุณเจอเธอจริง ๆ แล้วเหรอ?” ความกังวลในการแสดงออกของฌอนถูกแทนที่ด้วยความตื่นเต้น “แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกัน? เอลลี่ ลูกสาวของเราอยู่ไหน?”
ฌอนกดดันเธออย่างไม่สามารถรอคำตอบได้ในขณะที่เอโลอิสหลับตาลงพร้อมกับความเจ็บปวด
“เธอตายไปแล้วล่ะ”
“อะ-อะไร? ตาย?” ฌอนรู้สึกโลกของเขากำลังพังทลาย
“แล้วพวกเราเองมีส่วนร่วมในการฆ่าเธอ…” เอโลอิสมีสายตาสำนึกผิด “มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด เป็นลูกสาวของเรา…”
“ฉันหาเหตุผลให้มันได้แล้วว่าทำไมโรสถึงบอกว่าลูกสาวของเราเสียชีวิตเมื่อสามปีที่แล้ว ตอนนั้นคงเป็นตอนที่มาเดลีนทิ้งเราไป ใช่ไหม…”
เอโลอิสเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง ในขณะที่ความเสียใจกำลังกัดกินหัวใจเธอ
“โอ้ ฉันภาวนาเพื่อที่จะได้เจอลูกของตัวเองตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะดุด่า และทำร้ายเธออย่างนั้นเหรอ ฉันทำร้ายลูกตัวเองเพื่อปกป้องผู้หญิงที่น่าสมเพชคนนั้น ฉันเป็นแม่แบบไหน?”
มือที่สั่นเทาของเธอกำลังยกขึ้นอยู่ตรงหน้า เอโลอิสไม่เคยเกลียดมือคู่นี้ของตัวเองเท่านี้มาก่อน
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอใช้มือคู่นี้ของเธอตบลูกตัวเองไปกี่ครั้งเพราะเห็นแก่เเมเรดิธ
ช่วงเวลาที่กะทันหันเช่นนี้ ท่าทางของเอโลอิสได้เปลี่ยนไปเธอดูหุนหันพลันแล่น โดยการลุกออกจากเตียงและรีบวิ่งไปที่ระเบียงของโรงพยาบาล
ฌอนวิ่งตามเธอไปติด ๆ ด้วยความกลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น “เอลลี่! เอลลี่ คุณกำลังทำอะไร?”
“ความตาย ความตายเท่านั้นที่จะสามารถบรรเทาความเจ็บปวดของฉันให้น้อยลงได้ ฌอน! คิดย้อนกลับไปสิในสิ่งที่เราเคยทำกับลูกสาวของเราเอาไว้ ฉัน… ทำไมฉันถึงไม่สามารถเป็นคนที่ตายแทนเธอ?”
หลังจากจบคำ เอโลอิสหันหน้าหนีเพื่อเตรียมตัวจะกระโดดลงไป
มาเดลีนเร่งตัวเองไปข้างหน้าในขณะที่เอโลอิสที่กำลังจะตกลงไป “ไม่! คุณแม่ อย่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...