จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 137

หยุนถิงรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง ยื่นมือไปจับมือของจวินหย่วนโยวเอาไว้“วางใจเถอะซื่อจื่อ ข้าไม่เป็นไร”

“เด็กโง่ ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก” จวินหย่วนโยวออกคำสั่งอย่างไม่ยอมให้มีข้อกังขา

“ตกลง ฟังคำท่าน” หยุนถิงอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของเขา

“พิษนั่นไม่มีผลกระทบต่อเจ้าจริงหรือ?” จวินหย่วนโยวเป็นห่วงอย่างมาก

พิษที่สามารถทำให้โม่เหลิ่งเหยียนใช้ในโต๊ะหมายเลขเก้าได้ แสดงให้เห็นว่าเป็นพิษที่ร้ายแรงและมีอำนาจควบคุมอย่างมาก ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย

“ฮูหยิน ท่านกระอักเลือดเลยนะ?” หลงเอ้อที่อยู่ด้านนอกรถม้า มองเข้ามาอย่างด้วยความเป็นห่วง

“วางใจเถอะ นั่นเพราะข้าดื่มยาถอนพิษมากไป พิษนี้ดุร้ายและมีอำนาจควบคุมอย่างมาก ดังนั้นถึงได้กระอักเลือดออกมา แต่ว่าพอกระอักเลือดออกมาก็ไม่เป็นไรแล้ว ก็แค่เวียนหัวนิดหน่อย” หยุนถิงอธิบาย

“ฮูหยิน ท่านเก่งกาจมากจริงๆ” หลงเอ้อนับถืออย่างมาก

เซียนพนันยังเสียชีวิตในทันที ฮูหยินกลับไม่เป็นอะไรเลย น่าทึ่งมากจริงๆ

“เจ้าดื่มยาถอนพิษตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” จวินหย่วนโยวถาม

ตั้งแต่พวกเขาไปที่บ่อนพนัน ก็ไม่เคยจากไปเลย นังหนูคนนี้ยิ่งเล่นพนันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อตลอดทาง ไม่มีโอกาสที่จะดื่มมันเลย

“ดื่มตอนเช้าน่ะ ถึงแม้ใบหน้าของข้าจะฟื้นฟูแล้ว แต่ว่าสารพิษในร่างกายยังไม่ถูกกำจัดออกไป ทุกวันตอนเช้าก็จะลุกขึ้นมาดื่ม เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะแก้พิษนี้ได้พอดี” หยุนถิงหาข้ออ้าง จะให้นางบอกว่าตัวเองไปดื่มในมิติคงไม่ได้ใช่ไหม

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง งั้นเจ้ารีบพักผ่อนเถอะ” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยความเอ็นดูสงสาร

หยุนถิงร่างกายอ่อนแรงเล็กน้อยจริงๆ อิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของจวินหย่วนโยวแล้วก็หลับตาลง จนกระทั่งรถม้ามาถึงจวนซื่อจื่อ หยุนถิงก็ยังไม่ตื่น จวินหย่วนโยวอุ้มนางตรงไปหาท่านลั่วที่ลานหลัง

“นังหนูขี้เหร่คนนี้เป็นอะไรไป?” ท่านลั่วถาม

“นางถูกพิษ ดื่มยาแก้พิษไปแล้ว ระหว่างทางที่กลับมาบอกว่าเวียนหัว แต่จู่ๆเมื่อครู่นี้กลับเรียกไม่ตื่น” จวินหย่วนโยวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคร่าวๆ

ท่านลั่วฟังจนเคราสั่นไปสามครั้ง ช่วยหยุนถิงจับชีพจรทันที“อยู่ดีๆไปท้าประลองกับเซียนพนันทำไมกัน พิษกร่อนวิญญาณเป็นพิษร้ายแรงที่ร้ายแรงที่สุด หยดเดียวเมื่อพบกับเลือดก็จะทำให้หายใจไม่ออกทันที ทำไมเจ้าถึงให้นังหนูนี่ดื่มเข้าไปได้?”

“เป็นความผิดของข้าเอง” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างตำหนิตัวเองและรู้สึกผิด

นานพักใหญ่ สีหน้าที่ตึงเครียดของท่านลั่วถึงได้ผ่อนคลายลง“วางใจได้ สารพิษในร่างกายของนังหนูนี่ถูกขับออกไปแล้ว ลมหายใจก็คงที่มากแล้ว สาเหตุที่นางเรียกไม่ตื่นน่าจะเป็นเพราะสารพิษที่ตกค้างอยู่ ถึงอย่างไรพิษกร่อนวิญญาณก็มีอำนาจควบคุมเกินไป คาดว่าหมดสติไปสองสามวันก็สามารถตื่นขึ้นมาแล้ว สองสามวันนี้ข้าจะช่วยฝังเข็มอังความร้อนล้างพิษให้นาง อย่างมากสามวันก็สามารถตื่นขึ้นมาได้”

“ขอบคุณท่านลั่วมาก”

นานพักใหญ่ หลังจากที่ท่านลั่วฝังเข็มอังความร้อนเสร็จแล้ว จวินหย่วนโยวก็อุ้มหยุนถิงกลับไปในลานของตัวเอง วางนางเอาไว้บนเตียงนอน ช่วยนางคลุมผ้าห่ม

จวินหย่วนโยวจับมือของหยุนถิงเอาไว้“หยุนถิง เจ้าต้องรีบตื่นมาเร็วๆนะ”

หยุนถิงนอนหลับไปเช่นนี้ ก็หลับไปถึงสามวัน จนกระทั่งตอนเที่ยงของวันที่สามถึงได้ตื่นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตาก็มองเห็นท่านลั่ว หยุนถิงสะดุ้งตกใจ

“ตาเฒ่า ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่?”

“ย่อมมาช่วยฝังเข็มอังความร้อนให้เจ้าอยู่แล้ว นังหนูอย่างเจ้านอนหลับไปถึงสามวันแล้ว หากไม่สามารถตื่นขึ้นมาอีก จะไม่เสียชื่อหมอผีอย่างข้าหรอกหรือ” ท่านลั่วเบะปาก

หยุนถิงเห็นเข็มที่อยู่บนแขนของตัวเอง ถึงได้ตอบสนองกลับมา กวาดตามองภายในห้องครู่หนึ่ง มองไม่เห็นจวินหย่วนโยว

“ซื่อจื่อของข้าล่ะ?”

“เจ้าหมอนั่นเฝ้าเจ้าไปสามวันสามคืนแล้ว รู้ว่าเจ้าจะตื่นมาวันนี้ เขาไปยกอาหารมาให้เจ้า” ท่านลั่วตอบคำถาม

“ถือว่านังหนูอย่างเจ้ายังมีมโนธรรม ข้าจะกลับไปลองเดี๋ยวนี้แหละ” ท่านลั่วกอดอุปกรณ์ชุดนั้นเอาไว้แล้วจากไปเลย

จวินหย่วนโยวก็ยกอาหารเข้ามา เมื่อเห็นว่าหยุนถิงตื่นแล้ว ก็ดีใจอย่างมาก“เจ้าตื่นแล้วหรือ รู้สึกอย่างไรบ้าง ท่านลั่วล่ะ ตอนที่ข้าจากไปเมื่อครู่นี้เขายังอยู่เลยนี่นา?”

“โชคดีที่ได้ท่านลั่วช่วยข้าฝังเข็มอังความร้อน ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ข้ามอบอุปกรณ์ให้ท่านลั่วชิ้นหนึ่ง เขาเอากลับไปศึกษาแล้ว” หยุนถิงกล่าวอธิบาย

จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา คว้าหยุนถิงเข้ามากอดเอาไว้แน่นในอ้อมแขน

ได้กลิ่นสดชื่นจางๆที่คุ้นเคยจากร่างกายของนาง รู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของนาง จวินหย่วนโยวถึงได้รู้สึกว่าในที่สุดหัวใจของตัวเองก็เต้นเสียที

“ช่างดีจริงๆที่เจ้าไม่เป็นไร”

หยุนถิงรู้สึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของซื่อจื่อ ซาบซึ้งใจอย่างมาก และก็รู้ว่าครั้งนี้ตัวเองทำเกินไปหน่อย ดึงดันจะทำให้ได้ทำให้ซื่อจื่อเป็นห่วงเช่นนี้

“ซื่อจื่อ ต่อไปข้าจะฟังท่านทุกอย่าง รับรองว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีก” หยุนถิงยื่นมือออกไปกอดจวินหย่วนโยวเอาไว้เช่นกัน

“ดี” ทั้งสองคนกอดกันแน่น

จวินหย่วนโยวกินข้าวกับหยุนถิง ทั้งสองคนก็ไปแอบแดดในลาน

วันนี้เป็นวันที่สาม โม่เหลิ่งเหยียนส่งตั๋วเงินมาที่จวนซื่อจื่อตามสัญญา เดิมทีเขาก็ไม่ได้อยากจะมา แต่เขาอยากเห็นมากกว่าว่าหยุนถิงไม่กลัวพิษกร่อนวิญญาณจริงหรือไม่ ดังนั้นก็เลยมาด้วยตัวเอง

จวินหย่วนโยวอธิบายต่อยามเฝ้าประตูเอาไว้แล้ว คนของโม่เหลิ่งเหยียนมาให้ปล่อยเข้ามาเลยโดยตรง มาส่งเงินไม่จำเป็นต้องรายงาน

ทันทีที่โม่เหลิ่งเหยียนเข้ามาก็เห็นจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงในลาน ทั้งสองคนนอนอยู่บนเก้าอี้เอนหลัง หลับตาพักผ่อน ใครก็ไม่ได้พูดอะไร แต่มือของทั้งสองคนกลับกุมเอาไว้ด้วยกัน แสงแดดที่อบอุ่นสาดส่องลงมาบนร่างกายของทั้งสองคน ความอบอุ่นเช่นนั้น เรียบง่าย สวยงาม มีความรู้สึกเป็นช่วงเวลาที่สงบสุข โม่เหลิ่งเหยียนมองอย่างตกอยู่ในภวังค์เล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ