จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 169

สระน้ำพุร้อนที่กว้างใหญ่เงียบลง หยุนถิงเหล่มองเป่ยหมิงฉี่ พอเห็นเขาอยู่นิ่งไม่ทำอะไร ถึงถอนหายใจโล่งอก

เธอกลับลงสระน้ำพุร้อน ช่วยฝังเข็มให้จวินหย่วนโยวต่อ พวกหลงเอ้อร์ยืนอารักขาอยู่ข้างๆ สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก

เป่ยหมิงฉี่สงบนิ่งลง สายตายามที่มองไปทางองค์ชายสี่ วาบผ่านแววคมปลาบและเย็นเยือก

องค์ชายสี่ผู้นี้ไม่ชอบมาพากล ทั้งสี่แคว้นย่อมรู้ดีว่าองค์ชายสี่ร่างกายแข็งแรงราววัวควาย จะอ่อนแอถึงขั้นนี้ได้อย่างไร

แต่หากบอกว่าเขาคือจวินหย่วนโยว แล้วทางหนองน้ำเย็นนั่นจะอธิบายอย่างไร เพราะหลิงเฟิงและรั่วจิ่งเป็นองครักษ์คุ้มกันข้างกายจวินหย่วนโยว เมื่อคืนสำนักราตรีทำพลาด สูญเสียหนักนัก มันทำให้เป่ยหมิงฉี่ไม่เข้าใจจริงๆ

เดิมเขายังอยากจะเลียบเคียงดู ตอนนี้กลับเป็นแบบนี้ ทำให้เป่ยหมิงฉี่หมดอารมณ์

หากไร้ซึ่งชีวิตแล้ว จะเลียบเคียงอะไรอีกล่ะ

มีคนจะมาแช่น้ำพุร้อนเป็นระยะๆ แต่ก็โดนสถานการณ์ทางนี้ทำเอาตกใจ รีบถอยไปกันหมด

สระน้ำพุร้อนกว้างขวางเพียงนี้ เงียบจนน่าประหลาด โม่เหลิ่งเหยียนเงียบอยู่ตลอด แต่กลับมองมาทางหยุนถิงเป็นระยะๆ

พอเห็นนางจับชีพจร ฝังเข็มจวินหย่วนโยว พลางป้อนของที่มีสีสันให้เขาเป็นระยะๆ ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ยิ่งสงสัยหนักขึ้น

จวินหย่วนโยวรักใคร่หยุนถิงเพียงนี้ หรือเพราะฝีมือการแพทย์ของนาง หรือว่าสตรีนางนี้สามารถช่วยจวินหย่วนโยวถอนพิษได้?

โม่เหลิ่งเหยียนกำลังคิด ก็เห็นจวินหย่วนโยวพลันเจ็บปวดเหลือคณา พยายามดิ้นรนอย่างรุนแรง แต่กลับโดนคนรับใช้สองคนข้างกายกดแขนไว้แน่น จากนั้นเข็มเงินในมือหยุนถิงฝังลงไปอย่างรวดเร็ว ดูเชี่ยวชาญยิ่งนัก

“อ๊าก!” จวินหย่วนโยวคำรามเสียงต่ำ กระอักเลือดออกมา

พอเห็นเลือดสีดำนั่น โม่เหลิ่งเหยียนยิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้น

นี่ต้องโดนพิษร้ายแรงขนาดไหนกัน ถึงกระอักเลือดสีดำ เขายิ่งแน่ใจว่า คนตรงหน้าต้องเป็นจวินหย่วนโยวแน่

เลือดสีดำกระอักออกมา หยุนถิงยกมือขึ้นปัดไปปัดมา สีดำพลันหายไปไม่เหลือเลย แค่พริบตาเดียว หากมิใช่เห็นกับตาตัวเอง โม่เหลิ่งเหยียนคงคิดว่าตนเห็นภาพลวงตาแน่

สตรีผู้นี้มีฝีมืออยู่บ้างจริงๆ

“อ๊าก!” หลังจากจวินหย่วนโยวคำรามเสียงต่ำ พลันกระอักเลือดหลายคำ ก็เป็นลมสลบไป

“นายท่าน!” หลงเอ้อร์เรียกอย่างลืมตัว

“มิเป็นไร เลือดพิษของเขาออกมาหมดแล้ว ร่างกายอ่อนแอเกินไป ทนรับความร้ายกาจของพิษนี้ไม่ไหวถึงได้เป็นเช่นนี้ พาเขากลับไปพักผ่อนเถอะ” หยุนถิงเฝ้าดู พลางเก็บเข็มเงินบนตัวจวินหย่วนโยวกลับมา

หลงเอ้อร์กับองครักษ์พากันลอบถอนหายใจ และยิ่งเลื่อมใสในตัวหยุนถิง

พวกเขาสองคนก็รีบมาดึงจวินหย่วนโยวขึ้นจากน้ำ และหามซื่อจื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หยุนถิงเก็บเข็มเงินเข้ามาทั้งหมด พลางถอนหายใจ ลุกขึ้นทำท่าจะจากไป

ตอนนี้เสื้อผ้าบนตัวเธอเปียกชื้นหมดแล้ว จู่ๆลุกขึ้นมาจากสระน้ำพุร้อน พอลมพัดมา เธออดตัวสั่นเทาด้วยความหนาวไม่ได้

เป่ยหมิงฉี่เหล่ดู ตัวแข็งค้างทันที “เจ้า เจ้าเป็นสตรี?”

หยุนถิงมองบนใส่เขา “ใช่ ไท่จื่อแห่งแคว้นหนึ่งอย่างท่านกลับมาพ่ายแพ้ให้สตรีผู้หนึ่ง ขายขี้หน้าพอดูนะ”

สีหน้าเป่ยหมิงฉี่ไม่น่าดูยิ่งนัก โดนคนเหยียดหยามต่อหน้า และยังโดนสตรีผู้หนึ่งเหยียดหยาม เขาแค้นจนแทบอยากมุดรูหนี น่าขายหน้ายิ่งนัก

“น่าตายนัก นั่นเพราะเจ้าลอบทำร้าย ข้าไม่ทันตั้งตัวเท่านั้นเอง” เป่ยหมิงฉี่ย้อนกลับ

“หากมิใช่ไท่จื่อคิดไม่ซื่อเอง คิดลอบทำร้ายองค์ชายสี่ ข้ามีหรือจะลงมือกับท่านได้” หยุนถิงย้อนถาม

คำพูดเดียวทำเป่ยหมิงฉี่ใบ้กินพูดไม่ออก

น่าตายนัก ต้องโทษเขาเองที่ประมาทไปหน่อย

พอเห็นหยุนถิงจะจากไป เป่ยหมิงฉี่ร้อนใจนัก “หญิงน่าตาย ข้าจะทำยังไง เจ้ายังไม่ได้ถอนพิษให้ข้าเลยนะ?”

พอเห็นนางสีหน้าซีดเผือด ริมฝีปากเม้าแน่น ร่างกายเย็นเยียบยิ่งนัก มุมปากคล้ายมีรอยเลือดจางๆ โม่เหลิ่งเหยียนยิ่งครุ่นคิดหนัก

หรือว่าเมื่อครู่ได้รับบาดเจ็บ?

โม่เหลิ่งเหยียนอุ้มหยุนถิงขึ้นมา และถึงพบว่านางผอมมากเบามาก ไม่มีน้ำหนักเลย

องครักษ์ที่ทำความสะอาดด้านข้างพอเห็นดังนั้น รีบพุ่งเข้ามาทันที “ถวายบังคมซวนอ๋อง ขอซวนอ๋องโปรดมอบคนให้ข้าน้อยเถอะ”

ดวงตาดำขลับคมปลาบของโม่เหลิ่งเหยียนปรายมองเขา “เจ้าก็เป็นคนของจวินหย่วนโยว?”

“ขอรับ!” องครักษ์ตอบอย่างนอบน้อม

“นำทางเถอะ” โม่เหลิ่งเหยียนแค่นเสียงเย็น ไม่ได้มอบหยุนถิงให้เขา แต่กลับเดินตรงไปข้างหน้า

องครักษ์อึ้ง ได้สติกลับมารีบตามไปทันที

นี่ฮูหยินของเขานะ ซวนอ๋องเป็นคู่ปรับกับซื่อจื่อมาแต่ไหนแต่ไร เขากลับอุ้มฮูหยินไม่ยอมปล่อย แต่อย่าได้มีอะไรผิดพลาดเลย องครักษ์กลัวซวนอ๋องทำอันตรายฮูหยินของตน ได้แต่ติดตามอย่างนอบน้อม

โชคดีที่โม่เหลิ่งเหยียนไม่ได้ไปที่อื่น เขาอุ้มหยุนถิงตามองครักษ์นั่นกลับที่พักเปลี่ยนม้า

สุดท้ายพอเข้าไป ก็เจอกับหยุนหลีที่เดินเข้ามาจากด้านนอกพอดี

“ถวายบังคมซวนอ๋อง” หยุนหลีรีบถวายบังคม

ถึงโม่เหลิ่งเหยียนจะเป็นอสูรร้ายจากนรก เทพแห่งความตายที่ดุร้ายกระหายเลือดในสายตาคนอื่น แต่เขาก็เป็นเทพสงครามที่มีชื่อเสียงแห่งแคว้นต้าเยียน หยุนหลีเลื่อมใสเขายิ่งนัก

โม่เหลิ่งเหยียนเหล่มองนาง “เจ้าเป็นน้องสาวของหยุนถิง?”

“ใช่ ซวนอ๋องรู้จักพี่ใหญ่ข้ารึ?” หยุนหลีถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว พูดจบก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานหยุนถิงพึ่งท้าทายบ่อนพนันฝูกุ้ยของซวนอ๋องไป หยุนหลีสีหน้าแข็งค้าง ซวนอ๋องนี่คงไม่คิดจะใช้คนไปข่มขู่พี่ใหญ่หรอกนะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ