จวินหย่วนโยวได้ยินคำพูดประโยคนี้ คนทั้งคนตะลึงงันไป “หยุนถิง เจ้าไม่รู้จักข้าจริงหรือ คงไม่ได้สูญเสียความทรงจำไปหรอกใช่ไหม?”
หยุนถิงมองไปทางเขาอย่างไร้เดียงสา “ทำไมข้าต้องรู้จักท่านด้วย?”
ทีนี้ใบหน้าของจวินหย่วนโยวตึงเครียดขึ้นมาแล้ว หัวใจทั้งดวงกระชากตึงไปหมด “หลิงเฟิง รีบไปเชิญเริ่นเซวียนเอ๋อร์มาทันที”
“ขอรับ” หลิงเฟิงที่อยู่ด้านนอกรีบออกไปทันที
“ไม่ต้องแล้ว ซื่อจื่อ ข้าก็แค่แกล้งหยอกท่านเล่นเท่านั้น ข้าไม่ได้สูญเสียความทรงจำ” จู่ๆหยุนถิงก็หัวเราะออกมา
จวินหย่วนโยวรู้สึกประหลาดใจทันที จากนั้นใบหน้าก็ยิ่งดำมืดน่าเกลียดเข้าไปอีก “เรื่องแบบนี้จะเอามาล้อเล่นได้อย่างไร เจ้าจะทำให้ข้าตกใจตายหรือ แค่กๆ-----”
เมื่อหยุนถิงเห็นเขาไอขึ้นมาอย่างรุนแรง ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที “ซื่อจื่อข้าผิดไปแล้ว ต่อไปข้าไม่แกล้งหยอกท่านอีกแล้ว ท่านอย่าตื่นเต้นเกินไป”
นางกำลังคิดจะลุกขึ้นมาตบหลังให้กับจวินหย่วนโยว แต่แล้วกลับไปดึงบาดแผลที่อยู่บนร่างกาย เจ็บจนนางต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง
ทันทีที่จวินหย่วนโยวเห็นใบหน้าของหยุนถิงขมวดกันเป็นก้อน ก็รู้สึกเอ็นดูสงสารอย่างมาก “อย่าขยับ บาดแผลภายนอกบนร่างกายของเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองสามวันนี้ห้ามลุกขึ้นจากเตียง ไม่อยากพิการก็พักฟื้นดีๆ”
หยุนถิงถึงนึกขึ้นมาได้ว่า นางถูกผู้ชายสวมหน้ากากสีเงินคนนั้นไล่ล่า ตอนนั้นคนผู้นั้นต้องการจะกำจัดนางให้สิ้นซาก โชคดีที่นางตอบสนองได้เร็วมากพอ มิเช่นนั้นคงจะต้องถูกหั่นเป็นชิ้นๆแน่นอน
“ทราบแล้ว ซื่อจื่อ”
จวินหย่วนโยวเห็นนางพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รีบสั่งให้หลิงเฟิงไปยกอาหารมาทันที
จวินหย่วนโยวประคองหยุนถิงลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นก็ป้อนโจ๊กอ่อนๆให้นางกินมากมาย หยุนถิงถึงได้รู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมา
“ขอบคุณซื่อจื่อมาก ข้าอยากจะลุกขึ้นมาเดินหน่อย” หยุนถิงนอนจนรู้สึกเมื่อยหลังไปหมดแล้ว
“ไม่ได้ เจ้าบาดเจ็บสาหัสเกินไป เมื่อยมากข้าจะช่วยนวดให้เจ้า” จวินหย่วนโยวยื่นมือมา ตั้งใจหลีกเลี่ยงบาดแผลของหยุนถิง บีบนวดให้นางอย่างอ่อนโยน
มองดูซื่อจื่อที่จริงจังเช่นนี้ รู้สึกถึงแรงกำลังที่อ่อนโยนของเขา ในใจของหยุนถิงรู้สึกอบอุ่น เงยหน้าขึ้นมาแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้ จูบไปที่แก้มของจวินหย่วนโยว
“ซื่อจื่อ ช่างดีจริงๆที่ยังได้พบท่านอีก ข้านึกว่าตัวเองจะไม่-----”
คำพูดของหยุนถิงยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกจวินหย่วนโยวใช้ริมฝีปากปิดปากของนางเอาไว้
นาทีนี้ รู้สึกถึงริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของหยุนถิง กลิ่นสดชื่นที่คุ้นเคย จวินหย่วนโยวถึงได้รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นอยู่
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่า ช่วงเวลาที่หยุนถิงหมดสติไป จวินหย่วนโยวรู้สึกหวาดกลัวมากแค่ไหน เป็นห่วงมากเพียงใด กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาง ดีที่ได้ยาที่หลิ่วเฟยทิ้งเอาไว้ให้เม็ดนั้น ในที่สุดนางก็ตื่นขึ้นมาแล้ว
ในนาทีนี้ จวินหย่วนโยวอยากจะใช้แรงอย่างบ้าคลั่งมากแท้ๆ แต่เมื่อนึกถึงบาดแผลของหยุนถิงแล้ว จวินหย่วนโยวก็อดทนเอาไว้ อาลัยอาวรณ์รักอย่างอ่อนโยน ระมัดระวังอย่างมาก
หยุนถิงรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของจวินซื่อจื่อ หัวใจทั้งดวงเต้นระรัวขึ้นมา หัวใจถูกหลอมละลายไปหมดแล้ว
ตอนนั้นสถานการณ์คับขัน หยุนถิงคิดว่าตัวเองจะไม่ได้พบจวินหย่วนโยวอีกแล้ว ในตอนที่นางหายใจรวยริน สิ่งเดียวที่นึกถึงก็คือการได้พบกับจวินหย่วนโยวอีกครั้งหนึ่ง
ในเวลานั้น หยุนถิงถึงได้รู้ว่าจวินหย่วนโยวเข้ามาอยู่ในใจของตัวเองนานแล้ว เป็นสิ่งสำคัญที่ไร้ที่เปรียบ ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้
เวลานี้ได้พบกับจวินหย่วนโยว ได้กลิ่นลมหายใจที่คุ้นเคยบนตัวของเขา หยุนถิงรู้สึกซาบซึ้งใจ และตื่นเต้นอย่างมาก
นางยกใบหน้าเล็กขึ้นมา ตอบรับจูบของเขา
ทั้งสองคนตอบสนองซึ่งกันและกัน หัวใจสองดวงเข้าใจซึ่งกันและกันโดยไม่จำเป็นต้องพูดออกมา เรือนที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น หลังจากผ่านไปนานพักใหญ่ จวินหย่วนโยวถึงได้จบการจูบที่ยาวนานนี้ลง
หากไม่ใช่เพราะเป็นห่วงสุขภาพของหยุนถิง จวินหย่วนโยวอยากจะรักกับหยุนถิงทันทีจริงๆ
“ทำไมถึงยังฝึกกลั้นหายใจแล้วหายใจเข้าอีกครั้งไม่เป็นอีก?” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยความเอ็นดูสงสาร
แก้มของหยุนถิงแดงระเรื่อ เขินอายอย่างยิ่ง “ซื่อจื่อห้ามท่านพูดเรื่องนี้อีก”
“ตกลง ซื่อจื่อข้าเหนื่อยแล้ว ข้าอยากนอนครู่หนึ่ง” สีหน้าของหยุนถิงซีดขาวอย่างยิ่ง
“พักผ่อนเถอะ ข้าจะอยู่ที่นี่กับเจ้า นอนหลับให้สบายเถอะ” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยความเอ็นดูสงสาร
“ตกลง” หยุนถิงหลับตาลง นางรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ หลังจากที่พูดคุยไปครู่หนึ่งก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรงไปทั้งร่างกาย
จวินหย่วนโยวดึงผ้าห่มมาห่มให้นาง นั่งเฝ้าอยู่หน้าเตียงนอน มองดูหยุนถิงเงียบๆ ระหว่างคิ้วและตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเอ็นดูสงสาร
ด้านนอกเรือน โม่เหลิ่งเหยียนไม่ได้ยินเสียงจากในห้องแล้ว ถึงได้ก้าวเท้าจากไป
องครักษ์ที่อยู่หน้าประตูเห็นว่าซวนอ๋องจากไปแล้ว ก็รีบร้อนเอ่ยปาก “ข้าไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม ซวนอ๋องผู้เลือดเย็นกระหายเลือดถึงกับยิ้มออกมา ข้าตาฝาดใช่ไหม?”
“ดูเหมือนจะไม่ใช่ภาพลวงตาของเจ้า ข้าเองก็เห็นเช่นกัน ซวนอ๋องยิ้มออกมา ต้องไม่มีเรื่องดีแน่นอน พวกเราต้องป้องกันให้ดี อย่าประมาทเด็ดขาด” องครักษ์อีกนายหนึ่งเอ่ยปากขึ้นมา
ทั้งสองคนยืนตัวตรงขึ้นมาทันที เบิกตากว้างมองไปรอบๆ
และห้องของซ่างกวนหรู ในตอนแรกนางฟังทุกคนในห้องวิพากษ์วิจารณ์ บอกว่ามีคนไปลอบสังหารที่ห้องของเป่ยหมิงฉี่ แต่แล้วก็ถูกจวินซื่อจื่อกับซวนอ๋องจับเอาไว้ได้ หัวใจทั้งดวงของซ่างกวนหรูกระดอนมาถึงลำคอ รู้สึกกังวลไม่รู้จบ
หน่วยกล้าตายที่สมควรตายนี่ ถึงกับสะเพร่าให้ถูกจับได้ หากให้จวินซื่อจื่อรู้ว่าตัวเองเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง จะต้องเกลียดชังตัวเองแน่นอน
ซ่างกวนหรูเป็นกังวลอย่างยิ่ง กำลังคิดอยู่ว่าควรจะรับมืออย่างไร ก็ได้ยินคนบอกว่าจวินซื่อจื่ออุ้มหยุนถิงที่เต็มไปด้วยเลือดกลับมา หัวใจที่ตึงเครียดของซ่างกวนหรูถึงได้ผ่อนคลายลง
ดีจริงๆ คนของสำนักราตรีไม่ทำให้ตัวเองผิดหวังจริงๆด้วย ช่างสาแก่ใจจริงๆ ทางที่ดีที่สุดคือให้หยุนถิงตายไปเลย เช่นนี้นางก็จะไม่สามารถมาพัวพันกับจวินซื่อจื่ออีก
สาแก่ใจยิ่งนัก นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดในคืนนี้เลย
เพียงแต่นางไม่รู้เลยสักนิดว่า หยุนถิงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ไม่ได้สิ้นลมเลย
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ข่าวเรื่องหนึ่งก็สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนทั่วทั้งเทศกาลดอกท้อ สำนักราตรีองค์กรมือสังหารอันดับหนึ่งในยุทธภพที่เลื่องชื่อในสี่แคว้นถึงกับถูกคนกวาดล้างในชั่วข้ามคืน และยังถูกไฟเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...