หยุนถิงที่อยู่ไม่ไกลออกไปเหลือบมองมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “บาดเจ็บขนาดนั้นแล้ว หากมีกับดักจริงๆเช่นนั้นแผนทรมานร่างกายนี่ก็มากเกินไปหน่อยแล้ว” ขณะที่พูดก็เดินเข้าไปด้วย
หลงเอ้อและคนอื่นๆตามเข้าไปทันที ทุกคนมองไปทางเด็กที่อยู่บนพื้นด้วยความระมัดระวัง หากเขามีกับดักจริงๆ กระบี่ยาวในมือของหลงเอ้อจะไม่ลังเลเด็ดขาด
แต่แล้วเมื่อหยุนถิงเข้าไปตรวจดู ถึงได้พบว่าเด็กคนนั้นบาดเจ็บสาหัสมาก สัญญาณชีวิตอ่อนมาก บนร่างกายมีบาดแผลมากมาย เต็มไปด้วยเลือด รอยเลือดบางแห่งแห้งไปแล้วด้วยซ้ำ น่าสังเวชยิ่งนัก
“ใครมันทำร้ายเด็กคนหนึ่งจนบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ได้?” หยุนถิงขมวดคิ้ว ช่วยรักษาบาดแผลให้เด็กทันที
หลงเอ้อมองแล้วยิ่งเห็นอกเห็นใจมากขึ้น พวกเขาองครักษ์เงามังกรฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน กลับไม่เคยลงมือกับคนแก่และเด็กที่ไม่มีกำลังความสามารถเลย
“ถ้าอย่างไรข้าน้อยไปตรวจดูก่อนดีกว่า” หลงเอ้อกล่าว
“ยังไม่ต้อง เด็กคนนี้บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีเจตนาฆ่า โชคดีที่ยังมีลมหายใจเฮือกหนึ่ง และก็โชคดีที่เจอข้า หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงจะช่วยเอาไว้ไม่ได้แล้ว”
ขณะที่หยุนถิงพูดไป ก็หยิบสารอาหารเหลวออกมาจากมิติให้เด็กดื่ม และก็หยิบยาเม็ดออกมาสองสามเม็ดยัดเข้าไปในปากของเขา ช่วยจัดการกับบาดแผลบนร่างกายของเขา
ทางด้านนี้ หลิงเฟิงล่าไก่ป่ามาได้ห้าตัว จัดการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็ห่อด้วยใบบัว จวินหย่วนโยวก่อไฟด้วยตัวเอง ยังไม่ทันที่ไก่อบจะอบเสร็จ ก็เห็นหยุนถิงและคนอื่นๆกลับมา หลงเอ้อยังอุ้มเด็กที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมาอีกคน
“เกิดอะไรขึ้น?” จวินหย่วนโยวรีบเข้ามาดูทันที
“เราเข้าไปเก็บสมุนไพรพบกับเด็กที่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่ง ก็เลยพาเขากลับมาด้วย” หยุนถิงอธิบาย
นัยน์ตาของจวินหย่วนโยวมืดครึ้ม เหลือบไปมองเด็กที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดคนนั้นครู่หนึ่ง “หลงเอ้อ หาคนมาดูแลเขาก็พอ เจ้ารับผิดชอบความปลอดภัยของซื่อจื่อเฟย”
“ขอรับ” หลงเอ้อรีบวางเด็กลงทันที
หลงหวู่เดินเข้ามาช่วยดูแล ขณะที่หยุนถิงเดินไปทางจวินหย่วนโยว
“ซื่อจื่อ หอมจังเลย กลิ่นนี้แค่ดมก็รู้แล้วว่ารสชาติไม่เลวเลย” หยุนถิงกล่าวด้วยความยินดี
“อีกเดี๋ยวอบเสร็จแล้วเจ้าลองชิมดู”
“ตกลง” หยุนถิงกล่าวพร้อมกับหยิบกิ่งไม้ไปเพิ่มฟืน
“ข้าทำเอง เจ้าไปนั่งดูเถอะ” จวินหย่วนโยวยื่นมือเข้ามา รับกิ่งไม้ไปจากมือของนาง
“ซื่อจื่อ ท่านช่างเอาใจใส่จริงๆ” หยุนถิงพึงพอใจอย่างยิ่ง
“ผู้หญิงของข้า ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องพวกนี้ รอกินก็พอ”
หลงเอ้อและองครักษ์เงามังกรคนอื่นๆที่อยู่ด้านข้างถูกสาดความหวานใส่ทันที ทุกคนพากันหันหลังไปอย่างรวดเร็ว เดินไปเฝ้ารักษาการณ์ในระยะห่างที่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“ซื่อจื่อ ข้าร้องเพลงให้ท่านฟังแล้วกัน” หยุนถิงเสนอแนะ
“ตกลง”
จากนั้นหยุนถิงก็ลุกขึ้นมา เริ่มร้องเพลง “ลูกไก่ลูกไก่ ไก่ๆๆ________”
นางร้องเพลงพร้อมกับเต้นไปด้วย ท่าเต้นนั้นอย่าให้พูดเลยว่าดูตลกแค่ไหน จวินหย่วนโยวหัวเราะออกมาเบาๆ
หยุนถิงที่ตลกขบขันอย่างบ้าบิ่นเช่นนี้ คิ้วและตาของจวินหย่วนโยวเต็มไปด้วยการตามใจ นางไม่ได้มารยาสาไถยและวางท่าเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ทำตามหัวใจและความคิดของตัวเองมาโดยตลอด นี่ถึงจะเป็นหยุนถิงที่เขาชอบ
หลงเอ้อและคนอื่นได้ยินเสียง พากันสงสัยใคร่รู้กันขึ้นมา หันกลับมามองอย่างระมัดระวัง แต่แล้วก็เห็นท่าเต้นที่ตลกขบขันของซื่อจื่อเฟยของตัวเอง ทุกคนพากันตะลึงงันกันไปกันหมด
นี่ยังเป็นซื่อจื่อเฟยที่เย็นชาสูงส่ง ทรงพลังน่าเกรงขาม เกลียดชังความชั่ว คิดอุบายวางแผนการรบอีกหรือ นี่มันแตกต่างจากภาพลักษณ์ที่สูงส่งในใจของทุกคนมากเกินไปแล้ว
“พวกเจ้าว่าซื่อจื่อของเราสายตามีปัญหาใช่ไหม ท่าเต้นเด็กๆแบบนี้เขากลับยิ้มอย่างกับคนโง่?” หลงเอ้อกล่าวด้วยความสงสัย
“ซื่อจื่อ หลงเอ้อว่าท่านคือคนโง่!” หลงซื่อตะโกนเสียงดังทันที
“ต้องเต้นจริงหรือ?” จวินหย่วนโยวถาม
“จริงยิ่งกว่าทองจริงเสียอีก!”
สีหน้าของจวินหย่วนโยวกระอักกระอ่วนสุดขีด “ดีร้ายอย่างไรข้าก็เป็นซื่อจื่อคนหนึ่ง เจ้าจะไว้หน้าข้าหน่อยไม่ได้หรือ?”
“ซื่อจื่อ ชีวิตคนเราอยู่บนโลกนี้ มีความสุขก็พอแล้ว ปกติท่านมีความกดดันมากเกินไปแล้ว ทำไมต้องสนใจกฎเกณฑ์อะไรมากมายขนาดนั้นด้วย มีความสุขอยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องไปสนใจสิ่งอื่น” ขณะที่หยุนถิงกล่าวไป ก็จูงมือของจวินหย่วนโยวเอาไว้
“มา ข้าสอนท่าน”
จวินหย่วนโยวมองดูใบหน้างดงามยิ้มแย้มของนาง ราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง อดที่จะทอดถอนใจไม่ได้
ใช่แล้ว ชีวิตคนเราอยู่บนโลกใบนี้ ทำไมจะต้องไปสนใจชื่อเสียงจอมปลอมไร้ประโยชน์พวกนั้นด้วย ต่อไปไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่จะต้องรักษาช่วงเวลานี้เอาไว้
คิดถึงตรงนี้ จวินหย่วนโยวก็ปล่อยวางสิ่งที่เรียกว่าหน้าตานั่นลง เต้น หัวเราะและสนุกสนานไปพร้อมหยุนถิง
องครักษ์เงามังกรที่อยู่ไม่ไกลออกไปเห็นภาพฉากนี้ ก็พากันหัวเราะกันขึ้นมา แต่ติดอยู่ที่ความน่าเกรงขามของซื่อจื่อ แล้วก็การเชือดไก่ให้ลิงดูของหลงเอ้อ พวกเขาอยากจะหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า อย่าให้พูดเลยว่ายากเย็นแค่ไหน
“ยังไม่เข้ามาเต้นด้วยกันอีก!” จวินหย่วนโยวกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
เจ้าพวกนี้ถึงกับชมความครึกครื้นกันขึ้นมาอีก น่าชิงชังนัก
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนมีความคิดอยากจะบ้าตายแล้ว แต่คำสั่งของซื่อจื่อก็ไม่กล้าไม่มา ดังนั้นสุดท้ายหยุนถิงพาจวินหย่วนโยว องครักษ์เงามังกรสิบกว่านายยืนอยู่ข้างหลัง ล้วนพากันเต้นลูกไก่ ทั้งตลกและน่าขำจริงๆ
หยุนถิงมีความสุขและพึงพอใจอย่างยิ่ง เมื่อรักคนคนหนึ่งก็ต้องบ้าคลั่ง ต้องก่อเรื่องวุ่นวายไปพร้อมกับนาง ซื่อจื่อคร่ำครึอยู่เหนือมวลชน คนที่สูงศักดิ์เช่นนี้ถึงกับยินดีเต้นท่าเด็กๆเช่นนี้กับตัวเอง นี่ต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหน
หยุนถิงจูงมือของจวินหย่วนโยวเอาไว้ ทั้งสองคนเต้นรำกัน หัวเราะ และพูดคุยกันอยู่เช่นนี้ ทั้งสองคนมองหน้ากัน มองเห็นตัวเองในดวงตาของอีกฝ่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...