จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 980

“ท่านลุง ตอนนี้ท่านค่อนข้างซุกซนแล้วนะ” หยุนหลีทำหน้ามุ่ย จู่ๆก็มีเสียงท้องร้องจ้อกๆดังมา

“ไป พาเจ้าไปกินข้าวเช้า”

ทั้งสองคนเดินไปทางด้านนอกร้าน คนงานที่อยู่ในลานเห็นพวกเขาจากไป ก็แอบโล่งใจเงียบๆ เขารีบไปบอกหัวหน้าว่าจะออกไปซื้อของทันที จากนั้นก็ออกไป

คนงานซื้อของเสร็จ ก็ฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีใครสังเกต ไปย้งร้านสุราที่ไม่สะดุดตาแห่งหนึ่ง

องครักษ์ของจวนหลีอ๋องที่ติดตามเขาในที่ลับตั้งสติขึ้นมาทันที รอไปครู่หนึ่งเห็นว่าคนงานจากไปแล้ว และกลับร้านขายอาวุธหลังจากที่ซื้อของเสร็จ องครักษ์ลับรีบไปรายงานต่อเฉินอ๋องทันที

ทันทีที่โม่ฉือชิงได้ยินเกี่ยวกับร้านสุรานั่น สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมา “เจ้ารีบไปจับตาดูร้านสุรานั่นเอาไว้ ข้าจะเข้าวังไปขอกำลังคนกับเสด็จพี่เดี๋ยวนี้ อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด”

“ขอรับ!” องครักษ์ลับจากไปทันที

โม่หลานเลิกคิ้วมองมา “ไม่ได้พบกันสองสามวันมีสมองขึ้นมาแล้วนิ ยังรู้จักไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น”

โม่ฉือชิงเบะปาก “ข้าทำการค้ากับหยุนถิงมานานขนาดนี้ แม้ไม่เคยกินเนื้อหมูแต่ก็เคยเห็นหมูวิ่งไหม”

“ท่านเหมือนหมูจริงๆนั่นแหละ” โม่หลานกล่าวเย้าแหย่

“ก็มีแต่เจ้าเท่านั้นที่กล้าว่าข้าเช่นนี้” โม่ฉือชิงเข้าวังทันที ขอองครักษ์ลับกับฮ่องเต้มากมาย ให้พวกเขาจับตาดูร้านค้าทั้งหมดของเมืองหลวงเอาไว้

…………………….

ทางด้านนี้ หยุนถิงและคนอื่นๆใช้บอลลูนในการเดินทาง กล่าวได้ว่าเดินทางได้วันละพันๆลี้ เวลาประมาณสิบวันก็มาถึงด่านชายแดนแล้ว

เม็ดทรายลอยเต็มท้องฟ้า ดินเหลืองเป็นผืน มองไปมีแต่ทะเลทรายที่แห้งแล้ง ผู้คนเบาบาง ไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไรจริงๆ

“มิน่าตอนนั้นตระกูลเวินถึงหนีมาที่นี่ ในสถานที่ที่ทุรกันดารเช่นนี้ ใครอยากจะอยู่กัน” หลงเอ้ออดที่จะบ่นไม่ได้

“เป็นเพราะว่ากันดาร ดังนั้นจึงไม่มีใครไล่ตาม ถึงทำให้ตระกูลเวินประคองชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าวเสียงเย็นชา

กองกำลังของจวนซื่อจื่อส่งรถม้า ม้าและเสบียงมาแล้ว ทุกคนขึ้นหลังม้าเร่งเดินทางต่อทันที เม็ดทรายดินเหลืองเช่นนี้ ถ้าหากเจอพายุทะเลทรายเข้า บอลลูนย่อมไม่เหมาะสมอยู่แล้ว

ทุกคนเดินไปประมาณหนึ่งวัน ก็เห็นโรงเตี๊ยมอยู่ด้านหน้าก่อนฟ้ามืด

ทุกคนลงจากรถม้า และเดินไปทางโรงเตี๊ยมทันที

ข้างในมีเพียงสามีภรรยาสูงอายุคู่หนึ่ง ทันทีที่ผู้เฒ่าเห็นคนมา ก็ต้อนรับด้วยความกระตือรือร้น “ทุกท่านพักค้างคืนหรือว่ากินอาหาร?”

“ท่านผู้เฒ่าเราจองห้องพักทั้งหมดที่นี่ของท่าน แล้วก็ต้มน้ำร้อน ทำอาหารอุ่นๆให้เราเล็กน้อยก็พอ” หยุนถิงตอบ

“ได้เลย” ชายชราพาพวกเขาขึ้นชั้นบนทันที ในขณะที่หญิงชราไปทำอาหารด้านหลัง

ห้องไม่ใหญ่ ดูทรุดโทรมเล็กน้อย แต่ว่าห้องจัดการได้สะอาดมาก ข้างหน้าต่างยังมีดอกไม้หลายกระถางวางอยู่

“ทุกท่านอย่าได้รังเกียจ ถึงแม้เรือนจะทรุดโทรมแต่เราทำความสะอาดทุกวัน ทุกท่านอยู่แก้ขัดไปก่อนเถิด” ชายชรากล่าว

“ท่านผู้เฒ่าเกรงใจไปแล้ว”

“เช่นนั้นพวกท่านพักผ่อนกันก่อน ข้าจะไปทำอาหารด้านหลัง” ชายชราเพิ่งจะจากไป เด็กน้อยสองคนก็วิ่งไปที่เตียง

แต่แล้วพวกเขาเพิ่งจะขึ้นไป เตียงก็ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมา หยุนถิงได้ยินก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

“ท่านแม่ เตียงนี่ส่งเสียงได้ด้วย สนุกจริงๆ” จวินเสี่ยวเทียนเหยียบตรงนั้นที ตรงนี้ทีอยู่ข้างบน

“สนุกจัง” จวินเสี่ยวเหยียนก็เหยียบตามเช่นกัน

“อ๊าก!”

“โครม!” คนทั้งคนกระเด็นออกไปหน้าประตูไกลสิบกว่าเมตร ล้มลงกับพื้นอย่างแรง อวัยวะภายในราวกับแตกเป็นเสี่ยงๆ เจ็บปวดอย่างยิ่ง กระอักเลือดออกมาคำหนึ่งก็หมดสติไปโดยตรง

เมื่อคนชุดดำคนอื่นๆเห็นเข้า ก็สะดุ้งตกใจแทบแย่ ไม่กล้าเข้าไปอีก

เวินเหลียงหยาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า จะมีคนที่มีกำลังภายในแข็งแกร่งเช่นกัน เหมือนเห็นผู้ช่วยชีวิตในทันที อดทนต่อความอ่อนแอลุกขึ้นปีนขึ้นไปบนชั้นสอง “ขอบคุณจอมยุทธที่อยู่ชั้นสองมากที่ให้ความช่วยเหลือ ข้าคือเวินเหลียงหยาคุณชายสามของตระกูลเวิน วันหน้าข้าจะต้องตอบแทนอย่างงามแน่นอน ขอบคุณที่ช่วยชีวิต”

เพียงแต่ว่าเขายังไม่ทันได้เดินถึงหน้าประตู ก็ถูกหลิงเฟิงกับหลงเอ้อขวางเอาไว้

มองดูลักษณะท่าทางของทั้งสองคน เวินเหลียงหยาไม่กล้าเข้าใกล้อีก “พี่ชายทั้งสองอย่าเข้าใจผิด ข้าแค่อยากจะขอบคุณผู้มีพระคุณของข้าหน่อยเท่านั้น”

ด้านในเรือน หยุนถิงที่ปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้ชายเดินออกมา

“คุณชายของข้าไม่ชอบให้คนรบกวนเวลานอน ดังนั้นถึงได้ลงมือ เจ้าไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ ไปได้แล้ว” หยุนถิงกล่าวเสียงเย็นชา

ตั้งแต่นาทีที่นางได้ยินเกี่ยวกับคนตระกูลเวิน นางก็หยิบอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาจากมิติทันที ย่อมไม่สามารถใช้ใบหน้าที่แท้จริงเผชิญหน้าอยู่แล้ว

“พี่ชายท่านนี้ขอบคุณมาก มิเช่นนั้นข้ายังคิดว่าวันนี้คงต้องตายแล้ว เช่นนั้นข้าไม่รบกวนคุณชายของเจ้าพักผ่อนแล้ว” ขณะที่พูด เวินเหลียงหยาก็เดินลงไปอีกครั้ง

แต่ว่าเขาไม่ได้จากไป แต่ขอห้องพักกับผู้เฒ่า แต่กลับถูกแจ้งว่าไม่มีห้องว่างแล้ว เวินเหลียงหยาจึงพักผ่อนอยู่ที่ห้องโถงโดยตรง

มือสังหารของตระกูลหรันก็ไม่กล้าลงมืออีก ได้แต่ถอยออกไปเฝ้าหน้าโรงเตี๊ยมเอาไว้

หยุนถิงมองอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง หันหลังกลับเข้าไปในห้อง และนอนต่อไป

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเพิ่งเดินลงมา เวินเหลียงหยาก็วิ่งเข้ามาทันที “ขอบคุณคุณชายที่ช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อคืน ข้ามีคำขอที่ไม่ถูกหลักเหตุผล รบกวนพวกท่านส่งข้ากลับจวนตระกูลเวินได้หรือไม่ ค่าตอบแทนเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงพวกท่านส่งข้ากลับไป พ่อข้าต้องปฏิบัติต่อพวกท่านอย่างดีแน่นอน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ