“หึ ความผิดหนักอึ้งเช่นนี้ข้ารับไม่ไหวหรอก พี่สามหน้าไหว้หลังหลอก และความสามารถในการโยนปัญหาให้คนอื่นนี่ช่างชำนาญมากจริง ๆ เลยนะ
ท่านขุนนางทั้งหลาย พวกท่านคงไม่รู้ละซิว่าทำไมพี่สามของข้าถึงโดนเสด็จพี่กักบริเวณ ก็เพราะว่าเขาติดต่อกับศัตรูทรยศประเทศ แถมยังปล่อยให้ไส้ศึกเข้ามา เพื่อให้พวกเขามาฆ่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงแห่งแคว้นต้าเยียน
พอเสด็จพี่ตรวจพบความจริงแล้วจึงกักบริเวณเขาไว้ วันนี้ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าไปรบกวนเสด็จพี่เด็ดขาด ไม่งั้นอย่าโทษว่าข้าไม่เห็นแก่ญาติพี่น้องนะ!” เป่ยจิงจิงตะคอกออกมาคำหนึ่งอย่างโกรธเคือง แล้วก็ชักดาบตรงเอวออกมา
ท่าทางน่าเกรงขาม ท่าทีพร้อมที่จะบุกเข้าใส่ตลอดเวลา
เหล่าขุนนางพากันตกใจ พวกเขาต่างก็รู้ว่าท่านอ๋องสามถูกกักบริเวณ แต่กลัวไม่รู้ว่าทำไม คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะติดต่อกับศัตรูและทรยศประเทศ
คราวนี้พวกขุนนางที่ปกป้องเป่ยเย่เหอในตอนแรก ต่างพากันถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อที่จะเว้นระยะห่างกับเขาออกไป
สีหน้าของแม่ทัพหยู๋ก็ดูย่ำแย่ “ท่านอ๋องสาม ที่องค์หญิงสี่พูดมาเป็นความจริงหรือไม่?”
เป่ยเย่เหอถลึงตาใส่เป่ยจิงจิงอย่างโกรธแค้น เจ้าสี่ที่มักจะถูกชักนำคนนี้ปกติแล้วโง่เขลาจะตาย ทำไมตอนนี้ถึงได้มีมันสมองเช่นนี้ ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ
“เป่ยจิงจิง เจ้าทำเกินไปแล้วนะ” เป่ยเย่เหอกำหมัดแน่นขึ้นมาอย่างโกรธแค้น
คำพูดประโยคเดียว ก็เท่ากับว่ายอมรับแล้ว สีหน้าของเหล่าขุนนางที่มองมาที่เป่ยเย่เหอ ล้วนเต็มไปด้วยความดูถูก แล้วถกเถียงกันเบา ๆ ขึ้นมา
“ข้าก็แค่พูดความจริงเท่านั้น” เป่ยจิงจิงพึมพำเสียงเย็นขึ้นมา
“ฮองเฮาเหนียงเหนียง ฝ่าบาทแย่แล้ว อาการน่าเป็นห่วงมากพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลิวตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง
ฮองเฮารั่วเฟิงซีไม่มีอารมณ์มาพูดไร้สาระกับเป่ยเย่เหออีกแล้ว แล้วก็หมุนตัวเดินเข้าไปในบ้านเลย “ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?”
“พิษที่ฝ่าบาทโดน เป็นพิษร้ายแรง พวกข้าน้อยได้วิเคราะห์ยาถอนพิษตามอาการออกมาได้แล้ว แต่เมื่อกี้พอให้ฝ่าบาทกินเข้าไปแล้ว ถึงแม้ความเจ็บปวดในร่างกายฝ่าบาทจะลดน้อยลง แต่อยู่ ๆ ก็กระอักเลือดออกมาอีก!” หมอหลวงหลิวรายงานไปตามความจริง
รั่วเฟิงซียื่นมือไปจับมือเป่ยหมิงฉี่เอาไว้ “ฝ่าบาท ฝ่าบาทจะเป็นอะไรไม่ได้นะเพคะ หม่อมฉันกับลูกยังต้องการฝ่าบาท ฝ่าบาทจะต้องฟื้นขึ้นมานะเพคะ”
“หมอหลวงหลิว ไม่มีวิธีอื่นที่จะช่วยเสด็จพี่ได้แล้วหรือ?” เป่ยจิงจิงมีสีหน้าเป็นกังวลมาก
หมอหลวงหลิวมีสีหน้าเคร่งเครียด แล้วส่ายหน้าขึ้นเบา ๆ “องค์หญิงสี่ให้อภัยด้วย พวกหม่อมฉันไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ นอกเสียจากว่าจะไปเชิญซื่อจื่อเฟยจากแคว้นต้าเยียนมาได้ ไม่งั้นฝ่าบาท……”
“ข้าจะให้คนไปส่งสารนกพิราบให้หยุนถิงเดี๋ยวนี้เลย!” เป่ยจิงจิงรีบไปเขียนจดหมาย แล้วให้คนเร่งความเร็วแปดร้อยลี้ไปส่ง
พอพวกแม่ทัพหยู๋เป็นฝ่าบาทเป็นเช่นนี้ ก็พากันลนลานขึ้นมาทันที ฮ่องเต้คนเดียวของแผ่นดินนอนหมดสติอยู่ นี่มันเป็นเรื่องใหญ่หลวงของประเทศเลยนะ
รั่วเฟิงซีน้ำตาหยดแหมะลงมา คลายมือที่จับมือเป่ยหมิงฉี่ออก นางรู้ว่าวินาทีนี้จิตใจต้องสงบนิ่ง ต้องไม่มีทางปล่อยให้แคว้นเป่ยลี่วุ่นวายไปเด็ดขาด
“ฟ่านปู้ ปิดข่าวเรื่องฝ่าบาทถูกพิษหมดสติไปเอาไว้ บอกกับภายนอกแค่ว่าฝ่าบาทเป็นหวัด ร่างกายไม่สบายเท่านั้น จัดแจงที่พักให้กับเหล่าขุนนางด้วย ก่อนฝ่าบาทจะฟื้นขึ้นมา ห้ามใครออกไปจากวังทั้งนั้น สำหรับท่านอ๋องสามนั้น จิงจิงเจ้านำคนเฝ้าดูไว้ด้วยตัวเอง”
“สำหรับคนที่วางยาพิษฝ่าบาท คงต้องลำบากแม่ทัพหยู๋จับตัวคนร้ายไว้ด้วย เพราะว่าคนที่ฝ่าบาทไว้ใจมีไม่มาก!” รั่วเฟิงซีสั่งการไปทรงอำนาจ
“ฮองเฮาเหนียงเหนียงพูดถูกต้องแล้ว หม่อมฉันจะต้องปฏิบัติหน้าที่สุดชีวิตแน่นอน” แม่ทัพหยู๋นำคนไปตรวจสอบด้วยตัวเองเลย
ถึงแม้เขาจะถอนตัวออกจากราชสำนักแล้ว แต่ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสแห่งสามราชสมัย ก็ได้รับความเชื่อใจจากผู้คนแล้ว พอแม่ทัพหยู๋ออกหน้าด้วยตัวเองก็ไม่มีใครกล้าต่อต้านเลย
เป่ยเย่เหอที่โวยวายเมื่อกี้ ตอนนี้ก็สงบนิ่งไปแล้ว และไม่กล้าเอะอะโวยวายและพูดอะไรมากอีก ได้แต่จ้องมองอยู่อย่างเย็นชาแบบนั้น
รั่วเฟิงซีคว้ามือเริ่นเซวียนเอ๋อร์มากุมไว้อย่างซาบซึ้ง “ขอบใจเจ้ามา เซวียนเอ๋อร์”
“จะเกรงใจกับข้าทำไม ข้าก็ไม่ได้อยากให้เจ้าหมอนี่ตายสักหน่อย” เริ่นเซวียนเอ๋อร์พูดติดตลกขึ้นมา
“เริ่นเซวียนเอ๋อร์ ท่านเป็นถึงฮ่องเต้ของแคว้นเทียนจิ่ว กลับยอมมารักษาอาการป่วยให้เสด็จพี่ข้า คงจะไม่ได้ฉวยโอกาสนี้คิดไม่ดีต่อเขาหรอกนะ?” เป่ยเย่เหอพึมพำเสียงเย็นขึ้นมาประโยคหนึ่ง
คิดยังไงก็คิดไม่ถึง ว่าเริ่นเซวียนเอ๋อร์กับกู้จิ่วเยวียนจะลอยลงมาจากฟ้า ช่างสมควรตายจริง ๆ
“ข้าเชื่อใจเซวียนเอ๋อร์!” รั่วเฟิงซีพูดอย่างหนักแน่นขึ้นมา
“ฮองเฮากลับไปเชื่อใจคนนอก ถ้านางช่วยเสด็จพี่ไม่ได้ ท่าน……” เป่ยเย่เหอยังพูดไม่ทันจบ อยู่ ๆ ก็ถูกกู้จิ่วเยวียนจี้จุดไป แล้วทั้งตัวก็พูดอะไรไม่ออกอีกเลยสักคำ
“ถ้าไม่ได้เห็นแก่ที่เจ้าเป็นน้องชายแท้ ๆ ของเป่ยหมิงฉี่ ข้าจะส่งเจ้าไปปรโลกเดี๋ยวนี้เลยก็ได้นะ!” กู้จิ่วเยวียนตะคอกขึ้นมาอย่างโกรธเกรี้ยว
เป่ยเย่เหอตกใจจนสะดุ้ง เซ่อเจิ้งอ๋องแห่งแคว้นเทียนจิ่วนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าจวินหย่วนโยวเลยสักนิด เย็นชาและเลือดเย็น โหดเหี้ยมและเด็ดขาด ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาสักนิด ถ้าเขาจะหาเรื่องด้วยก็ควรคิดพิจารณาให้ดี ๆ อย่าบุ่มบ่ามไปเด็ดขาด
“เสด็จอาเก้า เก่งที่สุด!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ชูนิ้วโป้งขึ้นมาให้
“เจ้าไปทำงานได้เต็มที่เลย ที่นี่มีข้าอยู่!” คำพูดประโยคเดียว ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที
เป่ยจิงจิงจ้องมองมาอย่างนับถือมาก “เซ่อเจิ้งอ๋องท่านนี่เก่งกาจจริง ๆ นับถือ นับถือ!”
เริ่นเซวียนเอ๋อร์จ้องมองสายตาที่หลงใหลของเป่ยจิงจิงไปทีหนึ่ง หน้าเรียวก็บึ้งตึงขึ้นมา “เสด็จอาเก้าเป็นผู้ชายของข้าแล้ว เจ้าห้ามคิดที่จะมาแย่งนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...