ต้องพูดความจริงออกไปไหม?
ลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า ลู่ยี่ตัดสินใจไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ปล่อยไปตามความคิดของพวกเขา
เพราะถ้าเกิดพูดความจริงออกไป คนอื่นจะคิดอย่างไรกัน?
หมออัจฉริยะที่อายุน้อย คาดไม่ถึงวินิจฉัยโรคผิดพลาด เกือบทำคนไข้ถึงแก่ชีวิต ถูกบีบให้ขอความช่วยเหลือจาก'หมอเถื่อน'ที่ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งอย่างจำใจ ถึงสามารถรักษาชีวิตของคนไข้ไว้ได้
ข่าวประเภทนี้ขึ้นพาดหัวไม่ได้เป็นอันขาด!
ถ้าเกิดเปิดเผยไป ชาตินี้ลู่ยี่จบเห่แน่ ต่อไปการพิจารณาคัดเลือกในตำแหน่งหน้าที่ และการเลื่อนขั้นเพิ่มเงินเดือนอะไรพวกนี้ ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขาโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นจึงไม่สามารถพูดความจริงออกไปได้เด็ดขาด!
ในเมื่อเจียงชื่อไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเป็นเขาที่ช่วยชีวิตเถียนจีไว้ ดังนั้นชื่อเสียงดีงามอันนี้เขาลู่ยี่ถือโอกาสรับเอาไว้เองเลย ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรไม่ดี?
ลู่ยี่หัวเราะตอบว่า "เอ๋ รักษาบาดแผลช่วยชีวิตผู้คนเดิมก็เป็นเรื่องที่หมออย่างพวกเราควรทำอยู่แล้ว ไม่ต้องมาขอบคุณหรอก"
"ไม่ๆๆ ยังต้องอยู่ครับ"
เถียนจีพูดด้วยสายตาจริงใจ "หมอลู่ครับ คุณช่วยชีวิตของผมเอาไว้ คือผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ของผม วันหลังผมจะต้องตอบแทนอย่างดีแน่นอนครับ!"
"เฮ้อ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร"
ตอนที่ลู่ยี่ไม่รู้จักยางอายสวมรอยเอาคุณงามความดีของเจียงชื่อ พยาบาลคนอื่นๆ ต่างเผยสายตาเหยียดหยามออกมากัน
แต่พอลู่ยี่ส่งสายตามา ทำเอาพยาบาลเหล่านั้นตกใจจนก้มหน้าลงกันแล้ว
ในโรงพยาบาลนี้ ชื่อเสียงและตำแหน่งของลู่ยี่ ไกลเกินกว่าพยาบาลเหล่านี้จะเทียบเท่าได้ ถ้าพวกเขากล้าพูดมั่วซั่ว ลู่ยี่คงไม่ปล่อยพวกเขาไปเด็ดขาด
อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นย่อมดีกว่า จึงแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้อะไรเสียจะดีกว่า
ขณะที่หยางจุนเทียนและคนอื่นกำลังแสดงความขอบคุณอยู่ จิตใจฟุ้งเฟ้อของลู่ยี่ได้รับความพึงพอใจในระดับสูงที่สุดแล้ว
จากนั้นไม่นาน หยางจุนเทียนพาเถียนจีออกจากโรงพยาบาล
ตอนที่ผ่านหน้าประตูโรงพยาบาล พวกเขามองเห็นเจียงชื่อที่กำลังสูบบุหรี่อยู่
เถียนจีหันหน้าหนี มองก็ไม่อยากจะมองสักแวบหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงชื่อ เขาคงไม่กลายมาอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก
เขาพยุงเถียนจีออกไปจากหน้าประตูโรงพยาบาลแล้ว เดินไปทางลานจอดรถ
หลินเมิ่นหยุนเดินมาที่ด้านข้างเจียงชื่อ พูดปลอบใจ "จุนเทียนเขาก็นิสัยแบบนี้แหละ เห็นว่าเพื่อนสนิทบาดเจ็บ เลยฮึกเหิมขึ้นมาหน่อย นายอย่าเก็บไปใส่ใจมากเกินไปเลยนะ"
เจียงชื่อสูบบุหรี่เงียบๆ หัวเราะไม่พูดจาอะไร
เก็บมาใส่ใจ?
ถ้าเขาเก็บมาใส่ใจจริง งั้นเขาคงไม่เลือกลงมือช่วยชีวิตเถียนจี และมองเขาตายไปอย่างหน้าตาเฉยแล้ว
หลินเมิ่นหยุนพูดอีกว่า "อีกอย่างฉันยังต้องขอบคุณนายมากนะ วันนี้ถ้าไม่ใช่นายออกมาช่วยชีวิตไว้ ฉันอาจจะโดนเถียนจีขับรถชนไปตั้งนานแล้ว"
พูดตามจริง พอนึกถึงเรื่องนี้ ในใจหลินเมิ่นหยุนก็รู้สึกเศร้าใจ
เจียงชื่อปัดมือแล้ว "ไม่เป็นไร เป้าหมายของเถียนจีคือฉัน เป็นเพราะฉัน เธอถึงต้องเข้ามาพัวพันไปด้วย ฉันช่วยเธอ เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว"
เขาหมุนตัวกลับ พิงบนขอบประตูแล้ว
พอพ่นควันบุหรี่ออกมา จากนั้นลมเย็นก็พัดหมุนวนลอยขึ้นสู่อากาศ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...