จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ นิยาย บท 22

บทที่ 21

“เฮ้ย! ทำไมต้องว่าด้วยล่ะ เช่าไม่เช่ามันเป็นสิทธิ์ของแกนะ อีกอย่างอยู่คอนโดเหมือนเดิมก็ดี ปลอดภัยดี” คำพูดของนภัทรทำเอามีนาถึงกับหน้าเจื่อนก่อนตอบ

“ฉันไม่ได้อยู่คอนโดแล้ว”

“เอ้า! ไม่อยู่คอนโดแล้วแกไปอยู่ที่ไหน” นภัทรถามเสียงสูงด้วยความแปลกใจ แต่เสียงที่ตอบกลับมากลับไม่ใช่เสียงเธอ

“ก็อยู่ที่นี่ไง” เสียงของเจตต์ทำเอาทั้งสองคนหันขวับไปมอง

“จริงเหรอมัด” นภัทรมองหน้าเจตต์แล้วหันไปคาดคั้นเพื่อนต่อ

“อื้ม ก็อย่างที่คุณเจตต์บอกนั่นแหละ ฉันอยู่ที่นี่ อ้อ...ภัทร นี่คุณเจตต์ เจ้าของโรงแรมนี้ ส่วนนี่ภัทร เพื่อนสนิทฉันเองค่ะ” เธอพยายามเลี่ยงที่จะตอบเหตุผลให้เพื่อนฟังด้วยการแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน แต่ต่างฝ่ายเพียงหันมาพยักหน้าให้กันแบบขอไปที ประหนึ่งไม่ได้อยากรู้จักกันสักนิด

“เอ้อ...ภัทร ไหนๆ มนุษย์กลางคืนอย่างแกก็อุตส่าห์ตื่นกลางวันเพราะฉัน เราไปหาอะไรกินกันดีไหม เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง ไถ่โทษที่ทำให้แกต้องมาเสียเที่ยวด้วย” เธอบอกด้วยความรู้สึกผิด

“แต่เธอกินมาแล้ว แล้วก็ไม่ใช่แค่ถ้วยเดียวด้วย” เจตต์แสร้งขัดขึ้น

“กินแล้วก็กินอีกได้ ไม่เห็นแปลก อีกอย่างตอนนั้นกินของคาว ตอนนี้ไปกินของหวานก็ได้นี่” คำตอบของเธอทำเขานึกเขม่นเข่นเขี้ยวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“ก็ดี ฉันกำลังหิวอยู่พอดี แล้วเราก็จะได้มีเวลาคุยกันด้วย ว่าแต่ปากแกไปโดนอะไรมา” นภัทรที่เพิ่งสังเกตเห็นยื่นมือจะไปจับ แต่มือนั้นก็ถูกปัดออกอย่างทันท่วงที พลันสองหนุ่มก็หันมาจ้องหน้ากันเขม็ง อย่างไม่มีใครยอมลดราวาศอก ทำให้เธอต้องรีบเบี่ยงประเด็นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

“เอ่อ...เรื่องมันยาวน่ะ เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังแล้วกัน ไปหาที่นั่งดีๆ คุยกันดีกว่า อ้อ...ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะคุณเจตต์ คุณกลับไปทำงานต่อเถอะ ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว” เธอไม่ลืมที่จะหันไปค้อมศีรษะให้ผู้มีพระคุณก่อนออกไป แต่แล้วเท้าของคนทั้งคู่ก็ต้องชะงัก เพราะประโยคต่อมาของเขา

“ฉันว่าง”

“คะ?” เธอหันมาทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าเขาจะสื่ออะไร

“ฉันว่าง” เขาย้ำด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนอีกครั้ง

“เอ่อ…แล้วไงคะ” สีหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามของเธอ ทำเขาครางฮึดฮัดเบาๆ ก่อนตอบออกมาในที่สุด

“ฉันจะไปกับเธอ”

“หืม? ไปกับฉัน? ไปทำไมคะ” เธอถามเสียงสูง ทำเอาคนถูกถามยิ่งวางหน้าไม่ถูก

“ก็…ฉันก็อยากกินขนมหวานไง” ครั้นพอตอบออกไปแล้ว เขาก็แทบจะเอามือตบปากตัวเองเสียเดี๋ยวนั้น อีกทั้งพอหันไปเห็นนภัทรยืนทำหน้าเมื่อยกับคำตอบสิ้นคิดนั้น เขาถึงกับสบถเบาๆ

“ชิต!”

“งั้นฉันกลับก่อนละกัน มีอะไรให้ช่วยก็บอก โทรหาฉันได้ตลอด” เมื่อเห็นว่าวันนี้คงไม่ได้คำตอบที่อยากรู้เป็นแน่แล้ว นภัทรจึงถอดใจ

“อื้ม ขอบใจนะภัทร แกดีกับฉันตลอดเลย เอาไว้วันหน้าเราไปกินหมูกระทะกันนะ ชวนไอ้รินไปด้วย จะว่าไปเราไม่ได้กินข้าวด้วยกันสามคนนานแล้วนะ”

“อืม เอาสิ ฉันเองก็คิดถึงบรรยากาศเมื่อก่อนที่เรา…เคยอยู่ เคยกิน แล้วก็…เคยนอนด้วยกันเหมือนกันแหละ” ท้ายประโยคนภัทรพยายามย้ำชัดถ้อยชัดคำพลางหันไปยิ้มให้เจ้าของโรงแรมด้วยความรู้สึกว่าตัวเองมีแต้มเหนือกว่า

“ใช่! นึกถึงตอนทำรายงานสมัยเรียนเนอะ ฉันกับไอ้รินชิงหลับไปก่อนทุกที สุดท้ายก็เลยเป็นแกที่รับหน้าที่ปั่นงานคนเดียวจนถึงเช้าตลอดเลย” คราวนี้เป็นเจตต์ที่เป็นฝ่ายหันไปยิ้มเยาะบ้าง ทำเอานภัทรถึงกับกัดฟันกรอด ก็ไม่รู้ว่าระหว่างเสียหน้ากับเจ็บใจ ตอนนี้รู้สึกอย่างไหนมากกว่ากัน

“อืม! งั้นฉันไปนะ” นภัทรลุกขึ้น แต่แล้วก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“เอ้อ…เกือบลืมไป ฉันว่าจะถามว่าคืนพรุ่งนี้แกว่างรึเปล่า”

“อืม! พรุ่งนี้ฉันมีสอนแค่ครึ่งวันเช้าน่ะ หลังจากนั้นก็ว่าง ว่าแต่แกมีอะไรรึเปล่า” เมื่อสองคนคุยกัน เจ้าของโรงแรมผู้รับบทส่วนเกินก็หน้าหงิกอีกครั้ง

“แกจำพี่เอกมือกลองวงฉันได้ไหม” เห็นมีนาพยักหน้า นภัทรจึงพูดต่อ

“พอดีพรุ่งนี้เมียแกผ่าคลอด พี่เขาก็เลยจะวานให้แกไปเล่นแทนให้หน่อยน่ะ” คนที่หน้าหงิกทีแรกถึงกับหูผึ่งทันที

“เฮ้ย! แต่ฉันไม่ได้ตีกลองนานแล้วนะเว้ย ไม่รู้จะยังตีได้รึเปล่า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ