จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ นิยาย บท 51

บทที่ 50

“ไม่ได้ๆ ฉันจะเป็นนางร้ายที่พ่ายแพ้ไม่ได้” ว่าแล้วคุณเธอก็หันขวับไปสวมบทนางร้ายอีกที

“เฮอะ! ไอ้ที่เธอทำน่ะ ก็แค่นางร้ายฝึกหัด ใครก็ดูออกว่าจุดประสงค์ของเธอคืออะไร อย่างน้อยก็ฉันนี่แหละคนหนึ่ง ให้ตายสิ คุยกับเธอทีไรฉันล่ะปวดตาทุกที” ว่าอีกฝ่ายไปแล้วเธอก็รีบคลึงเบาๆ ที่เปลือกตาตัวเอง อืม! จริงๆ ก็สมควรปวดอยู่หรอก ก็แม่คุณเล่นสวมบทนางร้ายเล่นหน้าเล่นตา ทั้งจ้องทั้งค้อนจนตาพลิกตาคว่ำ ไหนจะปั้นหน้าปั้นปากจนเกร็งไปหมดทั้งหน้าอีก แต่อะไรก็ยังไม่น่าเจ็บใจเท่า การที่เธออุตส่าห์ลงทุนขนาดนี้ แต่อีกฝ่ายกลับทำประหนึ่งเธอไร้ตัวตน

“พี่เจตต์คะณา…” ตีรณาหันไปทำเสียงอ่อนเสียงหวานกับเจ้าของห้องหน้าตาเฉย ประหนึ่งว่าเธอไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ แต่ก็ยังพูดไม่ทันจบ เจ้าของห้องก็เลือกที่จะตัดบทซะก่อน

“ถ้าณาไม่มีเรื่องด่วนอะไร พี่ขอทำงานก่อนนะ พอดีพี่ยังมีงานต้องเคลียร์อีกเยอะเลย เอาไว้เราค่อยคุยกันพรุ่งนี้แล้วกัน” สิ้นเสียงเขาก็ก้มลงไปสนใจเอกสารบนโต๊ะต่อ

“ว้าย! เขาไล่แล้วยังไม่ไปอีก” เธอทำเสียงเยาะเย้ยด้วยความสะใจ ทำเอาคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานลอบยิ้มพลางส่ายหน้าน้อยๆ กับทำทางของเธอ

“ถ้าณาไป ผู้หญิงคนนี้ก็ต้องไปเหมือนกัน” ตีรณายื่นคำขาด

“โอ๊ย! รอคำนั้นอยู่เลยค่ะแม่คุณ นี่ถ้าไม่ติดว่าฉันต้องออกมาจับแมวขโมย ไม่สิ อย่างเธอต้องเรียกว่าหมาล่าเนื้อถึงจะถูก นั่นแหละ ถ้าไม่เป็นเพราะเธอ ป่านนี้ฉันขึ้นไปเฝ้าพระอินทร์บนสวรรค์สองรอบแล้ว เผลอๆ ขโมยลูกท้อกลับมาเป็นเข่งด้วย เดี๋ยวนะ…นี่เราจำมาจากเรื่องไหนวะ” พูดไปแล้วเธอก็เกาหัวตัวเองแกรกๆ และก่อนที่จะออกทะเลไปมากกว่านี้ เธอจึงต้องรีบตัดบท

“เออ…นั่นแหละ เอาเป็นว่าแยกย้ายกลับไปนอนห้องใครห้องมัน จบ! แล้วถ้าเธอคิดตุกติก ออกมาล่าเนื้อแถวนี้อีกละก็ ฉันนี่แหละจะยอมพลีกายเข้าไปนอนกอดเธอเอง ดูซิจะไปไหนได้อีก อืม!…จะว่าไป เธอนี่ก็…” เธอแสร้งทำนัยน์ตากรุ้มกริ่มพร้อมกับเลื่อนมือไปลูบไล้ที่แขนอีกฝ่ายเบาๆ

“อี๋! อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ” ตีรณาปัดมือออกด้วยท่าทางรังเกียจ ก่อนจะรีบเดินเร็วๆ ออกไป ในขณะที่มีนาก็รีบเดินตาม กระทั่งมาถึงหน้าห้องก็ถูกอีกฝ่ายปิดประตูใส่หน้าเสียงดัง กระทั่งผ่านไปสองสามนาที ประตูห้องก็ถูกเปิดอีก

“คิดอยู่แล้วเชียวว่าผู้หญิงตีสองหน้าอย่างเธอมันเชื่อไม่ได้ อยากนอนกับฉันมากใช่ไหม ได้! เดี๋ยวแม่จะกอดให้ดิ้นไปไหนไม่ได้เลยคอยดู” คนที่ยืนรออยู่หน้าห้องทำท่าจะดันประตูเข้าไป แต่ก็ถูกอีกฝ่ายปิดประตูใส่หน้าให้อีกที

“นี่…อย่าให้รู้นะว่าแอบออกมาอีก แม่จะจับล่ามโซ่ซะให้เข็ดเลย ฮึ่ย! คนบ้าอะไรจะนอนแล้วยังทาปากแดงอีก ดูไม่ออกเลยมั้งเนี่ยว่าคิดจะทำอะไร คนจะเข้านอนจริงๆ มันต้องแบบนี้นี่ ฮึ่ย! สภาพ” เธอได้แต่ตะโกนใส่ประตูห้อง ก่อนจะต้องถอนหายใจหนักเมื่อก้มมองสภาพตัวเอง

เจ้าของห้องที่กำลังง่วนอยู่กับเอกสารบนโต๊ะจำต้องเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อพบว่าประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง

“ไหนบอกจะรีบไปเฝ้าพระอินทร์ แล้วกลับมาทำไม” เขาเงยหน้าถามคนที่เพิ่งเดินเข้ามา

“ก็กลับมาเฝ้าคุณไง ยัยนั่นดูหิวขนาดนั้น ขืนไม่เฝ้าคุณก็ถูกงาบไปกินจนไม่เหลือซากน่ะสิ บอกตามตรงว่าฉันไม่ไว้ใจ” เธอทำหน้ายุ่งๆ ขณะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

“เป็นอะไรไป” สองมือเขาตรึงหน้าเธอด้วยความเป็นห่วง แต่มันกลับทำให้คนถูกสัมผัสสะดุ้งสะท้าน ราวกับมือเขามีประจุไฟฟ้า

“ร้อนจัง” เธอบอกพลางพยายามจะปลดกระดุมเสื้อ นั่นยิ่งทำให้เขาฉุกคิดจนต้องปรายตาไปมองแก้วนมที่ยังวางอยู่บนโต๊ะ

“บ้าฉิบ!” เขาถึงกับสบถเบาๆ เมื่อนึกถึงท่าทีของตีรณาก่อนหน้า กอปรกับอาการของเธอตอนนี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าในนมนั่นอาจมียาบางอย่างผสมอยู่

“มีนา…ตั้งสติแล้วตั้งใจฟังฉันนะ” เธอปรือตามองเขานัยน์ตาหยาดเยิ้ม ก่อนจะรีบสะบัดหน้าแรงๆ พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะขับไล่ความรู้สึกแปลกๆ นั่นออกไป

“ฉันเป็นอะไรไม่รู้คุณ มันรู้สึกแปลกๆ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวบอกไม่ถูกเลย” เสียงเธอสั่นพร่าขณะที่พยายามลูบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเอง

“เธอถูกวางยา ในนมนั่นน่าจะมียา โชคดีที่มันอยู่ในนม เพราะถ้ามันอยู่ในแอลกอฮอล์ อาการเธอคงแย่มากกว่านี้” ก็อย่างที่เขาบอก เมื่อยานั่นมาอยู่ในนมแทนที่จะเป็นแอลกอฮอล์ สติสัมปชัญญะเธอจึงยังอยู่ดี คงมีก็แต่ความต้องการทางกายเท่านั้น ที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหน

“แล้วยัยนั่นจะวางยาฉันทำไม ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด” เธอพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะประคองสติเพื่อคุยกับเขา

“มีสิ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอกินตั้งแต่แรกไง” เธอทำตาโต ขณะที่ลมหายใจก็หอบกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ