ทุกคนต่างก็คิดไม่ถึงว่า ถึงแม้ในเวลานี้แล้ว โลกพุทธถูกทำลาย ลูกศิษย์ถูกสังหาร อมิตาพุทธหมิงหนีก็ยังคงไม่ได้คิดที่จะสังหารหลินหยุน
แต่กลับยังคิดที่จะชักชวนให้หลินหยุนเข้าร่วมสังกัด
ใครต่างก็ไม่ทราบว่าหมิงหนีนั้นคิดอะไรอยู่ในใจ
เขตน้ำ บริเวณริมลำธารสายนั้น
เด็กน้อยไม่ได้กวนเล่นระลอกคลื่นน้ำอีกแต่อย่างใด ปล่อยให้น้ำในแม่น้ำสดใสบริสุทธิ์อยู่อย่างเดิม
กระแสน้ำวนกี่สายในนั้น ก็ไม่มีเสียงพูดอะไรอีกแล้ว
พวกเขาคาดคิดไม่ถึงว่า หลินหยุนจะเคลื่อนย้ายโลกชางฉองไปยังที่ตั้งของโลกพุทธ แล้วก็ทำการระเบิดโลกชางฉองขึ้น
เขาลงมือสังหารกวาดล้างโลกพุทธจริง ๆ ด้วย!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดพวกเขาก็ตั้งสติกลับคืนมาได้ เด็กน้อยสูดหายใจลึก และได้ยิน อมิตาพุทธหมิงหนียังคงที่จะชวนหลินหยุนเข้าสู่สำนักพระธรรมอีกด้วย
เด็กน้อยพูดขึ้นว่า “หมิงหนีคิดอะไรอยู่กันแน่? จนขณะนี้แล้ว ถึงขั้นนี้แล้ว กลับยังคิดที่จะต้องการตัวหลินชางฉองอีก? เขาคิดจะทำอะไรกันแน่? ”
กระแสน้ำวนสายหนึ่งส่งเสียงถอนหายใจ และพูดขึ้นด้วยเสียงที่แก่ชราว่า “หมิงหนี ช่างใจกว้างมากนัก นับพันปีก่อนหน้านี้ก็ต้องการที่จะให้นางฟ้าเย่เยว่เข้าสู่สำนักพระธรรมของเขา ตอนนี้ยิ่งจะกล้าหาญมากขึ้นอีก กล้าที่จะชวนให้หลินชางฉองเข้าร่วม จนถึงตอนนี้ก็ยังคงคิดที่จะทำแบบนี้อยู่! ”
เด็กน้อยพูดว่า “ใช่แล้ว เมื่อครู่หลินชางฉองพูดว่า จิตมารของหมิงหนี ไม่มีอยู่แล้ว เขาคงจะมองไม่ผิดหรอก แล้วจิตมารของเขาไปอยู่ไหนกันล่ะ? ”
กระแสน้ำวนอีกสายหนึ่ง ก็ส่งเสียงหญิงสาวที่สดใสขึ้น “หลินชางฉองมองไม่ผิดแน่นอน ดูเหมือนว่าหมิงหนีนี้มีวิธีการอื่น ๆ อยู่บ้าง พวกเราควรที่จะต้องให้ความสนใจมากขึ้นแล้ว! ”
ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งก็ได้ส่งเสียงฮึอย่างเหยียดหยามและพูดขึ้นว่า “ถึงอย่างไรเขาก็เปลี่ยนแปลงอะไรมากไม่ได้ หากว่าเขาไม่ร่วมมือกับเผ่าอื่น ๆ แล้ว ก็คงไม่มีอะไรหรอก! ”
......
เผ่าอื่น ๆ ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจักรวาล
อยู่ในบริเวณเขตแดนที่มีระยะอยู่ห่างจากใจกลางของจักรวาลอย่างมาก
ที่นี่มีโลกของเผ่าอื่น ๆ สองโลกดำรงอยู่
โลกสองแห่งนี้ ก็มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน
ทั้งสองโลกอยู่ใกล้กัน
ที่นี่คือการดำรงอยู่อย่างลึกลับที่สุดในบรรดาเผ่าต่าง ๆ
นี่ก็คือสถานที่ดำรงอยู่ของเผ่าชะตา และเผ่าคำสาปที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน
เผ่าของเจียซิน ก็คือสาขาที่แยกออกมาจากเผ่าคำสาป เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้
โดยเผ่าคำสาปนั้นรับฟังคำบัญชาจากเผ่าชะตา
เพราะว่าเผ่าชะตาคือเผ่าที่สามารถสื่อสารได้กับเต๋าสวรรค์จริง ๆ
เวลานี้ ภายในโลกของเผ่าชะตา เป็นที่ดำรงอยู่ของมีผู้ที่มีคุณธรรมอันสูงส่ง และเพียบพร้อมไปด้วยพลังต้าเต๋าอย่างน่าเหลือเชื่อ
บนภูเขาลูกนี้ มีชายวัยกลางคนในชุดสีขาวคนหนึ่ง และชายวัยกลางคนในชุดสีดำคนหนึ่ง โดยทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน
คนในชุดคุมยาวสีดำนั้นก็คือหัวหน้าเผ่าคำสาป
ส่วนคนในชุดคลุมยาวสีขาวนั้นก็คือหัวหน้าของเผ่าชะตาในรุ่นนี้
ทั้งสองคนต่างก็เก็บกลิ่นอายลมหายใจเอาไว้ ซึ่งก็เหมือนกับคนธรรมทั่วไปอย่างไรอย่างนั้น
เวลานี้ทั้งสองคนกำลังจ้องมองมายังโลกพุทธอยู่ไกล ๆ
หัวหน้าเผ่าคำสาปพูดขึ้นว่า “นับพันปีแล้ว ในที่สุดก็รอจนถึงวันนี้ได้! แต่หมิงหนีมีความต้องการมากเกินไปแล้ว ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเหลือเกิน! ”
หัวหน้าเผ่าชะตาพูดขึ้นว่า “เวลานี้ คือสถานการณ์ที่พวกเราได้คาดการณ์กันเอาไว้อย่างดีที่สุดแล้ว เพียงแค่ชักนำเพิ่มขึ้น ก็สามารถที่จะบรรลุเป้าหมายตามที่พวกเราได้กำหนดเอาไว้แล้ว จากไปนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของนายแล้ว”
หัวหน้าเผ่าคำสาปยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พยักหน้า และพูดว่า “เรื่องราวต่อจากนี้ ก็คงไม่มีอะไรยากอีกแล้ว เดิมทีฉันยังคิดว่า จะต้องให้ฉันลงมือด้วยหรือไม่ แต่เวลานี้ ชัดเจนว่าไม่จำเป็นแล้ว”
หัวหน้าเผ่าชะตากลับพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “อย่าได้วางใจเกินไปนัก โดยเฉพาะในตอนที่ยิ่งใกล้จะประสบความสำเร็จ”
หัวหน้าเผ่าคำสาปพูดว่า “วางใจเถอะ ฉันรู้ดีว่าควรทำอย่างไร นายนี่คิดมากเกินไปแล้ว ไม่ว่าเมื่อไรก็จะต้องระมัดระวังอยู่ตลอด ใช่แล้ว สถานการณ์ท่ามกลางซากปรักหักพังเป็นอย่างไรบ้าง? มีข่าวคราวอะไรบ้างไหม? ”
หัวหน้าเผ่าชะตาส่ายศีรษะ และพูดว่า “ยังไม่มี แต่สามคนนั้นคงจะเข้าสู่ประตูบานนั้นแล้ว ไม่อย่างนั้น ฉันก็น่าจะสามารถรับรู้ได้ถึงการดำรงอยู่ของพวกเขาได้! ”
หัวหน้าเผ่าคำสาปพูดว่า “ไม่มีข่าวคราว ก็ไม่ต้องไปสนใจก่อน รีบลงมือจัดการเรื่องทางจักรวาลนี้ก่อน ฉันขอตัวไปก่อนแล้ว! ”
เมื่อพูดจบลง หัวหน้าเผ่าคำสาปก็หายตัวแวบไปกับที่
หลินหยุนยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “หมิงหนี ฉันรู้ว่านายจะต้องทำอะไรไว้แล้วเป็นแน่ จึงจงใจที่จะมาวางเดิมพันกับฉัน แต่ฉันไม่สนใจหรอก ฉันเชื่อว่าภรรยาของฉัน เพียงแค่พบเจอกับฉันแล้ว แผนการอะไรของนายคงจะไม่เกิดผลแน่! ฉัน วางเดิมพันกับนาย! ”
หมิงหนีพยักหน้า และพูดว่า “ตกลง! ”
เมื่อเขาพูดจบ ท่ามกลางแท่นบัวทองที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา ก็พลันส่องแสงสีดำขนาดใหญ่และประหลาดขึ้น ทันใดนั้น เงาร่างของผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินออกมาจากภายในนั้น
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือเย่เยว่นั่นเอง!
เพียงแต่เย่เยว่ในตอนนี้ มีสีหน้าที่ขาวซีด อีกทั้งแววตาก็ไม่ได้บริสุทธิ์สดใสเหมือนกับในอดีต ดูเย็นชาเป็นอย่างมาก
ขณะที่เห็นเย่เยว่เดินออกมานั้น จิตใจของหลินหยุนราวกับถูกเคาะตีอย่างรุนแรง
เส้นเลือดสูบฉีดไหลเวียน จิตใจซับซ้อนอย่างที่สุด ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้
“เย่เยว่! ”
หลินหยุนตะโกนเรียกเสียงดัง เงาร่างก็พลันแวบหายไป และกระโดดย่ำขึ้นไปบนอากาศ มาถึงเบื้องหน้าของเย่เยว่ แต่ว่าในขณะนั้นเอง ในมือของเย่เยว่ก็ปรากฏกระบี่ยาวสีดำขึ้นเล่มหนึ่ง
เมื่อกวัดแกว่งกระบี่ยาวแล้ว ก็ทิ่มแทงเข้าใส่หลินหยุนทันที
หลินหยุนคาดคิดไม่ถึงว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
เมื่อเขาตั้งสติกลับคืนมาได้ กระบี่ยาวสีดำก็ได้แทงทะลุโลกกำลังภายในตัวของเขาแล้ว
ยังดีที่ว่า ตอนนี้โลกกำลังภายในตัวของเขาไม่ได้รองรับต้าเต๋า ไม่อย่างนั้น เพียงแค่การแทงแบบนี้ก็คงจะเอาชีวิตหลินหยุนไปได้แล้วครึ่งหนึ่ง
เพราะว่าหลินหยุนรับรู้ได้ถึงความพิเศษท่ามกลางพลังของกระบี่ยาวสีดำเล่มนี้
โดยแอบแฝงไปด้วยมารที่ชั่วร้ายอย่างที่สุด
เวลานี้ในที่สุดเขาก็รู้ได้แล้วว่า ทำไมจิตมารในจิตใจของหมิงหนีนั้นถึงได้หายไป
ที่จริงแล้วเขาได้ตัดขาดจิตมารนั้นลงไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำให้มันดับสูญไป
เพราะว่าจิตมารนั้นก็คือตัวเขาเอง
เมื่อดับสูญไป เขาก็จะได้รับบาดเจ็บไปตลอดกาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...