เมื่อเห็นหยู่ลั่วจินไซเดินออกไป โดยไม่แม้แต่จะทักทาย สีหน้าส้งอันหมิงดูแย่
เพียงแต่ว่า หยู่ลั่วจินไซไม่ใช่บุคคลที่ตระกูลส้งกล้าทำให้ขุ่นเคือง
พูดถึงอำนาจของควีนจินที่อยู่เบื้องหลังหยู่ลั่ว แม้ว่าจะเป็นหยู่ลั่วเอง ตระกูลส้งก็ไม่กล้าที่จะล่วงเกิน เพราะตอนนี้หยู่ลั่วเป็นคนใกล้ตัวที่สนิทของนายก
ฉินหลันก็ดูตกใจเช่นกัน นิ่งอึ้งและจ้องไปที่หลินหยุน รู้สึกว่ามีคำถามมากมายในใจที่ไม่เข้าใจ แต่ในชั่วขณะก็ไม่รู้ว่าจะถามจากจุดไหนก่อน
เหยียนรุ่ยเหวินโกรธมาก เมื่อกี้ทำให้เขาตกใจจริงๆ
โชคดีที่หยู่ลั่วจินไซไม่โกรธ
เหยียนรุ่ยเหวินชี้ไปที่ฉินหลันและตะโกนเสียงดัง “ผู้ช่วยฉิน คุณแน่มาก! ถึงตามใจบอดี้การ์ดของตัวเองจนทำให้หยู่ลั่วจินไซขุ่นเคือง ถ้าควีนจินตำหนิกล่าวโทษมา คุณแบกรับไหวหรือเปล่า?”
“ถึงตอนนั้น ฉันเกรงว่าบริษัทตงหวางกรุ๊ปทั้งหมดคงจบเห่แน่!”
“และคุณ ก็จะเป็นคนบาปของบริษัทตงหวางกรุ๊ป!”
ฉินหลันตะโกนอย่างโกรธเคือง “หุบปาก! นายมีคุณสมบัติอะไรที่จะพูดเรื่องนี้? เมื่อกี้นี้นายซ่อนตัวเร็วกว่าใครๆ และทำตัวเหมือนกับว่าไม่รู้จักพวกเรา ตอนนี้หยู่ลั่วไปแล้ว นายก็กระโดดโลดเต้นออกมา คนชั้นต่ำที่ไร้ยางอายจริงๆ!”
พูดแทงใจดำเหยียนรุ่ยเหวิน ทันใดนั้นก็หน้าแดง
เพียงแต่ว่า เขาไม่ยอมรับอย่างแน่นอน
“ผู้ช่วยฉิน คุณไม่จำเป็นต้องใส่ร้ายคนอื่น คนที่ทำให้หยู่ลั่วจินไซขุ่นเคือง คือบอดี้การ์ดของคุณ เรื่องนี้ทุกคนสามารถยืนยันได้”
“หลังจากที่กลับไปแล้ว อยู่ในที่ประชุมประธานคณะกรรมการของบริษัทตงหวางกรุ๊ป จะบอกเรื่องนี้ต่อหน้าทุกท่าน และดูว่าคุณจะให้คำอธิบายที่น่าพอใจแก่ประธานทุกท่านได้อย่างไร!”
ฉินหลันตะโกนอย่างโกรธเคือง “เหยียนรุ่ยเหวิน นายตาบอดหรือไง! นายไม่เห็นหรือไง ว่าหยู่ลั่วจินไซจากไปเอง? และยังขอโทษหลินหยุน จะเป็นหลินหยุนทำให้เธอขุ่นเคืองได้อย่างไร?”
เหยียนรุ่ยเหวินยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ฮึ่มๆ คำพูดเหล่านี้ เธอเก็บไว้ไปอธิบายในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเอาเอง เพราะฉันรู้เพียงว่า บอดี้การ์ดของคุณได้ปฏิเสธความหวังดีของหยู่ลั่วจินไซ และพลาดโอกาสที่จะผูกมิตรกับควีนจิน ถึงเวลานั้น จะดูสิว่าหวางซูเฟินจะหาคำอธิบายอะไรกับคณะกรรมการบริษัทให้พอใจ”
“คนต่ำช้าที่น่ารังเกียจ!” ฉินหลันโกรธจัด
หลินหยุนพูดอย่างเฉยเมย “พี่ฉินหลัน ถ้าเขาอยากพูดก็ปล่อยเขาพูดไป ทำไมต้องไปถือสากับคนชั้นต่ำเช่นนี้? พวกเรากลับกันเถอะ!”
“โอเค!”
หลินหยุนติดตามฉินหลันออกจากคลับไดนาสตี้
ทันทีที่เขาขึ้นรถ ฉินหลันก็เริ่มบ่นว่า “การประชุมสุดยอดขนาดเล็กอะไรเนี่ย ไม่เห็นดีเหมือนคำเล่าลือเลย มันเป็นเพียงการพบปะของพวกอันธพาลเศรษฐีหนุ่มเหล่านั้น!”
ตอนแรกยังคาดหวังว่าจะได้นักลงทุนจากการประชุมสุดยอดขนาดเล็กนี้ ต่อไปสถานที่แบบนี้ ฉันจะไม่ไปอีก”
หลินหยุนถามว่า “ปัญหาด้านเงินทุนของบริษัทตงหวางกรุ๊ป หนักขนาดนั้นจริงหรือ? พวกคุณเคยคิดไหมว่า บริษัทตงหวางกรุ๊ปอาจถูกคนอื่นวางกับดัก?”
ฉินหลันมองไปที่หลินหยุน และพูดด้วยความระมัดระวัง “หลินหยุนนายรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทตงหวางกรุ๊ปของเรามากเกินไปหรือเปล่า?”
“อีกอย่าง อย่าบอกฉันว่าฐานะตัวตนของนายเป็นแค่บอดี้การ์ดคนหนึ่ง พูดมาสิ นายเป็นใครกันแน่? มีจุดประสงค์อะไร?”
หลินหยุนยิ้มแหย่ๆ “พี่ฉินหลัน ฉันจะมีจุดประสงค์อะไร คุณเป็นคนบอกให้ฉันเป็นบอดี้การ์ดของคุณเอง และไม่ใช่ว่าฉันจงใจแอบซุ่มอยู่เคียงข้างคุณ คุณไม่อายเหรอที่มาสงสัยฉัน?”
ฉินหลันก็ไม่เชื่อว่าหลินหยุนจะมีจุดประสงค์ใดๆ และแม้ว่าหลินหยุนจะมีจุดประสงค์จริงๆ ฉินหลันก็รู้สึกว่าหลินหยุนคงจะไม่ทำร้ายเธอ
ท้ายที่สุดแล้ว สัญชาตญาณของผู้หญิงบางครั้งก็แม่นยำมาก
โดยเฉพาะจากสายตาที่หลินหยุนมองเธอ พบความอบอุ่นที่เข้มข้นมาก
ความรู้สึกแบบนี้ ต้องได้รับจากประสบการณ์ตัวเองจริงๆ ปลอมแปลงไม่ได้เลย!
จากผลการสอบการประชุมสุดยอดจงโจวในชาติที่แล้วของหลินหยุน และพูดว่า “ก่อนอื่น ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลส้ง พื้นที่ที่คุณแย่งกับตระกูลส้ง สุดท้ายคนที่ชนะไม่ควรเป็นพวกคุณ”
“ฉันสงสัยว่าตระกูลส้งจงใจยอมแพ้ให้พวกคุณ เพื่อวางแผนล่อเงินลงทุนของพวกคุณ”
“จากนั้น ธนาคารก็ไม่ให้กู้ยืม! มีเพียงตระกูลส้งเท่านั้นที่มีความสามารถพิเศษเช่นนี้ เพื่อให้ธนาคารหยุดการกู้ยืมแก่บริษัทตงหวางกรุ๊ป”
“จากนั้น ก็ให้คนในบริษัทตงหวางกรุ๊ปหักหลังกันเอง ไม่มีเงินลงทุน ตรงจุดนี้ บริษัททั่วไปทำไม่ได้ มีเพียงตระกูลส้งเท่านั้นที่มีความสามารถเช่นนี้ ท้ายที่สุด ไม่มีหนทางไป”
ในเวลานี้ ตระกูลส้งก็จะใช้ราคาต่ำ มากว้างซื้อบริษัทตงหวางกรุ๊ป ความแข็งแกร่งของตระกูลส้งจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะตามทันซูเปอร์แฟมิลี่ใหญ่ในปักกิ่ง!”
ฉินหลันอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้หลินหยุน “เยี่ยม นายยอดเยี่ยมมาก! การวิเคราะห์ของนายกับของท่านประธานไม่แตกต่างกัน ถ้าพานายไปแนะนำให้ท่านประธานรู้จัก เธอจะต้องมีความสุขมาก!”
หลินหยุนยิ้มแหย่ๆ จะไม่เหมือนกันได้ยังไง? คำตอบที่เขาพูดนั้นเป็นข้อสงสัยที่หวางซูเฟินเขียนไว้ในชาติที่แล้ว
และเขียนข้อสงสัยขึ้นมาในช่วงที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก แม้จะนำไปให้หวางซูเฟินดู หวางซูเฟินก็ต้องตกใจ!
“จริงสิ เอางี้ไหมนายกลับไปที่บริษัทตงหวางกรุ๊ปกับฉันเพื่อพบท่านประธานไหม! ฉันเดาว่าเธอคงมีความสุขมากที่ได้พบนาย!” ฉินหลันพูด
หลินหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในเวลานี้ ยังไม่เหมาะที่จะไปที่บริษัทตงหวางกรุ๊ป
“รอไปก่อน ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ ถ้ามีโอกาสฉันจะไปเยี่ยมเยียมที่บริษัทตงหวางกรุ๊ปแน่นอน!” หลินหยุนพูด
ฉินหลันก็ไม่ได้บังคับ แต่รู้สึกเสียใจเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ นายระวังตัวด้วย!”
“ครับ พี่ฉินหลันก็เหมือนกัน หลังจากที่กลับไปแล้ว เหยียนรุ่ยเหวินจะต้องเอาเรื่องที่ผมปฏิเสธหยู่ลั่วมาเอะอะโวยวายอย่างแน่นอน คุณต้องหาวิธีจัดการกับมันล่วงหน้า!”
“ไม่ต้องห่วง ฉันคิดไว้แล้ว!” ฉินหลันยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...