จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 82

บทที่ 81 แกสมควรตาย

ในเวลานี้เจี่ยงสงได้เกิดความกลัวขึ้น ทั้งที่เมื่อครู่เขานั้นได้ตัดสินใจยอมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อขอซื้อไข่มุกเม็ดนี้

ถ้าหากว่าหลินหยุนไม่อยู่ที่นี่ ได้พูดเล่าถึงเรื่องประวัติความเป็นมาอันแท้จริงของไข่มุกนี้ อาจเป็นไปได้เกินกว่าครึ่งว่าไข่มุกเม็ดนี้คงจะตกไปเป็นของเขาอย่างแน่นอน

เมื่อคิดถึงในอนาคตว่าคฤหาสน์ที่ตนเองซื้อมาในราคากี่สิบล้านกลายเป็นบ้านผีสิง คิดว่าตนเองถูกหยินชี่เข้าจู่โจมทำร้าย คงจะต้องเสียชีวิตเป็นแน่......

เจี่ยงสงโมโหถึงขนาดกัดฟัน“เจียงจงโยว คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าหลอกลวงข้า เชื่อหรือไม่ว่าวันนี้ข้าจะทำให้แกไม่มีทางรอดออกไปจากเมืองหลินโจวได้! ”

เจียงจงโยวหัวเราะเยาะเย้ย โดยไม่พูดอะไร แม้ว่าจะอยู่ในเขตพื้นที่ของเจี่ยงสง แต่เขาแทบจะไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย

หวางจื้อเหอก็ตกใจถึงขนาดกลับไปนั่งบนเก้าอี้ทันที แล้วมองไปที่ไข่มุกเม็ดนั้นอีกครั้ง เหมือนกับว่ามองเห็นผีปีศาจตนหนึ่ง ตกใจกลัวจนเขาไม่กล้าหันมองอีก

ผู้มีอิทธิพลอำนาจทั้งหลายต่างรักและเสียดายชีวิต มีทั้งเงินและอำนาจ ดังนั้นจะให้ความสำคัญกับชีวิตมากที่สุด เจียงจงโยวได้ทำการละเมิดอย่างหนักถึงขีดจำกัดของพวกเขาแล้ว แม้แต่ผู้ที่มีนิสัยอ่อนโยนมาตลอดอย่างท่านผู้อาวุโสหวางจื้อเหอ ก็ยังเกิดความโมโหขึ้น

“เจียงจงโยว คาดไม่ถึงว่าแกจะกล้าเอาสิ่งที่ชั่วร้ายมาทำร้ายผู้คน ฉันกับแกคงจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อีกแล้ว! ”

ผู้มีอิทธิพลอำนาจทั้งสามตระกูลที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้พร้อมใจกันพุ่งเป้าหมายไปที่เจียงจงโยว เขาเองก็เป็นแค่เพียงบุคคลธรรมดาในชิ่งโจว ถ้าหากผู้มีอิทธิพลอำนาจทั้งสามตระกูลร่วมมือกันแล้วล่ะก็ เขาคงจะไม่ใช่คู่ต่อกรเป็นแน่

แต่ว่า เจียงจงโยวกลับมีสีหน้าท่าทีที่ไม่เกรงตัวเพราะถือว่ามีคนหนุนหลัง หัวเราะอย่างโอหังแล้วพูดว่า“ฮึม หากไม่ใช่เป็นเพราะไอ้เด็กมากเรื่องผู้นี้แล้ว ตอนนี้พวกแกก็คงจะนำไข่มุกนี้ไปเทิดทูนบูชากันแล้ว! หลอกลวงพวกแกแล้วยังไงกัน? ความสามารถของพวกแกก็มีกันอยู่แค่นี้ จะสามารถมองออกกันได้ด้วยเหรอ? ”

เพียงคำพูดเดียว ถึงขนาดทำให้ผู้มีอิทธิพลอำนาจทั้งหลายหน้าแดงเขินอายไปตาม ๆ กัน

เจียงจงโยวจ้องมองไปที่หลินหยุนด้วยท่าทางที่โหดร้าย ด่าว่า“ไอ้หนุ่มน้อย แกมาขัดขวางทำลายยุ่งเรื่องของข้า! ”

“ปรมาจารย์หยาง เชิญท่านเป็นผู้ลงโทษจัดการเจ้าหนุ่มน้อยผู้นี้! เจียงจงโยวหมุนตัวกลับไปพูดอย่างเคารพกับผู้อาวุโสที่ผอมแห้งแรงน้อยผู้นั้น”

ดวงตาทั้งสองข้างปรมาจารย์หยางปรากฏกลายเป็นสีขาวเทา จ้องไปที่หลินหยุน และพูดอย่างเย็นชาว่า“ไอ้หนุ่มน้อย แกมาขัดขวางทำลายเรื่องที่ดีของข้า แกมันสมควรตาย! ”

“วันนี้ พวกแกทุกคนอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปได้! ”

พูดจบ ปรมาจารย์หยางก็ได้ปลดปล่อยพลังลมปราณสีดำออกมาทันที ร่างกายที่ผอมแห้งขณะนี้ได้เป่งบวมขึ้น บนใบหน้าและมือรวมถึงผิวหนังที่อยู่ภายนอก มีขนยาวสีเขียวงอกออกมา เขี้ยวทั้งสองซี่โผล่ออกมาจากปาก เพียงแวบเดียวก็งอกยาวขึ้นถึงขนาดห้าเซนติเมตรเลยทีเดียว

“อะไรกัน ปีศาจเหรอเนี่ยะ! ”

ทุกคนตกใจกลัวจนวิ่งหนีหลบซ่อนกันหมด ลูกน้องของผู้มีอิทธิพลอำนาจทั้งหลายต่างก็ไม่ได้สนใจหัวหน้าผู้มีอิทธิพลอำนาจของตน คิดแต่เพียงวิ่งหนีออกไปทางประตูเท่านั้น

ปรมาจารย์หยางหัวเราะกรีดร้องด้วยเสียงที่แปลกประหลาด มือแต่ละข้างจับตัวของเด็กหนุ่มที่กำลังวิ่งหนีเอาไว้ แล้วจัดการบิดคอของเด็กทั้งสองจนหักตายคาที่

“ข้าพูดเอาไว้แล้วว่า วันนี้พวกแกทุกคนไม่สามารถหนีรอดไปได้! ”

“ช่วยด้วย! ”

หูเต๋อลี่ตกใจกลัวจนร้องตะโกนออกมาเสียงดัง

หวางจื้อเหอล้มลงไปกองอยู่บนพื้น

เจี่ยงสงก็ตกใจกลัวจนหมอบคลานอยู่บนพื้น ตัวสั่นไปหมด

เฉียนหัวชิงก็สีหน้าซีดขาว ขาสั่นไปทั้งสองข้าง“นี่มัน นี่มันเป็นไปได้อย่างไร! เรื่องราวของปีศาจและพลังการทำลายล้าง คิดไม่ถึงว่ามันจะยังคงหลงเหลืออยู่จริง! ”

หลินหยุนมองไปที่ร่างปีศาจของปรมาจารย์หยาง ตอนแรกที่ปรมาจารย์หยางเพิ่งเดินเข้ามาภายในห้องนั้น เขาก็รู้สึกรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายในตัวของปรมาจารย์หยางที่ผิดปกติไม่ธรรมดา

นั่นก็คือลมหายใจที่มีความคล้ายคลึงกับปราณพิฆาต แต่มีพลังที่อ่อนด้อยกว่าปราณพิฆาตมากพอสมควร

“วิธีการฝึกฝนของท่านผู้นี้ เหมือนว่าจะสืบทอดมาจากโลกเซียนสำนักนิรย แต่ว่าจะอ่อนด้อยกว่าสำนักนิรยเป็นหมื่นเท่า”

ปรมาจารย์หยางสังหารไปแล้วสองคน จึงมีขวัญกำลังใจมากขึ้น แล้วมองไปที่หลินหยุนและพูดด้วยรอยยิ้มที่แปลกว่า“ไอ้หนุ่มน้อย แกขัดขวางทำลายเรื่องที่ดีของข้า ข้าจะดูดเลือดของแกให้หมด แล้วจะทำให้แกกลายเป็นหุ่นศพ นำเอาดวงวิญญาณของแกสะกดไว้ในร่างหุ่นศพนี้ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดตลอดชาติ! ”

พูดจบ ปรมาจารย์หยางก็อ้าปากกว้าง แล้วพุ่งกระโจนไปยังหลินหยุน

เฉียนหัวชิงสะดุ้งโหยง ตะโกนพูดว่า“รีบหนีเร็ว! ”

หลินหยุนยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน มีสีหน้าท่าทางที่หมดหวัง พูดอย่างเย็นชาว่า“ลำพังแค่ปราณพิฆาตที่เกิดจากการฝึกฝนของพวกนอกลู่นอกทาง ก็ยังกล้าที่จะแสดงพลังต่อหน้าของข้า! ”

“ไม่ต้องมาพูดพร่ำทำเพลงเพียงแค่แกคนเดียว ต่อให้แกเรียกผีดิบมากี่พันล้านร่าง ข้าก็สามารถเผาไหม้ให้ราบเป็นหน้ากลองได้”

“ไฟจงมา! ”

หลินหยุนโบกมือข้างหนึ่ง เปลวเพลิงอันร้อนแรงลุกไหม้อยู่บนมือของเขา อุณหภูมิภายในห้องเพิ่มสูงขึ้นมากทีเดียว

เปรี้ยะเปรี้ยะดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นสภาพที่น่ากลัวน่าสยดสยองเสียจริง!

เห็นว่าหลินหยุนไม่ยอมที่จะยกโทษให้เขา ปรมาจารย์หยางจึงหัวเราะขึ้นด้วยเสียงอันดุร้าย“ไอ้หนุ่มน้อย ในเมื่อแกต้องการที่จะให้ฉันตาย ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะตายไปพร้อมกันกับแกด้วย! ”

ขณะกำลังพูด ปรมาจารย์หยางก็พุ่งกระโจนไปหาหลินหยุน ต้องการให้หลินหยุนถูกเปลวเพลิงลุกไหม้ท่วมร่างเช่นกัน

หลินหยุนใช้มือตบออกไป พลังอันแกร่งกล้านั้นทำให้ปรมาจารย์หยางล้มลงไปกองที่พื้น

“โง่เง่าสิ้นดี! ”

ปรมาจารย์หยางดิ้นรนที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แต่ว่า เขารู้สึกว่าร่างกายของตนนั้นถูกภูเขาใหญ่กดทับอยู่ ไม่สามารถที่จะขยับตัวไปมาได้

“ไอ้หนุ่มน้อย วันนี้แกฆ่าฉัน อาจารย์ของข้าไปปล่อยแกไว้แน่! ”

ปราณพิฆาตในร่างกายของปรมาจารย์หยางถูกเปลวเพลิงเผาไหม้อย่างหมดจด จนนี้ถึงร่างเนื้อแท้ของเขาแล้ว ไม่มีปราณพิฆาตคุ้มกันปกป้อง ชั่วครู่เดียว ปรมาจารย์หยางก็ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่าน

หลินหยุนแอบเปรียบเทียบว่า“ที่บอกว่าจิตวิญญาณเข้าสู่แดนทิพย์ คงจะเทียบเท่ากับพลังยุทธ์ของนักบู๊พรสวรรค์ ในส่วนของท่านซ่งเห้อ ก็คงจะเป็นพลังยุทธ์ของนักบู๊พรแสวง”

ทุกคนภายในห้องเห็นสภาพที่ปรากฏขึ้นนี้ ตกตะลึงจนตาค้าง ทยอยกันสูดอากาศหายใจ

เจียงจงโยวตกใจกลัวถึงขนาดกลืนน้ำลายแห้ง มองไปยังหลินหยุนด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่น่าเชื่อ ถ้าหากเรื่องดังกล่าวไม่ปรากฏขึ้นต่อหน้าของตน เขาคงจะไม่เชื่อแน่ขนาดปรมาจารย์หยางผู้ที่เก่งกาจขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะถูกเปลวเพลิงเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่านไปได้!

สายตาของหลินหยุนหันมองไปที่เจียงจงโยว พูดขึ้นว่า“เมื่อครู่แกต้องการจะฆ่าข้าใช่ไหม? ”

เจียงจงโยวรีบคุกเข่าไปที่ด้านหน้าของหลินหยุน ร้องขอชีวิต“ปรมาจารย์ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้าสักหน่อย ! ข้าก็ถูกปรมาจารย์หยางบีบบังคับ ดังนั้นจึงมาที่นี่เพื่อหลอกลวงคน! ขอปรมาจารย์ยกโทษปล่อยชีวิตข้าไปเถอะ! ”

หลินหยุนพูดเบา ๆ ว่า“ชีวิตของแกในสายตาของข้านั้น ไม่มีค่าอันใดเลย แต่ว่าถ้าหากจะให้ข้าปล่อยชีวิตแกไป จะต้องนำเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของแกมาแลก”

ทรัพย์สินครึ่งหนึ่ง!

เจียงจงโยวเกือบที่จะสำลักน้ำลายเสียชีวิต หลินหยุนกล้าดีถึงขนาดเอ่ยปากขอมากขนาดนี้เลย!

“ทำไม? ไม่ยินยอมเหรอ? ” หลินหยุนเกิดความสงสัยจึงเอ่ยปากถามขึ้นทันที

“เปล่า ยินยอม ข้าเต็มใจอยู่แล้ว! ” เจียงจงโยวหัวเราะเหอะเหอะแล้วก็ตอบตกลง เลือดไหลหยดในใจอา...!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์