จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 153

ภายในป่าดิบชื้นบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ สถานที่ซ่องสุมของเหล่าวายร้ายในเอเชีย อันตรายในป่าแห่งนี้ นอกจากเกิดเพราะฝีมือมนุษย์แล้ว ยังมีสัตว์ป่าดุร้ายและแมลงพิษที่น่าหวาดกลัว ทำให้ผู้ที่หลงเข้ามามีโอกาสรอดไม่ถึง 10%

เมื่อวานนี้ เฉินจิ้ง เจนนี่ โม่ซินหยานและเหล่าลูกศิษย์ ได้รับภารกิจให้มาจัดการกับผู้ก่อการร้ายในฐานทัพของทรงยุทธ โดยเฉินจิ้งและเจนนี่มีหน้าที่ดึงดูดความสนใจ

ส่วนโม่ซินหยานและเหล่าลูกศิษย์มีหน้าที่ลอบสังหาร พวกหัวหน้าหน่วยที่มีอำนาจสั่งการ เพื่อทำให้พวกผู้ก่อการร้ายเกิดความสับสนและวุ่นวาย

เนื่องจากฐานบัญชาการของผู้ก่อการร้าย กระจายอยู่ไปทั่วหลายสิบจุด ดังนั้นเพื่อที่จะดึงดูดความสนใจได้ เฉินจิ้งกับเจนนี่เลยต้องแยกกันทำงาน

ตอนนี้ บรรดาแกนนำของทรงยุทธถูกฆ่าตายไปเกือบหมดแล้ว สถานที่แห่งนี้จึงเหลือเพียงคนธรรมดากับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

แต่ถึงแม้จะไม่มียอดฝีมือระดับสูงคอยดูแล แค่คนธรรมดาเกือบแสนคนพร้อมอาวุธหนักครบมือก็ทำให้พวกเฉินจิ้งต้องปวดหัวแล้ว

ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย…

ที่จริงแล้วจุดประสงค์หลักของภารกิจในครั้งนี้คือ ฝึกฝนพวกทหารหนุ่มสาวที่จะต้องเข้าร่วมการทดสอบในอีก 13 วันที่จะถึง

ดังนั้นหากเฉินจิ้งเลี่ยงได้ก็อย่าลงมือเองเยอะเกินไป เดี๋ยวคนที่ตามมาที่หลัง จะไม่เหลือคู่ต่อสู้ให้ฝึกฝน

ตอนนี้เฉินจิ้งกำลังยืนเอนหลังพิงต้นไม้ขนาดใหญ่ อย่างเหนื่อยล้า เหมือนกับว่าชีวิตของเขาชอบดึงดูดเอาเรื่องยุ่งยากเข้ามาเสมอ

ขณะที่เขากลั้นหายใจ ยืนนิ่งได้ไม่นาน พลังอันเยียบเย็นสายหนึ่ง ก็ได้ไต่ขึ้นมาบนหลังของเขาอย่างเงียบๆ ความรู้สึกนี้ไร้รูปร่างแต่กลับสัมผัสได้

คล้ายกับลิ้นเย็นเยียบของผีร้าย กำลังค่อยๆเลียกระดูกสันหลังของเขาอยู่…

‘ บัดซบ! มันจะมาอีกแล้ว ’

เพียงเสี้ยววินาทีนั้นเอง ความรู้สึกอันตรายที่ร้ายแรง ก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของเฉินจิ้ง หัวใจของเขาเต้นแรง รูขุมขนทั่วร่างลุกชันขึ้นมาทันที

วูป!

เขาก้าวเท้าเอียงตัวหลบไปด้านหน้า เห็นเพียงพื้นด้านหลังที่ว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิต กำแพงมิติพลันสั่นไหว

สุนัขป่าขนดำยาวเกือบสามเมตร ดวงตาเปล่งประกายสีเขียวมรกต กระโดดออกมาจากความว่างเปล่า มันอ้าปากกว้างพุ่งเข้าใส่ลำคอของเฉินจิ้ง

เขี้ยวของมันแหลมคม ยาวเกือบสิบเซนติเมตร เปล่งออร่าสังหารน่าสะพรึงกลัว หากโดนมันกัดเข้าไปแม้แต่เกล็ดมังกรก็คงเอาไม่อยู่

ฟุ่บ!

เพราะเฉินจิ้งจับความรู้สึกอันตรายนั้นได้ก่อน เขาจึงหลบได้แบบฉิวเฉียด คมเขี้ยวของมันเฉียดแก้มเขาไปนิดเดียว

เขาสามารถได้กลิ่นเหม็นคาวออกมาจากปากของมันได้…

‘ ทำไมฉันถึงซวยแบบนี้…ดันไปเจอสัตว์เลี้ยงของทรงยุทธซะได้ ไอ้หมาตัวนี้มันตามฉันมาทั้งคืนแล้ว แม้มันจะอยู่ในขอบเขตเซียนขั้นต่ำ แต่การสู้กับมันก็ค่อนข้างลำบาก ’

‘ เพราะมันไม่มีกายเนื้อ…การโจมตีทางกายภาพจึงใช้ไม่ได้ผล ต้องใช้เคล็ดวิชาเฉพาะทางเท่านั้นถึงจะกำหลาบมันได้ ช่างน่าปวดหัวเสียจริง ’

“ เพลิงนรกอเวจี! ”

คลื่นเปลวเพลงทมิฬของเฉินจิ้งระเบิดใส่สุนัขป่าตัวนั้นอย่างแรง ด้วยระยะประชิดแบบนี้ทำให้มันทรงอานุภาพสูงสุด

ตูมม!

ต้นไม้ใหญ่หลายต้นถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน ทุกสิ่งทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง เกิดเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ตรงหน้าเฉินจิ้ง

โฮกกก!

เฉินจิ้งเอียงตัวหลบอีกครั้ง คราวนี้สุนัขป่าเล็งโจมตีไปที่ขาของเขา ตามเนื้อตัวของมันปราศจากบาดแผลใดๆ เปลวไฟของเฉินจิ้งโจมตีมันไม่โดนแม้แต่น้อย

สุนัขป่าตัวนี้ สามารถเคลื่อนไหวระหว่างมิติที่สามและมิติที่สี่ได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังเป็นเผ่ามารวิญญาณที่มีร่างกายเหมือควันสีดำ ทำให้ต่อสู้ลำบากมาก

‘ จะว่าไป…หมาตัวนี้น่าจะแพ้ทางหวังซินหยางนะ เพราะเขาสามารถดูดกลืนวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังได้ ’

‘ กลับไป…ฉันคงต้องขอเรียนรู้เคล็ดวิชาแบบนี้ไว้บ้างแล้ว ’

“ มันอยู่นั่น…ล้อมมันไว้”

“ ยิงพลุไฟ เรียกทุกคนมาเร็ว! ”

“ สไนเปอร์อยู่ไหนวะ ยิงมันเลย ”

ผู้ก่อการร้ายมากมาย โผล่ออกมาเข้าล้อมเฉินจิ้งเอาไว้ จำนวนคนน่าจะหลักสองพันได้ เฉินจิ้งจึงรีบฝ่าวงล้อมหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

ปัง!ๆๆๆๆๆ

ตูมมม!

เจนนี่ตะโกนออกมาเสียงดัง บังอาจมาทำร้ายอาจิ้งต่อหน้าเธองั้นเหรอ คนที่รังแกอาจิ้งได้มีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น

เธอยกมือขึ้นคว้าไปที่สุนัขป่าขนดำตัวนั้น แล้วกระชากมันออกมาจากช่องว่างมิติ ทำให้มันไม่สามารถใช้มิติหลบหนีได้อีก จนมันร้องอกมาเสียงดัง

เอ๋งๆๆๆ

“ สุดยอดเลยเจนนี่…ขอฉันจัดการมันเองนะ เธอจับมันไว้แบบนั้นแหละ ” เฉินจิ้งพูดขึ้นด้วยความอัดอั้น แม้ว่าสภาพของมันในตอนนี้จะดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก เพราะโดนเจนนี่จับเอาไว้กลางอากาศ

แต่ในขณะ ที่เฉินจิ้งกำลังจะใช้พลังจัดการกับสุนัขป่าตัวนั้น จู่ๆก็มีแสงสีดำสว่างออกมาจากตัวของเจนนี่

วูปปป!แวปป!

สุนัขป่าขนดำตัวนั้นกลายเป็นละอองแสง เข้าไปในร่างของเจนนี่ทันที มันได้ยอมรับเจนนี่เป็นราชินีของมัน

นี่เป็นพลังของราชินีแห่งมวลมาร ที่เจนนี่ใช้ออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอสามารถควบคุมเผ่ามารที่อ่อนแอกว่าได้ นั่นเท่ากับว่าตอนนี้สุนัขป่าขนดำตัวนั้นได้กลายเป็นสมุนของเธอแล้ว

“ นี่…ฉันสู้กับมันมาตั้งนาน แต่สุดท้ายมันกลับเลือกเธอเนี่ยนะ ” เฉินจิ้งพูดออกมาแบบเซ็งๆ อันที่จริงเขาค่อยข้างชอบมันเลยล่ะ หมาป่าขนดำสุดเท่เลยนะนั่น

“ ทำไม…นายมีปัญหาเหรอ ” เจนนี่พูดด้วยแววตาเอาเรื่อง ทำให้เฉินจิ้งสะดุ้งทันที เขารีบส่ายหน้าว่าไม่มีปัญหาอย่างรวดเร็ว

“ ฉันคิดว่าตอนนี้…คนของเราคงแฝงตัวเข้าไปกันหมดแล้ว ไม่ต้องดึงความสนใจแล้วล่ะ หน้าที่ต่อไปของพวกเราคือ คอยช่วยชีวิตพวกเขาในยามที่คับขันจริงๆ ” เฉินจิ้งพูดเปลี่ยนเรื่องแบบเนียนๆ

“ ก็คงแบบนั้นแหละ…งั้นไปกันเถอะ ” เจนนี่พยักหน้าพูดขึ้นอย่างเห็นด้วย

ทันใดนั้น…

หมับ!

“ นี่….นายจะทำอะไร ” เจนนี่พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดง

เธอถูกเฉินจิ้งอุ้มแนบอกด้วยแขนข้างเดียว เนื่องจากตอนนี้เธอตัวเล็กมาก และเฉินจิ้งตอนได้ร่างมังกรก็ตัวสูงขึ้นเยอะ เขาก็จึงอุ้มเธอไปได้โดยง่าย

“ ฉันก็จะพาเธอบินไปด้วยกันไง…หรือเธอไม่อยากไปกับฉันล่ะ ” เฉินจิ้งพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส แววตาเป็นประกาย

“ ฉัน… ” เจนนี่ไม่ตอบ เธอซบลงกับแผ่นอกของเฉินจิ้งด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ปล่อยให้เขาทำตามใจ

‘ ฉัน…เริ่มรู้สึกชอบร่างนี้ซะแล้วสิ ’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน