ภายในมิติลับตอนนี้ เหมือนถูกแบ่งครึ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยมีจ้าวเทียนยืนอยู่ตรงกลาง ด้านขวามือของเขาเต็มไปด้วยแสงสว่างสีทองอันเจิดจ้า กลีบดอกไม้และผีเสื้อที่เกิดจากอณูพลังเทพหมุนวนอยู่รอบตัวลี่เหยาเหยา
ส่วนด้านซ้ายมือ เต็มไปด้วยแสงสีเขียวเปล่งประกายจากต้นไม้ใบหญ้า ที่งอกเงยขึ้นมา ด้วยกลิ่นอายพลังชีวิตมหาศาลจากโม่ปิงหยู
‘ พวกเธอสร้างเมล็ดพันธุ์สำเร็จแล้ว…เหลือเพียงกลั่นหลอมพลังทั้งหมดลงไป เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังเซียน ’
จ้าวเทียนพยักหน้าด้วยความพอใจ ตลอดเวลาสองชั่วโมงที่ผ่านมา เขาเป็นคนรักษาระดับพลังเขตอาคมรวมวิญญาณให้สอดคล้องกับพลังที่ทั้งคู่ใช้ไป ทำให้ไม่เกิดปัญหาเหมือนกับตัวเขาในอดีต
ครืนนน!
ดวงแสงสีทองที่ปกคลุมร่างของลี่เหยาเหยาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
แวปป!
มันได้แยกออกจากกันเป็นสองส่วน จากนั้นพลังงานรอบๆทั้งหมดก็ถูกดึงดูดเข้ามาทันที ทำให้เขตอาคมของจ้าวเทียนปรากฏรอยร้าวขึ้น
‘ บ้าจริง…ยัยเทพธิดานั่นตัดสินใจบ้าบิ่นไปแล้ว ’
จ้าวเทียนใช้หินวิญญาณระดับเทพอีกสองก้อน เติมเข้าไปในเขตอาคมเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของพลังงาน และซ่อมแซมไม่ให้เขตอาคมถูกทำลาย
วูปปป
เมื่อได้พลังมหาศาลมาทดแทน ดวงแสงสีทองที่แยกจากกัน ก็ได้ซ่อมแซมตัวเองจนสมบูรณ์ในเวลาไม่นาน
ตอนนี้ทางฝั่งลี่เหยาเหยา มีดวงแสงสองดวงแล้ว เป็นสัญญาณว่ามีเมล็ดพันธุ์เซียนถูกสร้างขึ้นสองอัน
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นการตัดสินใจแบบกะทันหันของเทพธิดาซวนเฉวียน เรื่องมันเกิดจากตอนที่เธอช่วยลี่เหยาเหยาสร้างเมล็ดพันธุ์เซียนสำเสร็จ
เมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพเดิม ที่อยู่ในร่างของลี่เหยาเหยาก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น มันพยายามจะกลืนกินเมล็ดพันธุ์เซียนที่ถูกสร้างใหม่
ทำให้เทพธิดาซวนเฉวียนต้องดึงเมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพเดิมออกมา แล้วกลั่นหลอมมันใหม่ให้เป็นเมล็ดพันธุ์เซียนอีกอัน เพื่อไม่ให้มันกลืนกินกันเอง
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า…ลี่เหยาเหยามีเมล็ดพันธุ์เซียนสองอัน
ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…
วูป!ๆๆๆๆ
เห็นเพียงดวงแสงสีทองทั้งสองกะพริบอย่างถี่รัว แล้วถูกบีบเข้าหากันอย่างช้าๆ จนกระทั่งเมื่อมันรวมกันอย่างสมบูรณ์
ก็ปรากฏร่างจำแลงเทพธิดาขึ้นมาสองคน…
คนแรกมีโครงหน้าเหมือนกับลี่เหยาเหยาทุกอย่าง ส่วนคนที่สองก็คือเทพธิดาซวนเฉวียน ร่างจำแลงทั้งสองปรากฏขึ้นเพียงครู่เดียว แล้วก็สลายหายไป
ตอนนี้ร่างของลี่เหยาเหยาลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ พลังเซียนที่เธอปลดปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัวถึงกับทำให้จ้าวเทียนตกใจ
‘ ตอนนี้เหยาเหยาอยู่ในขอบเขตเซียนระดับต่ำ…แต่พลังที่เธอปลดปล่อยออกมา เกือบจะทัดเทียมกับเซียนระดับสูงเลย ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเมล็ดพันธุ์เซียนของฉัน ’
‘ นี่คงเรียกว่าเมล็ดพันธุ์เซียนแบบคู่ได้ละมั้ง…ทั้งยังเป็นการผสมผสานระหว่างวิถีเทพกับวิถีเซียนอีกด้วย แต่การกระทำในครั้งนี้ของเทพธิดาซวนเฉวียน หากพลาดเพียงนิดเดียว จุดจบมีเพียงความตายเท่านั้น ’
ในขณะที่จ้าวเทียนกำลังครุ่นคิดอยู่
แวป!
ร่างของเทพธิดาซวนเฉวียนก็ปรากฏขึ้นข้างๆลี่เหยาเหยา แต่ตัวเธอในตอนนี้ไม่ใช่เป็นเพียงร่างวิญญาณที่จับต้องไม่ได้อีกต่อไป
เธอมีกายเนื้อเป็นของตัวเอง มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากจะสามารถต่อสู้ได้แล้ว ยังแสดงตัวตนให้คนอื่นเห็นได้อีกด้วย
ซึ่งมันเป็นผลมาจากเมล็ดพันธุ์เซียนแบบคู่…
รอเพียงไม่นานลี่เหยาเหยากับเทพธิดาซวนเฉวียน ก็ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกัน พลังอันมหาศาลระเบิดออกมาเป็นวงกว้าง
“ ผนึก! ”
จ้าวเทียนโบกมือเบาๆ ม่านพลังอันแข็งแกร่งก็ปิดกั้นพลังเหล่านั้นเอาไว้ ไม่ให้โม่ปิงหยูได้รับผลกระทบ
“ พวกเธอเป็นยังไงบ้าง…ลองตรวจสอบร่างกายดู ว่ามีปัญหาอะไรไหม ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ ฉัน…ฉันรู้สึกดีมากเลยตอนนี้ ” ลี่เหยาเหยาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ มันแน่นอนอยู่แล้ว…ฝีมือฉันซะอย่าง ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ” เทพธิดาตัวจิ๋วพูดขึ้นด้วยความภูมิใจ
อันที่จริงเธอเองก็รู้สึกหวาดกลัวเหมือนกันในตอนแรก เพราะไม่เคยมีใครทำมาก่อน และหากเกิดผิดพลาดขึ้นมาก็มีแต่ต้องดับสลายไปเท่านั้น แต่โชคดีที่ไม่เกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้อย่าพูดออกไปเลยดีกว่า
เมื่อเห็นพวกลี่เหยาเหยาไม่เป็นอะไร จ้าวเทียนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาจึงชวนพวกเธอพูดคุยระหว่างรอโม่ปิงหยู
เวลาผ่านไปอีกสามสิบนาที พลังของโม่ปิงหยูจึงค่อยๆสงบลง ดวงแสงสีเขียวได้ถูกดึงดูดเข้าไปในร่างอย่างช้าๆ
บึมมมม!
กลิ่นอายจักรพรรดิโอสถระเบิดออกมาจากร่างของเธออย่างรุนแรง มันกวาดไปทั่วมิติลับแห่งนี้ทันที
พวกจ้าวเทียนยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความโล่งใจ นี่แสดงให้เห็นว่าโม่ปิงหยูควบแน่นเมล็ดพันธุ์เซียนสำเร็จแล้ว ที่เหลือก็แค่รอเวลาให้เธอฟื้นสติ
ทันใดนั้น!
ตูมมม!
พลังอันมหาศาลระเบิดออกมาจากห้องพักของท่านอาจารย์ ทำให้จ้าวเทียนหันไปดูด้วยความตกใจ
วูปปปป!
กลิ่นอายจักรพรรดิโอสถของโม่ปิงหยู ถูกพลังลึกลับดูดกลืนไปอย่างละโมบ เพียงพริบตาเดียวก็หายไปจนหมดไม่มีเหลือ
“ อาจารย์คะ…มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูรู้สึกเหมือนพลังของตัวเองกำลังรั่วไหลออกไป ” โม่ปิงหยูถามขึ้นด้วยความกังวล
“ อาจารย์ก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอกนะ…พวกเราไปดูกันเถอะ ฉันคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับพวกศิษย์พี่หญิง ” จ้าวเทียนเดินนำทุกคนไปทันที
“ นี่คงเป็นร่างวิญญาณที่แท้จริงของศิษย์พี่หญิง…พลังของเธอในตอนนี้ได้บรรลุระดับแดนเทพ หรือถ้าวัดกับตามวิถีเซียนก็คือ เซียนนภา ”
“ เธอต้องการพลังชีวิตอันมหาศาล…เพื่อสร้างร่างกายขึ้นใหม่ เธอกำลังจะเป็นอิสระจากตุ๊กตาแล้ว ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
หลังจากนี้ศิษย์พี่หญิงก็จะได้ไม่ต้องทนอยู่ในร่างของตุ๊กตาหมีอีกต่อไป ท่านอาจารย์จะต้องดีใจแน่ๆ
ตอนนี้ร่างของหลินซูซินที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เริ่มมองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เป็นเพียงร่างพลังงานแสงอีกต่อไป
แวบบ!
ดวงตาของเธอลืมขึ้น ทำให้ประกายแสงสีทองระเบิดออกมา เป็นอณูแสงเล็กๆ
“ ขอบคุณนะ…ถ้าไม่ได้พลังของเธอฉันคงทำไม่สำเร็จ ” หลินซูซินพูดกับโม่ปิงหยูด้วยเสียงอ่อนโยน
เมื่อได้ยินแบบนั้น โม่ปิงหยูก็ยิ้มออกมาอย่างเขินอาย นี่เป็นครั้งแรกที่อาจารย์ป้าพูดชมเธอ
วูปปป!
โม่ปิงหยูรีบส่งพลังไปมากขึ้น เพื่อให้กระบวนการนี้สำเร็จเร็วๆ
“ ยินดีกับศิษย์พี่หญิงด้วยนะครับ/คะ”
จ้าวเทียนกับลี่เหยาเหยาพูดออกมาพร้อมกัน ตอนนี้ร่างกายของหลินซูซินเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว อีกเพียงไม่นานเท่านั้น
“ ฉัน… ”
ในตอนที่หลินซูซินกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง หลินซิงเสวียนที่นอนอยู่ไม่ไกลก็ตื่นขึ้นมาเสียก่อน
ทันใดนั้น สัญลักษณ์บางอย่างก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของหลินซูซิน มันเป็นอักขระรูนสีทองหนึ่งตัวที่จ้าวเทียนไม่เคยเห็น
วูปป
ร่างของหลินซูซินสลายเป็นละอองแสง เข้าไปในตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน
!!
“ นี่…มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ” จ้าวเทียนหลุดปากออกมาอย่างสับสน ลี่เหยาเหยากับโม่ปิงหยูก็งงเช่นกัน
ฮ้าวว
“ หลับสบายจัง ” หลินซิงเสวียนบิดขี้เกียจอย่างสบายตัว เธอหันมามองพวกจ้าวเทียนที่ยืนอึ้งกันอยู่
“ ทุกคน…ทำอะไรกันอยู่เหรอ ”
หลินซิงเสวียนถามขึ้นอย่างไร้เดียงสา หลังมือข้างขวาของเธอ มีอักขระรูนสีทองตัวเดียวกันกับบนหน้าผากของหลินซูซินอยู่
ซึ่งตอนนี้มันได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว…โดยที่ไม่มีใครสังเกต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...