จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 244

เวลาประมาณตีหนึ่ง

ยามเมื่อแสงจันทร์ถูกก้อนเมฆบดบัง จนเกิดเป็นเงามืดปกคลุมทั่วเมืองหยกเขียว ช่วงเวลานี้เป็นจุดบอดของกองกำลังป้องกันเมือง เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นพื้นที่บริเวณรอบนอกได้

พรึบ!

เงาร่างของคนชุดดำจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏกายขึ้นตรงชายป่า ห่างจากกำแพงเมืองไปไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร

“ ท่านแม่ทัพ…ทหารทุกคนพร้อมแล้ว พวกเราจะบุกเข้าไปเลยหรือเปล่า ” ชายหน้าบากคนหนึ่งถามขึ้นเบาๆ สายตาของเขามองไปยังเมืองขนาดใหญ่ตรงหน้า เหมือนหมาป่าจ้องมองฝูงแกะ

‘ เบื้องบนอนุญาตมาแล้ว…หากยึดเมืองนี้ได้ จะเปิดโอกาสให้ปล้นฆ่าเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม ตอนนี้ฉันแทบทนรอไม่ไหวแล้ว ’

“ อย่าใจร้อน…ตามแผนการ พวกเราจะต้องรอจนกว่าสำนักเซียนทั้งหลายเปิดฉากโจมตีศัตรูก่อน จากนั้นพวกเราจึงฉวยโอกาสบุกเข้าไป ” ชายชราผมขาวพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

ชายชราคนนี้มีชื่อว่า ฉินหงจิน เป็นแม่ทัพคู่กายขององค์ชายใหญ่แคว้นต้าฉิน หน้าฉากของเขาเป็นแม่ทัพชายแดนปกป้องแคว้น

แต่เบื้องหลังกลับคอยช่วยทำงานสกปรกให้องค์ชายใหญ่ ตั้งแต่คอยกำจัดศัตรูทางการเมือง ปล้นแย่งชิงเงินทองจากพวกพ่อค้า หรือแม้กระทั่งซ่องสุมกำลังไว้เตรียมก่อการกบฏ หากผลการคัดเลือกองค์รัชทายาทไม่เป็นไปตามที่หวัง

“ ท่านแม่ทัพ…พวกเราจะไว้ใจเซียนพวกนั้นได้จริงเหรอ หากทางสมาพันธ์บู๊ลิ้มเอาผิดขึ้นมา ฉันกลัวว่ามันจะกระทบต่อสถานการณ์ของฝ่ายองค์ชายใหญ่ ” ชายหนุ่มอีกคนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล

โดยปกติเขาจะทำหน้าที่เป็นกุนซือคอยวางแผนการต่างๆให้ ส่วนเรื่องที่ทำในวันนี้เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของแม่ทัพเอง ถึงแม้อีกฝ่ายจะบอกว่าองค์ชายใหญ่อนุญาตแล้ว แต่เขาก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก

‘ สายลับที่ฉันวางตัวไว้แอบรายงานมาว่า…เมื่อวานนี้ลูกชายของท่านแม่ทัพพาผู้อาวุโสสำนักเซียนคนหนึ่งเข้าพบท่านแม่ทัพ จากนั้น วันต่อมาก็มีการเรียกระดมกองกำลังทันที ’

‘ ถ้าฉันเดาไม่ผิด…ผู้อาวุโสคนนั้นคงจะเป็นอาจารย์ของลูกชายท่านแม่ทัพ ซึ่งเป็นยอดฝีมือระดับเซียนของสำนักซงซาน ’

“ เรื่องนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน…อย่าลืมสิ ตอนนี้พวกเราทั้งหมดปลอมตัวเป็นกองโจรเงาทมิฬ หลังจากกวาดทรัพย์สมบัติมาทั้งหมดแล้ว พวกเราก็ค่อยหนีไปหลบซ่อนตัวทำลายหลักฐานทั้งหมดทิ้ง ”

“ เท่านี้ก็ไม่มีใครรู้แล้วว่าเป็นฝีมือของพวกเรา นายลองมองดูเมืองข้างหน้าให้ดี ด้วยขนาดที่ใหญ่โตกว่าเมืองทั่วไปเกือบสองเท่า รวมกับประชากรเกือบสองล้านคน คิดว่ามันจะมีเงินทองมากมายขนาดไหน ”

“ ขอเพียงเรายกทรัพย์สมบัติให้กับองค์ชายใหญ่ไปซักห้าส่วน พระองค์ก็ไม่ทรงตำหนิแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจจะชื่นชมพวกเราด้วยซ้ำ ” แม่ทัพชราพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทำให้พวกคนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆมีสีหน้ายินดีขึ้นมาทันที

แบ่งให้องค์ชายใหญ่ครึ่งหนึ่ง แสดงว่าส่วนที่เหลือก็ย่อมตกเป็นของพวกเขาเอง การค้าดีๆที่ไม่ต้องลงทุนแบบนี้ทำไมจะไม่ทำล่ะ

“ แต่ว่า… ” กุนซือหนุ่มยังคิดจะพูดแย้งออกมา เพราะตัวเขามาจากตระกูลชั้นสูง ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองอยู่แล้ว เหยื่อล่อของท่านแม่ทัพจึงไม่ได้ผลกับตัวเขา

แม่ทัพชราที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกรำคาญขึ้นมา แต่เขาก็เก็บอาการเอาไว้เพราะฐานะของอีกฝ่ายนั้นไม่ธรรมดา หลังจากหยุดคิดครู่หนึ่งก็ตัดสินใจพูดขึ้น

“ เอาอย่างงี้ไหม…หลังจากสำนักคุนหลุนถูกกวาดล้าง ฉันจะให้ผู้อาวุโสจับกุมเซียนสาวหน้าตางดงามให้กับนายหนึ่งคน และผนึกพลังของเธอเอาไว้ นายอยากจะทำอะไรกับเธอก็ได้ตามสบาย ”

เมื่อได้ยินเงื่อนไขนี้ กุนซือหนุ่มก็ชะงักไปทันที แววตาของเขาเปลี่ยนไปด้วยความโลภและหื่นกระหาย เมื่อคิดว่าจะได้เหยียดหยามย่ำยีเซียนสาวผู้สูงส่ง ที่ในอดีตตนเองได้แต่ยอมก้มหัวให้

“ คุณสัญญากับฉันแล้วนะ…อย่าลืมเสียล่ะ ”

“ แน่นอน…ฉันไม่ลืมหรอก ” แม่ทัพพูดออกมาด้วยแววตาดูถูก เขารู้เรื่องความวิปริตของชายหนุ่มคนนี้ดี ในอดีตไม่รู้ว่ามีเด็กสาวกี่คนที่ถูกทรมานจนตายด้วยฝีมือของอีกฝ่าย ก่อนที่จะถูกทางตระกูลส่งตัวให้มาอยู่กับกองทัพเพื่อดัดนิสัย

เมืองหยกเขียวนั้น โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่ของสำนักคุนหลุน ทำให้มีทางเข้าออกแค่เพียงทางเดียว ตราบใดที่ยังมีสำนักคุนหลุนอยู่ ก็แทบจะไม่มีโอกาสบุกโจมตีเข้าไปได้เลย

แต่วันนี้กองกำลังพันธมิตรของสี่ขุนเขากระบี่ ตั้งใจที่กำจัดสำนักคุนหลุนอย่างสิ้นซาก จึงยืมมือกองกำลังทหารของแคว้นต้าฉินเพื่อทำลายเมืองหยกเขียวไปพร้อมกัน เพื่อป้องกันไม่ให้สำนักคุนหลุนฟื้นคืนกลับมาได้อีกในอนาคต

ทันใดนั้น

บูมมมม!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากบนเทือกเขา เป็นการบ่งบอกว่าเขตอาคมปิดกั้นชั้นแรกของสำนักคุนหลุนได้ถูกทำลายไปแล้ว

จากนั้นเสาลำแสงขนาดใหญ่สี่เสาก็พุ่งทะลุท้องฟ้าเบื้องบน มันคือเขตอาคมเคลื่อนย้ายของสี่สำนักขุนเขากระบี่

“ แก…พวกแกกล้าดียังไง ” ทหารคนนั้นพูดยังไม่ทันจบก็กระอักเลือดออกมาแล้วล้มลงสิ้นใจ คมหอกของศัตรูได้บดขยี้หัวใจของเขาไปเรียบร้อยแล้ว

“ ไม่ต้องกลัว…ฉันจะส่งเพื่อนๆแกตามไปในไม่ช้า แกคงรอไม่นานหรอก ฮ่าฮา ” ชายหน้าบากหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ จากนั้นเขาพุ่งออกไปหาเหยื่อคนอื่น

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทั่วทั้งกำแพงเมือง ภายในเวลาไม่นานทหารยามหนึ่งพันคนของเมืองหยกเขียวก็ถูกสังหารจนหมด

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ ศัตรูที่บุกเข้ามาเป็นถึงทหารแกร่งของแคว้นต้าฉินทั้งหมด แต่ทหารที่เฝ้ายามเป็นเพียงทหารของเมืองหน้าด่าน ความสามารถย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว

หลังจากควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ กองกำลังชุดดำเกือบหมื่นคนก็มาตั้งขบวนกันอยู่หน้าประตูเมือง อย่างเป็นระเบียบเหมือนทหารแกร่งที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างโชกโชน

ตึง!

เสียงประตูเมืองขนาดใหญ่ปิดลง นี่เป็นคำสั่งของแม่ทัพชรา เขาไม่ต้องการให้มีคนหนีออกไปได้แม้แต่คนเดียว

“ ทิ้งคนไว้เฝ้าประตูสองร้อยคน…อีกสองพันคนแยกตัวไปก่อความวุ่นวายในเมือง จำไว้พวกนายต้องสังหารพวกตระกูลใหญ่ๆที่อยู่ในลายชื่อให้หมดก่อน ฉันถึงจะอนุญาตให้ทำตามใจชอบ ”

สิ้นเสียงของแม่ทัพชรา กองกำลังสองพันคนก็แยกตัวออกไปทันที

“ ส่วนพวกที่เหลือตามฉันมา…พวกเราจะไปยึดจวนเจ้าเมืองกัน ไม่ว่าจะพบใครก็ฆ่าให้หมด ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เมืองนี้จะกลายเป็นสนามล่าสัตว์ของพวกเรา ” แม่ทัพชราพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ รับทราบ…พวกเราติดตามท่านแม่ทัพไป ”

“ ได้เวลาสนุกแล้วสินะ! ”

“ ฉันจะต้องตัดหัวเจ้าเมืองให้ได้! ”

กองกำลังที่เหลืออีกเจ็ดพันคนโห่ร้องออกมาด้วยความยินดี พวกเขาคือเครื่องจักรสังหารที่ชื่นชอบการฆ่าฟัน เป็นหัวกะทิชั้นยอดในกองทัพ ทั้งเจ็ดพันคนมีระดับผู้เชี่ยวชาญอยู่ถึงสองพันคน

อีกทั้งยังมีปรมาจารย์แฝงตัวอยู่อีกยี่สิบคน เมื่อรวมกับแม่ทัพชราที่เป็นปรมาจารย์ขั้นสูง มันไม่มีทางเลยที่เมืองหน้าด่านอย่างเมืองหยกเขียวจะต่อต้านพวกเขาได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน